ท่านภิญญากล่าวว่า ผมมีข่าวดีเกี่ยวกับพี่น้องที่ใช้ประโยชน์จากใบกระท่อม ซึ่งผมได้ปรึกษากับท่านมานะ ศิริ พิทยาวัฒน์ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการแก้กฎหมายยาเสพติดให้โทษประเภทที่5 (ใบกระท่อม) ที่ผมมีส่วนผลักดันกับทาง ปปส.ตามรูปที่เสนอข้างต้น ที่นำเรื่องกระท่อมพ่วงกัญชาเข้าเสนอต่อ สนช.ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนเรื่องกัญชานี้ จึงเป็นผลดีและต้องขอขอบคุณท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย ที่สนับสนุนเรื่องนี้ เราจึงได้นำเรื่องกระท่อม เสนอพ่วงเข้าไปด้วย ส่วนปปส.ไม่ได้ทอดทิ้งเพราะเราได้ปรึกษากันมาตลอดเกี่ยวกับการแก้กฎหมายของพืชกระท่อม
บัดนี้ทาง ปปส. ได้ร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับกระท่อมเสร็จและได้ส่งกฎกระทรวงนั้นไปยังกระทรวงสาธารณสุขแล้ว จึงขอขอบคุณทางปปส.ไว้ ณ ที่นี้ด้วย ซึ่งทางท่านมานะฯ ได้กล่าวว่าการพิจารณาเรื่องพืชกระท่อมนั้นทางเรามีข้อมูลที่สมบูรณ์ เพราะวุฒิสภารุ่นผมได้ตั้งคณะกรรมธิการวิสามัญศึกษาเรื่องพืชกระท่อมเพื่อให้ออกกฎหมายแก้ไขยกเลิก โดยทางปปส. ได้นำเอกสารที่ผ่านการรับรองมาจากวุฒิสภาเป็นหลัด ในการพิจารณาของปปส. เพราะข้อมูลที่ได้มาจากสภานั้นมีความสมบูรณืแล้ว เนื่องจากคณะกรรมาธิการวิสามัญเรื่องกระท่อมที่ผมนำเสนอมีหน่วยงานจากภายนอกมาร่วมด้วย ซึ่งในกรรมาธิการนั้นประกอบด้วย แพทย์ นักวิจัย, สว., ตัวกระผมเอง, ฝ่ายปกครอง, ตำรวจ, นักกฎหมาย, และอื่นๆอีกหลายหน่วยงาน ปปส.ถือว่าสมบูรณ์ กระทรวงสาธารณสุขสามารถนำไปพิจารณาได้เลย
อนึ่งเงื่อนไขของกฎกระทรวงที่เสนอให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณามีข้อปฏิบิติคร่าวๆ ดังต่อไปนี้
- ห้ามซื้อขายและจำหน่าย
- การบริโภคใบกระท่อมอย่าให้มากเกินไปเพราะเกี่ยวข้องกับสุขภาพ
- ให้บริโภคตามวิถิชาวบ้าน คือการเคี้ยวกิน
- ข้อนี้ยังยืนโทษ เพราะห้ามนำสารอื่นมาผสมแปรรูป ให้ออกฤทธิ์ในทางเสียหายกับสุขภาพ เช่น สี่คูณร้อย เป็นเด็ดขาด
- จะต้องมีการตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลหรืออนามัย
- ทุกชุมชนต้องมีการจดทะเบียนผู้บริโภคและดูแลกันเอง
หากพี่น้องประชาชนทั้งหลายมีความสนใจในเรื่องนี้ อยากให้เหมือนกับที่ปปส.แนะนำ คือให้ไปศึกษาดูงานที่ตำบลน้ำพุ อ.นาสาร จ.สุราษฏ์ธานี เพราะที่นั้นเป็นพื้นที่แม่แบบเรื่องการปฏิบิติเกี่ยวกับพืชกระท่อมของปปส. เพราะที่นั้น ปปส.ได้นำเอกสารของวุฒิสภามาเป็นส่วนพิจารณา
สุดท้ายผมและพี่น้องผู้บริโภคพืชกระท่อมต้องขอขอบคุณ สำนักงานปปส. โดยเฉพาะท่านมานะฯและท่านอดีตสมาชิกวุฒิสภารุ่นผม ที่ลงมติรับหลักการที่คณะกรรมาธิการศึกษาด้วยคะแนน 188 ต่อ 0 แต่เราต้องเสียใจเพราะท่านวุฒิสภารุ่นนั้นได้เสียชีวิตไปหลายท่านแล้ว ขอให้ดวงวิญญาณของท่านทั้งหลายไปสู่สุขคติและทางผมยังคงมีความคิดถึงแด่ท่าน
ตรงนี้เป็นข้อสังเกตุ ตั้งแต่ผมเสนอญัตติเข้าสภา เรื่องกระท่อมยังไม่มีสื่อมวลชนฉบับไหน ทีวีช่องไหน ที่เสนอข่าวและเผยแพร่ต่อพี่น้องประชาชนในทางลบ ผิดกับอย่างเพราะทุกครั้งในการไปประชุมหลายจังหวัดที่คณะกรรมธิการได้เข้าไปศึกษาทางภาคใต้เป็นส่วนใหญ่เพราะเป็นแหล่งกระท่อมและจังหวัดในภาคอื่นๆบ้าง ผู้สื่อข่าวทุกๆท่านได้เข้าไปเห็นวิธีชีวิต ของชาวบ้านอย่างแท้จริง