วันที่ 26 มกราคม 2563 : ทีมโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นำโดย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รอง ผบช.สตม.) และโฆษก สตม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล,พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี,พ.ต.อ.หญิง เอกอาภา ตันศิริ รองโฆษก สตม.,พ.ต.อ.หญิง ทิพวรรณ โยมา เลขานุการกองงานโฆษก สตม. และ พ.ต.ต.หญิง พัชรี ศรีเผือก ผู้ช่วยเลขานุการกองงานโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า
จากกรณีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 ประเทศจีน ได้ประกาศปิดเมืองและปิดสนามบินในเมืองอู่ฮั่น เมืองหวงกัง และเมืองอี้โจว ที่เป็นเมืองต้นทางของการเกิดสถานการณ์ระบาดของโรคติดต่อทางเดินหายใจเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นเหตุให้มีคนต่างด้าวที่เดินทางมาจากเมืองดังกล่าว ไม่สามารถเดินทางกลับไปยังเมืองต้นทางดังกล่าวได้เป็นจำนวนมาก
“ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือนร้อนแก่คนต่างด้าวที่ได้รับผลกระทบจากการปิดเมืองดังกล่าว อันเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และเป็นเหตุให้อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. จึงสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมือง ยกเว้นไม่ทำการเปรียบเทียบปรับเฉพาะคนต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางกลับออกไปนอกราชอาณาจักร ตามนัยมาตรา 54 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522”
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ ยังกำหนดมาตรการเฝ้าระวัง คัดกรอง และแนวทางการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จากเมืองอู่ฮั่น ณ ช่องทางเข้า-ออกราชอาณาจักรด้วย โดยให้เจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติงานเฝ้าระวังคัดกรองโรคผู้เดินทางจากเมืองอู่ฮั่น ที่ช่องทางเข้าออกประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติ 5 แห่ง เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจบุคคลที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น และ/หรือบุคคลผู้อื่น ที่เดินทางมาจากประเทศต้นทางที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อโรคระบาดอื่นๆ ซึ่งเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย
หากตรวจพบให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประสานกับแพทย์ตรวจคนเข้าเมือง หรือเจ้าพนักงานสาธารณสุขประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เพื่อดำเนินการตรวจคัดกรองและส่งตัวผู้โดยสารที่พบสิ่งผิดปกติ หรือมีอาการบ่งชี้ ดำเนินการตามมาตรการทางสาธารณสุขต่อไป โดยไม่ให้กระทบต่อการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของผู้โดยสารอื่นด้วย
ขณะเดียวกันให้เจ้าหน้าที่ประจำช่องตรวจอนุญาต สังเกตพฤติกรรมของผู้ที่มารอรับการตรวจอนุญาต หากพบอาการต้องสงสัยที่อาจเข้าข่ายโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสฯ เช่น มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส ไอแห้ง วิงเวียนศีรษะ หรือหายใจลำบาก เป็นตัน ต้องรีบนำเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง จากเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ หรือแพทย์ตรวจคนเข้าเมือง ในทันที
นอกจากนี้ ให้เพิ่มความละเอียดรอบคอบในการตรวจรายละเอียดข้อมูลบัตร ตม.6 ของผู้โดยสารขาเข้า โดยเฉพาะข้อมูลที่พักอาศัยเพื่อประโยชน์ในการติดตามตัวในภายหลัง กรณีพบว่ามีความเสี่ยงที่จะติดโรค ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่ง ต้องมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ หรือแพทย์ตรวจคนข้ามืองอย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินการตามมาตรการควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสฯ อย่างเต็มความสามารถ ให้หลีกเสี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยที่ต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสฯ และหลีกเสี่ยงการสัมผัสกับสารคัดหลั่ง เช่น เลือด หรือสิ่งของเครื่องใช้องผู้ที่ต้องสงสัยว่าป่วยด้วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสฯ หากมีความจำเป็นที่จะต้องสัมผัสกับบุคคลดังกล่าวให้สวมอุปกรณ์ป้องกันร่างกาย เช่น สวมหน้ากากอนามัย และให้ล้างมือบ่อยๆ เป็นต้น โดยให้ผู้บังคับบัญชา จัดหาอุปกรณ์ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสฯให้เพียงพอ หากมีข้อขัดข้องในการจัดหาอุปกรณ์ฯ ให้รีบรายงานและเสนอความต้องการให้ สตม.ทราบทันที เป็นต้น
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน