พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงแก่สื่อมวลชนถึงมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองว่า รัฐบาลดำเนินการทุกอย่างเต็มที่ โดยสั่งการให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดการแก้ไขปัญหา วัสดุที่เหลือจากการเกษตรเช่น อ้อย ข้าวโพด ฯลฯ ก็ให้นำมาทำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าเกิดประโยชน์มากขึ้น หรือนำไปเป็นวัสดุเชื้อเพลิงในการผลิตพลังงานในโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กในชุมชน แทนการเผาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ใช้มาตรการและวิธีการใหม่ ๆ ที่เหมาะสม ในการดูแลจุดความร้อนหรือฮอตสปอตในพื้นที่ต่าง ๆ รวมไปถึงการขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีปัญหาเรื่องดังกล่าวเช่นกัน
สำหรับการใช้รถขนส่งสาธารณะ ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า รวมทั้งการก่อสร้างก็มีความก้าวหน้าโดยลำดับ หลายเส้นทางก็ได้มีการเปิดใช้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการใช้รถส่วนตัวลงได้บ้าง เพื่อผลดีต่อการจราจร นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความเข้าใจว่า บางกรณีก็มีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวในการรับส่งลูกหลานไปโรงเรียน แต่ขอความร่วมมือในส่วนของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ หากไม่มีความจำเป็นมากนัก ก็ให้หันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะบ้าง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลพยายามดูแลและส่งเสริมรถบริการสาธารณะให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น พร้อมๆ ไปกับการเร่งดำเนินการโครงสร้างพื้นฐาน ถนน เส้นทางต่าง ๆ ทั้งเส้นทางถนนปกติและทางด่วนพิเศษที่ต้องจ่ายเงิน เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มได้เข้าถึงบริการและรับความสะดวกอย่างทั่วถึงตามศักยภาพของแต่ละบุคคล
จากนั้น นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่บางพื้นที่ไม่มีน้ำทำนาปลังว่า จะต้องหาวิธีการเพาะปลูกพืชแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับพื้นที่และสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่ออุปโภคบริโภคของประชาชน โดยขอความร่วมมือประชาชนทุกคนใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะต้องลดปริมาณการใช้น้ำสำหรับการทำการเกษตรลงให้ได้มากที่สุด เพราะมีบางประเทศมีการใช้น้ำทำการเกษตรน้อยกว่าประเทศไทย ซึ่งได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาวิธีการและแนวทางดังกล่าวเพื่อนำมาปรับใช้กับประเทศไทย นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้เตรียมบริหารจัดการการให้ใช้น้ำบาดาลมากขึ้น เพื่อเตรียมรองรับแก้ไขปัญหากรณีน้ำอุปโภคบริโภคขาดแคลนน้ำที่และบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชน
ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงมาตรดูแลความปลอดภัยประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีการประชุมและออกมาตรการและสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งการกวดขันบังคับใช้กฎหมาย การอำนวยความสะดวก การจารจร อาชญากรรม ฯลฯ ส่วนการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ขณะนี้ได้มีการเพิ่มมาตรการเชิงรุกมากขึ้น โดยดำเนินการเป็นไปตามกติกาสากล ในการปฏิบัติหน้าที่ก็ขอให้เจ้าหน้าที่รัฐระมัดระวังดูแลตนเองให้ดี รวมถึงการดูแลประชาชนให้ได้รับปลอดภัย พร้อมขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วย
ขอบคุณเรื่องแนะนำจากกลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก