เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.62 เวลา 00.10 น. : พลตำรวจโท ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1),พลตำรวจตรี นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.),พันตำรวจเอก สรเสริญ ใช้สถิตย์,พันตำรวจเอก กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (รองผบก.น.1) และเจ้าหน้าผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาดังต่อไปนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ตรวจค้นร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและร้านแต่งรถจักรยานยนต์ที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนแต่งรถซิ่ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนซึ่งมีผลการปฏิบัติดังนี้ ตรวจค้นร้านท่อเสีย 27 ร้าน พบการกระทำความผิด 5 ร้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษในการตรวจวัดระดับเสียงและการวัดค่ามาตรฐานที่ถูกต้องตามหลักสากลตรวจวัดระดับเสียงท่อไอเสียที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (95 เดซิเบล) ซึ่งเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมากโดยตรวจรถจักรยานยนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) จำนวนทั้งหมด 47 คัน พบมีท่อไอเสียเสียงดังเกินกว่ามาตรฐานกำหนดจำนวน 16 คัน จึงได้เปรียบเทียบปรับเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท และออกคำสั่งห้ามใช้รถเป็นเวลา 30 วัน
ตรวจยึดรถจักรยานยนต์และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 22 และ 46/2558 โดยได้ยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน 26 คัน และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนได้จำนวน 1 ราย ผู้ใหญ่ 42 ราย รวมทั้งหมด 43 ราย โดยตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและเก็บตัวอย่าง DNA ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา พบสารเสพติดในปัสสาวะ 2 ราย
จากนั้นจึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะว่าผู้ที่ฝ่าฝืนออกมารวมกลุ่มในลักษณะที่จะนำไปสู่การแข่งรถในทางฯเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดตามและใช้เทคโนโลยีสามารถเก็บภาพผู้ที่ออกมารวมตัวแข่งรถฯ
ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย และผู้ขับขี่รถจักรยายนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) ที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชน ยังส่งผลร้ายตามมาอีกมากมายและรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลโดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุมหรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ ส่วนเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการส่งตัวไปเข้ารับการอบรมตามวันเวลาที่จะกำหนดต่อไป
Cr.ทีมงานสนง.ผบก.น.1
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน