นายกฯมัคคุเทศก์ นำคณะเข้าพบหารือ รมว.ท่องเที่ยวฯ ผลักดันสภามัคคุเทศก์ เพื่อยกระดับศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิแห่งวิชาชีพ ร่วมหาแนวทางปราบปรามไกด์เถื่อน และทัวร์ผิดกฎหมาย ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย พร้อมคณะ ได้เข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อสนับสนุนนโยบายการจัดตั้งสภามัคคุเทศก์เพื่อให้ปกครองกันเอง และยกระดับศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพ รวมทั้งร่วมหาแนวทางการปราบปรามไกด์เถื่อนต่างชาติ และการทำทัวร์คุณภาพต่ำ ที่หลอกล่อด้วยราคาศูนย์เหรียญหรือราคาติดลบ แล้วนำนักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้าคุณภาพต่ำราคาสูงเกินเหตุ เข้าลักษณะต้มตุ๋นทำให้เสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย จึงจะเร่งแก้ไขปัญหาโดยจะให้ตั้งทีมคณะทำงานปราบปรามไกด์เถื่อนต่างชาติและขยายผลไปยังบริษัทที่ให้มาร่วมทำทัวร์เพื่อให้เป็นทัวร์มีคุณภาพด้วยราคามาตรฐาน
คุณวิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย นำทีมมัคคุเทศก์อาชีพหลากหลายภาษา ได้ร่วมกันให้ข้อมูลแก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต่อกรณีมัคคุเทศก์ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ว่าไม่ได้ขาดแคลนรวมทั้งอีกหลายภาษาที่เรามีอย่างเพียงพอ แต่บางตลาดเป็นเรื่องการทำทัวร์ผิดกฎหมาย จึงใช้ไกด์เถื่อนต่างชาติที่ยอมรับเงื่อนไขที่ผิดหลักปฏิบัติ ที่ไกด์ไทยถูกกฎหมายไม่ยอมทำ เช่น การต้องรับผิดชอบค่าซื้อหัว นักท่องเที่ยว และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ต้องจ่ายแทนบริษัททัวร์ล่วงหน้าให้ก่อน รวมทั้งบางรายก็ไม่จ่ายคืน
ซึ่งส่วนมากจะเป็นบริษัทของต่างชาติโดยใช้นอมินีคนไทยถือหุ้นอำพราง ขัดต่อความเป็นจริง เหล่านี้คือสภาพความเป็นจริงในสังคมการท่องเที่ยวโดยเฉพาะทัวร์จีนนั้น ถูกกลุ่มคนต่างชาติรุกคืบกลืนกินทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ โดยเฉพาะอาชีพมัคคุเทศก์ ซึ่งเป็นอาชีพที่สงวนไว้สำหรับคนไทย โดยจะต้องขอรับใบอนุญาตจากกรมการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ทั้งระบบล้วนมีแต่คนต่างชาติที่เข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการหลอกลวงนักท่องเที่ยวชาติเดียวกัน
โดยใช้ศิลปะวัฒนธรรม จารีตประเพณี อันดีงามของไทย เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงนักท่องเที่ยว โดยผู้ประกอบการทัวร์จีนเหล่านั้น ยังแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ ว่ามัคคุเทศก์ไทยมีไม่เพียงพอ และมีความสามารถไม่เพียงพอ ซึ่งในความเป็นจริง แล้วมีมัคคุเทศก์ที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมการท่องเที่ยวจำนวนมากที่มีความสามารถทั้งทักษะการทำงานและภาษา ซึ่งล้วนเป็นผู้ที่ผ่านการอบรมตามมาตรฐานของกรมการท่องเที่ยวกำหนด จึงเป็นข้ออ้างของผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวที่จะไม่ใช้มัคคุเทศก์ไทยเท่านั้น
ดังนั้น ทางสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ได้ขอให้มีนโยบายชัดเจนโดยทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ควรจะมีมาตรการในการปราบปรามไกด์เถื่อนต่างชาติ พร้อมทั้งขยายผลไปยังบริษัทนำเที่ยวที่ใช้ไกด์เถื่อนต่างชาติผิดกฎหมายด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาในการจับกุมไกด์เถื่อนแต่ละครั้ง แทบจะไม่มีการขยายผลไปยังบริษัทนำเที่ยวเหล่านี้เลย จึงทำให้แก้ปัญหาไกด์เถื่อนต่างชาติยากมาก อีกทั้งบริษัททัวร์เหล่านี้ ยังท้าทายกฎหมาย ออกประกาศรับสมัครไกด์เถื่อนต่างชาติในสื่อออนไลน์กันอย่างโจ๋งครึ่ม พร้อมทั้งประกาศให้ไกด์เถื่อนจะต้องจ้างซิตติ้งไกด์ทุกครั้งที่ทำทัวร์ เพื่อเป็นการตบตาเจ้าหน้าที่แลกกับการไม่ให้ถูกดำเนินคดี และซัดทอดไปถึงบริษัททัวร์ได้ นอกจากนี้ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อท่านรัฐมนตรีที่มีนโยบายชัดเจนในการจะผลักดันให้มีสภามัคคุเทศก์ ในวาระสมัยของท่าน เพื่อยกระดับวิชาชีพและแก้ปัญหาไกด์เถื่อนต่างชาติ และซิตติ้งไกด์ผิดกฎหมาย อย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย
ด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากการให้สัมภาษณ์ตามที่เป็นข่าว ตนเองยอมรับว่าอาจจะได้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่ไม่มีเจตนาที่จะนำไกด์เถื่อนมารับรองนักท่องเที่ยว เนื่องจากอาชีพมัคคุเทศก์เป็นอาชีพสงวนไว้ให้คนไทยเท่านั้น และหากเป็นการสื่อสารที่ทำให้เกิดการเข้าใจผิดต่อผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ก็ต้องขออภัยไว้ในที่นี้ด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของข้อมูลหลักฐานที่สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ได้นำมามอบไว้ให้นั้น ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบ และร่วมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปราบปรามไกด์เถื่อนผิดกฎหมาย อย่างเร่งด่วน โดยให้กรมการท่องเที่ยว และสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย จัดทีมงานร่วมกันออกตรวจสอบกวดขันไกด์เถื่อนต่างชาติผิดกฎหมาย ส่วนในเรื่องการตั้งสภามัคคุเทศก์นั้น ทางกระทรวงฯก็จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือ และจัดตั้งสภามัคคุเทศก์ให้ได้โดยเร็วที่สุดต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน