ข่าวใหม่อัพเดท » ภารกิจ “แม่ทัพเดฟ” ไม่เคยย่อท้อ ยังเดินหน้า จาก 2562 ย่างก้าวเข้าสู่ 2563

ภารกิจ “แม่ทัพเดฟ” ไม่เคยย่อท้อ ยังเดินหน้า จาก 2562 ย่างก้าวเข้าสู่ 2563

28 ธันวาคม 2019
0

ภารกิจ “แม่ทัพเดฟ” ยังเดินหน้า จาก 2562 ย่างก้าวเข้าสู่ 2563

  • ไม่มีอะไรที่ยากแม้จะเป็นงานที่แสนยาก

ช่วงระยะของปี 2562 กำลังเวียนมาบรรจบ กล่าวสำหรับ พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 นายทหารที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยร่วมกับเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชามาโดยตลอด ภารกิจที่อยู่เบื้องหน้าในการดูแลความสงบให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งการดูความเป็นอยู่ในชีวิตและทรัพย์สิน อาชีพการงาน และการร่วมแสวงหาสันติสุข ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นหน้าที่ของทุกคน ไม่มีอะไรที่ยากแม้จะเป็นงานที่แสนยาก เมื่อได้ช่วยกันทำอย่างเต็มที่แล้ว ขอให้ภาคภูมิใจว่าได้เกิดมาทำหน้าที่ของชาติทหารอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

ห้วงปี 2562 ที่ผ่านมา นอกเหนือจากงานดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่และการดำเนินการในส่วนของรัฐบาลที่ทำควบคู่กันไปแล้ว การแก้ไขปัญหายาเสพติดในแต่ละชุมชนก็นับว่าได้ผลอย่างน่าพอใจ สามารถกลั่นกรองผู้เสพที่เป็นลูกหลานหรือพ่อบ้านออกมาจากวงจรอุบาถก์ และการใช้กระบวนการทางกฎหมายจัดการกับบรรดานักค้ายาเสพติดทุกระดับ

“ ตอนนี้ลูกหลานชาวบ้านที่เข้าสู่โครงการบำบัดและส่งเสริมการงานอาชีพภายใต้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าร่วมกับหน่วยงานส่วนราชการอื่น ๆ ก็เป็นไปด้วยดี มีการเปิดศูนย์บำบัดยาเสพติด หลายเคสที่ได้รับการช่วยคืนลูกหลานของชาวบ้านให้เป็นคนดีอีกครั้ง พร้อมอาชีพใหม่ที่รองรับคนว่างงาน หลายรายกลับจากการบำบัดก็เริ่มทำงาน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกเลย พ่อแม่ต่างร้องไห้ดีใจเมื่อได้ลูกกลับคืนมาอีกครั้ง ”

พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ หรือ “บิ๊กเดฟ” เล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้ ยาเสพติดระบาดในชุมชนอย่างมาก เปิดซื้อขายกันว่าเล่นเหมือนร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง คนที่ตกเป็นทาสยาบ้า พอตื่นเช้ามาก็ต้องหาซื้อยาบ้ามาเสพ งานการไม่ทำ สร้างแต่ปัญหา พ่อแม่รวมไปถึงชุมชนต่างเดือดร้อนบ่นเป็นเสียงเดียวกัน

“หลายคนมาเจอผมก็ร้องบอกว่า แม่ทัพช่วยที แม่ทัพช่วยหน่อย เดือดร้อนกันหนักมาก ข้าวของไม่ว่าในบ้าน ในสวน ในป่า มันขโมยได้ขโมยหมดเพื่อเอาไปซื้อยาบ้า ผมไปพบชาวบ้านทุกเวทีก็มีเสียงขอร้องอย่างนี้ทุกครั้งไป ผมก็รับปาก บอกเป็นทุกข์ของชาวบ้านที่มาร้องให้ได้ยิน ผมก็สั่งการไปทันที ไปทำแผนการแก้ปัญหาทั้งระบบ ก็ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเป็นอย่างดี และทางการก็เข้ามาปราบจริงจัง แยกคนเสพไปบำบัด แต่บางชุมชนก็ต้องยอมรับว่าชาวบ้านยังไม่กล้าที่จะให้ความร่วมมือเพราะกลัว ทำให้ผมต้องเปิดโทรสายด่วนทุกช่องทางเพื่ออำนวยความสะดวก คนโทรมาไม่ต้องเปิดเผยตัวตนขอให้แจ้งมา บางทีผมก็ให้เบอร์โทรส่วนตัวกับชาวบ้านไปเลย”

  • ชาวบ้านมีความไว้วางใจแม่ทัพสูงมาก

นายทหารที่เดินเคียงข้างยืนยันได้ว่า สิ่งที่แม่ทัพดำเนินการเข้าคลุกคลีกับชาวบ้านได้ขนาดนี้ เป็นเพราะชาวบ้านมีความไว้วางใจแม่ทัพสูงมาก เพราะเชื่อว่าแม่ทัพจะช่วยได้ แล้วในช่วงเวลาต่อมา ก็เห็นกันแล้วว่า ชาวบ้านได้คนในครอบครัวคืนสู่สังคมอีกครั้งหนึ่ง มีหลักฐานทั้งการปราบปราม การนำตัวผู้เสพในชุมชนไปบำบัด เป็นตัวเลขให้เห็นเลยว่า แตกต่างจากตอนเริ่มโครงการอย่างไร หากแม่ทัพไม่เอาจริงในเรื่องนี้ เชื่อว่ายาเสพติดยังคงระบาดหนักมากต่อไป ชุมชนก็อ่อนแอ จะกลายเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องกันไป เด็กที่เริ่มเติบโตก็มียาบ้าอยู่ใกล้ๆ พวกเยาวชนที่ต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้าก็จะไม่สามารถทำให้ชุมชนเข้มแข็งได้ อยู่ในความเสี่ยงภัย แต่เมื่อชาวบ้านได้เห็นแล้วว่า แม่ทัพและทุกหน่วยงานช่วยได้ มีเสียงขอบคุณเป็นกำลังใจ สิ่งนี้ที่ทำให้แม่ทัพและพวกเราทุกคนที่ช่วยกันทำงานต่างหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งทันที

ผู้ติดตามคณะของแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวว่าหลายครั้งที่ท่านแม่ทัพเดินทางไปเยี่ยมกำลังพล ท่านจะให้ความเป็นกันเอง ไม่ถือตัวเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของเจ้าหน้าที่ทหารที่ต้องดูแลกำลังพล นั่งร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน พูดคุยให้กำลังใจพลทหาร เป็นคุณสมบัติส่วนตัวของแม่ทัพและล้อไปกับนโยบายของ พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่สั่งการดูแลพลทหารใหม่ถือเป็นน้องชายคนเล็กหรือน้องชายคนสุดท้องของหน่วยทหาร กำลังพลต้องอยู่ดี กินดี กองทัพจะต้องดูแลให้ดีที่สุด

“ส่วนการพบปะชาวบ้าน หากเจอเด็ก ๆ ท่านแม่ทัพก็ให้ความเอ็นดูเหมือนลูกหลาน ยืมพูดคุยด้วยอย่างกันเอง ไปเจอชาวบ้านก็นั่งร่วมวง สนทนาภาษาใต้กันอย่างกันเองเพราะท่านเป็นคนใต้อยู่แล้ว ไปเจอผู้นำศาสนาในพื้นที่ก็ให้เกียรติ ไปรับพรอันประเสริฐ ยิ่งไปเจอคนเฒ่าคนแก่ แม่ทัพจะเข้าไปยกมือไหว้ก่อนทุกครั้งเป็นธรรมเนียมประเพณีที่เจอผู้ใหญ่ ผู้อาวุโสกว่าแม้จะนั่งจะนอนอยู่ แม่ทัพจะเดินเข้าไปหาเองไม่ลังเล เข้าไปสวัสดีเหมือนลูกหลานมาเยี่ยมบ้าน เพราะท่านรู้ว่า ผู้เฒ่าผู้แก่เหล่านี้อยากได้กำลังใจจากลูกหลานมากที่สุด เหมือนกับที่ท่านเวลากลับบ้านไปเยี่ยมแม่ที่บ้าน เมื่อคราวท่านได้รับตำแหน่งครั้งใดก็ตาม ท่านจะขอให้แม่ช่วยติดยศที่เสื้อให้ท่านด้วยทุกครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นความกตัญญูที่ท่านไม่เคยลืมบุญคุณผู้เป็นบิดามารดาที่เลี้ยงอบรมสั่งสอนท่านมาให้เป็นคนดี”

  • อะไรที่พลาด ท่านก็ออกมารับเองทั้งหมด

พระสิริจริยาลังการ (ดร.ชรัช อุชุจาโร) เจ้าอาวาสวัดตานีนรสโมสร พระอารามหลวง จังหวัดปัตตานี ได้กล่าวถึงพลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ว่า

“รู้จักตั้งแต่ยังเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 (ผบ.พล.ร.15) ท่านก็เป็นคนที่มุ่งมั่นมากในการทำงานจริงจัง พอเมื่อได้มาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ท่านก็แสดงถึงความจริงใจ มุ่งมั่นมาก ๆ ท่านก็เคยมาคุยให้ฟังว่าปัญหาหลักๆ เลยก็คือการแก้ไขปัญหายาเสพติด ท่านก็จะปราบยาเสพติดให้ได้มากที่สุด เพราะเป็นต้นเหตุของหลายๆ อย่าง และท่านก็เป็นคนที่กล้าทำ ส่วนอะไรที่ทำพลาด ท่านก็ออกมารับหน้าเองทั้งหมด เช่น บางเรื่องที่ไม่เข้าเป้าหรือเรื่องที่สั่งกับลูกน้องแล้วไม่ตรงตามที่หวังหรือวัตถุประสงค์ ปกติบางเรื่องก็มีการผิดพลาด แต่ในการรับผิดชอบของท่านก็สูงมาก ตั้งใจสูงมาก เพราะท่านตั้งใจให้บ้านเมือง ณ ตรงนี้สุขสบาย มีความสุขซึ่งกันและกัน เป็นเรื่องที่ท่านปรารถนาอย่างมาก ก็ได้ให้กำลังใจท่าน ให้ท่านตั้งใจ มุ่งมั่นทำดีให้ถึงที่สุด”

พระสิริจริยาลังการ ได้กล่าวให้ศีลให้พรในช่วงวันที่กำลังย่างก้าวเข้าสู่ปี 2563 ว่า “ปีใหม่นี้ก็ขอให้ท่านประสบความสำเร็จในการทำงาน ปี 2563 ที่จะถึงนี้ก็ขอให้ท่านบรรลุ และทำงานให้สำเร็จตามความประสงค์ เพราะประชาชนชาวบ้านก็รอคอยความหวัง ท่านก็ทำได้ตามที่กำลังของท่าน ทำเพื่อปูเป็นฐานให้ในวันหน้าจะเกิดความสงบสุขจริง ขอให้ท่านประสบความสำเร็จและปลอดภัยในการทำงานพร้อมทั้งลูกน้องที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาทุก ๆ นาย ขอให้ปลอดภัยและประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ทุกคน”

  • ท่านเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่ปัดความรับผิดชอบ

ขณะที่ นางสาวคอลีเยาะ หะหลี แกนนำสตรีอาสาคลายทุกข์ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีโอกาสได้ร่วมการทำงานกับทางกองทัพภาคที่ 4 โดยเฉพาะกับ แม่ทัพเดฟ ว่า ตลอดระยะที่ผ่านมา ท่านมีความจริงใจในการทำงาน หลายเรื่องท่านติดตามเองหมด รับหน้าเองหมด ไม่ปล่อยให้ลูกน้องรับแทนท่าน มองว่าท่านเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่ปัดความรับผิดชอบและปล่อยให้ลูกต้องเผชิญชะตากรรมก้มหน้ารับผิดอยู่ฝ่ายเดียว เพราะคำพูดของท่านที่ลั่นออกไปแล้ว ทำให้หลายส่วนกล้าที่จะตัดสินใจและทำงานตามที่ท่านได้ออกคำสั่ง

“ต้องชื่นชมในการตัดสินใจที่เร็วมาก เพราะถ้าแม่ทัพช้าอีกสักนิด กระแสสังคมจะวิจารณ์หนักกว่านี้และบานปลายเป็นเรื่องอื่น ไม่เป็นผลดีต่อกองทัพแน่ ฉะนั้นเคารพในการตัดสินใจของท่านมาก ที่ท่านออกตัวยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างลูกผู้ชาย และสั่งการให้ดำเนินการตามขั้นตอนไม่มีการแทรกแซง ให้ตรวจสอบได้เต็มที่ บางคนอาจไม่เข้าใจ และมองต่าง ๆ นานา แต่นั้นเป็นสิทธิของทุกคนที่จะคิด ห้ามยาก แต่ยอมรับว่าท่านชัดเจน และเอาจริง ช่วยทำให้กระแสเบาบาง ท่านให้เวลากันเต็มที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริง ท่านจะไม่เข้ามายุ่งหรือมากำกับให้ทุกส่วนทำตามที่ท่านต้องการนั้นไม่มีเลย ในข้อนี้ต้องยอมรับแม่ทัพในความกล้าหาญและกล้าตัดสินใจ ดิฉันขอบคุณคำขอโทษที่ลั่นออกมา เพราะมันช่วยให้สถานการณ์มันเบาลงได้ ขอบคุณจากใจ”

นางสาวคอลีเยาะ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนการแก้ปัญหาอื่น ๆ ของแม่ทัพก็เห็นถึงความพยายามในการปรับแก้ และเปิดโอกาสให้พื้นที่แต่ละพื้นเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของชุมชนด้วยกันเอง ปรับปรุงสภาสันติสุขให้เป็นสภาของชุมชนอย่างแท้จริง จากเดิมที่มีแล้วมันไม่ได้คุณภาพ เป็นสภาของบางกลุ่ม เป็นปัญหามาก แต่หลังจากปรับและท่านเข้าไปนั่งรับฟังเอง ก็เห็นชัดว่าสภาเปิดให้คนที่มีความหลากหลายทางสังคมได้เข้ามาสะท้อนปัญหาของชุมชนตนเอง ก็ถือว่าเป็นการปรับที่ถูกจุด เราต้องยอมรับว่า ถ้าปัญหาในชุมชนมี คนในชุมชนควรออกมาช่วยกัน ไม่ควรปล่อยให้หน่วยงานใดหน่วยหนึ่งขับเคลื่อนอยู่ฝ่ายเดียว ที่ผ่านมาแม่ทัพท่านเดินสายพบปะหลายกลุ่ม ต่างสะท้อนปัญหามากมาย และท่านก็รับเรื่องด้วยตนเอง บางครั้งก็ดูเหมือนท่านจะเหนื่อย แต่ท่านก็เต็มที่ ก็มีที่คืบหน้าแล้วบ้าง และกำลังดำเนินการอยู่ ก็ต้องขอบคุณท่านที่รับฟังปัญหา แต่ก็ขอขอบคุณที่ท่านไม่ปัดความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ออกหน้าทุกครั้งเมื่อเกิดข้อผิดพลาด

ขอชื่นชมอีกเรื่องที่เป็นนโยบายหลักที่ท่านย้ำก่อนที่จะมารับตำแหน่งแม่ทัพคนปัจจุบัน ท่านบอกไว้ท่านจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติด และท่านก็ทำจริง เห็นผลจริง และเปิดพื้นที่ให้ลูกหลานของชาวบ้านได้เข้าบำบัดยาเสพติด ปัญหานี้เป็นที่ยอมรับและได้ใจชาวบ้านมาก ถือว่าท่านมาแล้วไม่สูญเปล่า แต่อีกหลายปัญหาที่ชาวบ้านคาดหวัง และอยากให้ท่านสานต่อให้สำเร็จก็ต้องใช้เวลาพอสมควร” นางสาวคอลีเยาะกล่าว

  • ขอบคุณครับลุงเดฟ ขอบคุณที่มาดูเเลพวกเรา

คราวนี้ลองมาฟังเสียงประชาชนชาวยะลา พิพัฒน์ ดิษฐพงศ์ภักดี ได้กล่าวถึงโอกาสได้สัมผัส พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4

“สิ่งหนึ่งตลอดการทำงานของลุงเดฟที่ผมสัมผัสได้ ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์หรือกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบพยายามจะสร้างเหตุการณ์เพื่อก่อความรุนแรง เพื่อสร้างความหวาดกลัวหวาดระแวงให้เกิดขึ้น เเต่ด้วยการทำงานอย่างทุ่มเทเเละความตั้งใจความจริงใจของลุงเดฟ หลายๆ ภารกิจที่ลุงเดฟได้เข้ามาดูเเลพี่น้องประชาชน ช่วยให้ชาวบ้านอย่างเราได้รู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน คลายความกังวลใจ”

“ยามท่านไปพบพี่น้องชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ บ่อยครั้งที่เห็นลุงเดฟมองมาด้วยเเววตาที่รับรู้ได้ถึงความเข้าใจเเละรู้สึกถึง ส่วนที่ผมเรียกท่านว่า ลุงเดฟ เพราะท่านไม่ใช่อื่นไกลเเต่คือครอบครัวใหญ่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทุ่มเทอย่างจริงจังในการดูแลพื้นที่ให้สงบและเกิดความปลอดภัย และที่มีเสียงชื่นชมมากคือการปราบปรามยาเสพติดที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้จริง ๆ ผมอยากขอโทษลุงเดฟ ที่เมื่อก่อนเคยดูถูกก็แค่โครงการลมปาก จัดทำแล้วก็ทิ้งไป แต่นี้ไม่ทันไร ก็เห็นแล้วว่าประสบความสำเร็จจริงๆ พี่เดฟมีความแกร่งกล้าสามารถครบทุกด้านจริงๆ จนเป็นที่ประจักษ์ของใครหลายๆ คน อยากจะกล่าวคำว่า ขอบคุณครับลุงเดฟ ขอบคุณที่มาดูเเลพวกเรามาเป็นเสมือนญาติมิตร สร้างให้เกิดสันติสุขในพื้นที่นี้” พิพัฒน์ ประชาชนชาวจังหวัดยะลา กล่าว

ขอบคุณข้อมูล : smiledantai

error: Content is protected !!