วันที่ 29 ม.ค.63 เวลา 10.30 น. จ.นครราชสีมา : พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบช.ภ.3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ แก้วอ่อน ผกก.(สอบสวน) ปรก.สนง.รองผบช.ภ.3 เดินทางมาตรวจเยี่ยม สภ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยมี พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.สภ.ครบุรี นำข้าราชการตำรวจ สภ.ครบุรี ให้การต้อนรับ พร้อมกับพาเดินตรวจเยี่ยมการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจบนโรงพัก
พล.ต.ต.อัคราเดชฯ ได้สั่งกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจให้ปฏิบัติตามข้อสั่งการ ดังนี้
- ให้ดำเนินการตามนโยบาย ตร. และ ภ.3 อย่างเคร่งครัด
- ให้ดำเนินการตามนโยบายการยกระดับการให้บริการประชาชน
- ให้เน้นเรื่องการทำจิตอาสา เข้าไปช่วยเหลือประชาชน
- การเก็บร่วมรวมข้อมูลท้องถิ่น ข้อมูลบุคคล ข้อมูลสถานที่ ข้อมูล CCTV การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการทำงาน ต้องเป็นปัจจุบัน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวน
- การจัดทำแผนผังและการรวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวิดีโอวงจรปิด
- ให้เน้นย้ำ ผู้บังคับบัญชาดูแลความเป็นอยู่ของผู้ใต้บังคับบัญชา เอาใจใส่ความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพนักงานสอบสวน
- การปฎิบัติตามระเบียบตำรวจว่าด้วยการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจเมื่อเเต่งเครื่องแบบ ปี พ.ศ.2561 และเน้นย้ำเรื่องระเบียบวินัย
- ให้รักษาความสะอาดของอาคารสถานที่
- การพัฒนาความรู้ของข้าราชการตำรวจในด้านต่างๆ
- กำชับการบันทึกข้อมูลระบบ CRIMES ให้ครบถ้วน
- การปฏิบัติหน้าที่ตามหลักยุทธวิธี
- ให้หัวหน้าสถานีดูแลสวัสดิการข้าราชการตำรวจ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
- การเตรียมการวางแผนรับมือภัยแล้ง
- ให้มีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ กรณีจับกุมคนต่างด้าวให้นำไปตรวจสอบกับเครื่อง BIOMETRIC ด้วย
- ด้านความมั่นคง ให้ตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่มีความเคลื่อนไหว กลุ่มแกนนำต่างๆ และผู้สนับสนุน ผู้อยู่เบื้องหลัง และแหล่งเงินทุนเอาไว้อย่างต่อเนื่อง จัดทำข้อมูลการข่าวไว้ เพราะหากมีการจัดการชุมนุมเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบอีกจะได้ดำเนินการวางแผนอย่างเป็นระบบ และป้องกันเหตุได้
- ให้เน้นย้ำการใช้งานระบบขอหมายจับ ออนไลน์ AWIS
- ให้ใช้ประโยชน์การค้นหสข้อมูลระหว่างหน่วยงานยุติธรรม (Data Exchange Center) ดำเนืนการกวดขันจับกุมคดีจราจร 10 ข้อหาหลัก
- สืบสวนหาข่าวเกี่ยวไวรัสโคโรนา ในพื้นที่ด้วย
ทั้งนี้ข้าราชการตำรวจ สภ.ครบุรี ทุกนายรับนโยบาลจากผู้บังคับบัญชา นำไปปฎิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อการปฎิบัติหน้าที่จะได้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
Cr.ตุ๋ย-อาชญากรรม-หน.ศูนย์ข่าวนครราชสีมา
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน