วันนี้ (25 ธันวาคม 2562) เวลา 10.00 น. ณ บริเวณคลองเทา ตำบลหนองไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามการบูรณาการป้องกันแก้ปัญหาภัยแล้ง จังหวัดชัยภูมิ “โครงการคลองสวย น้ำใส ต้นแบบ จังหวัดชัยภูมิ” เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนเมืองในฤดูฝน และแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งในปีงบประมาณ 2562
โดยเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 6 แห่งในพื้นที่อำเภอเมือง ประกอบด้วย อบจ.ชัยภูมิ เทศบาลเมืองชัยภูมิ และ อบต. 4 แห่ง โดย อบจ. และเทศบาล สนับสนุนอุปกรณ์และเครื่องจักร ได้แก่ รถตีนตะขาบและรถบรรทุกเทท้าย และ อบต.เจ้าของพื้นที่ สนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิงและแรงงานในการขุดลอกลำห้วย ซึ่งผลการดำเนินงานในระยะเวลา 1 ปี สามารถขุดลอกลำห้วย จำนวน 10 สาย ในเขตพื้นที่ 4 ตำบล ระยะทาง 21.338 กิโลเมตร ใช้งบประมาณค่าน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 1.3056 ล้านบาท สามารถประหยัดงบประมาณได้ถึงร้อยละ 80 ของงบประมาณในการจ้างเหมาปกติ ที่จะต้องใช้เงินประมาณ 8 – 9 ล้านบาท และมีแผนจะดำเนินการต่อเนื่องในระยะที่ 2 อีกระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร การดำเนินการดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นกลไกการปฏิบัติราชการที่สร้างความยั่นยืนให้กับส่วนราชการในภูมิภาคและท้องถิ่น ซึ่งเป็นการบูรณาการการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวพบปะกับประชาชนตอนหนึ่งว่า เข้าใจความยากลำบากของพี่น้องประชาชน ในฐานะนายกรัฐมนตรีของประชาชนทั้งประเทศ จะพยายามทำให้ดีที่สุด บริหารราชการให้เดินหน้าต่อไปให้ได้ ภายใต้การทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งการลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิในวันนี้ มาด้วยความรักความห่วงใย มามอบความจริงใจให้กับพี่น้องประชาชน และมาติดตามการดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ เพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน รวมทั้งขับเคลื่อนการแก้ปัญหาภัยแล้งเพื่อลดผลกระทบในการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ เพราะ “น้ำ” เป็นสิ่งสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด และเป็นปัจจัยการผลิตในภาพรวม โดยจังหวัดชัยภูมิประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว 15 อำเภอ 113 ตำบล 1,201 หมู่บ้าน พื้นที่เกษตรกรรมที่ได้รับความเสียหาย กว่า 830,000 ไร่ พี่น้องเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน กว่า 86,000 ราย ทำให้ต้องจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง แก้ปัญหาให้กับทุกคน ด้วยการบูรณา การและผลักดันโครงการต่าง ๆ ในแต่ละพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาช่วงฤดูแล้ง โดยการจ้างงานเพื่อให้ประชาชนมีรายได้ ซึ่งการดำเนินโครงการต้องสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น ทั้งนี้ ท้องถิ่นและประชาชนต้องร่วมมือกันช่วยกันสร้างงานสร้างอาชีพ รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่เพื่อสร้างรายได้ให้ท้องถิ่นด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปถึงการดำเนินโครงการ “คลองสวย น้ำใส” ว่าเป็นโครงการที่ดี เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ร่วมกันแก้ปัญหาในท้องถิ่นของตน ผ่านรูปแบบการสนับสนุนเครื่องจักร น้ำมันเชื้อเพลิง อาหาร และแรงงานอาสาของชุมชนในการขุดลอกลำห้วย เป็นสำนึกรักท้องถิ่นที่น่ายกย่อง ผลที่ได้รับคือ ได้ทั้งน้ำคลอง ได้ทั้งน้ำใจ จึงนับเป็นต้นแบบสำคัญในการสร้างความเข้มแข็ง เพื่อแก้ปัญหา และทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน ภาคเอกชน และหน่วยงานในพื้นที่ สามารถนำไปขยายผลในพื้นที่อื่น ๆ ได้ โดยรัฐบาลก็จะเข้ามาเติมเต็มโครงการในภาพใหญ่ให้ ได้แก่ การหาแหล่งน้ำใหม่เพิ่มเติม การเพิ่มพื้นที่ชลประทาน และการกักเก็บ – ระบายน้ำอย่างเหมาะสมให้กับทุกพื้นที่ เพื่อให้สามารถรองรับทุกสภาพปัญหา ทั้งด้านอุทกภัยและภัยแล้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการได้ ภายใต้งบประมาณ 3,100 ล้านบาท เพื่อการพัฒนาระบบการบริหารจัดการน้ำในระยะยาว สำหรับพี่น้องชาวชัยภูมิ ประกอบด้วยโครงการอ่างเก็บน้ำลำชีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลชีบน อำเภอบ้านเขว้า และตำบลโคกสะอาด อำเภอหนองบัวระเหว
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้ฝากให้ทุกภาคส่วน ทั้ง สส. ในพื้นที่ ภาครัฐ ส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ได้ร่วมมือกันทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน และกล่าวขอบคุณทุกภาคส่วน ที่มีความตั้งใจ ทุ่มเทในการทำงาน เพื่อร่วมกันพัฒนาจังหวัดชัยภูมิ พร้อมกล่าวอวยพรปีใหม่ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลที่ทุกคนเคารพนับถือ อีกทั้งพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้โปรดดลบันดาลพระราชทานพรให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดชัยภูมิทุกคน ประสบแต่ความสุข ความเจริญและสัมฤทธิ์ผลในสิ่งที่พึงปรารถนาโดยทั่วกัน
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทักทายประชาชนที่มาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนร่วมกันร้องเพลงชัยภูมิ ก่อนจะปลูกต้นมะม่วงเขียวเสวย โดยมีประชาชนร่วมกันปลูกหญ้าแฝกบริเวณริมคลองเทา ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปอำเภอภูเขียวเพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินการเพื่อลดการเผาอ้อยและลดค่า pm 2.5 ต่อไป
ขอบคุณเรื่องแนะนำจากกลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก