อ้างเบื้องสูงหลอกชาวบ้าน ตั้ง “คณะปฏิรูปไท” พบเป็น กลุ่มมิจฉาชีพและบุคคลที่ไม่หวังดีปั้นโครงการประหลาดหลอกลวงชาวบ้าน ซ้ำเติมคนไทยด้วยกัน
ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา มีเอกสารชักชวนให้ชาวบ้านในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้สมัครเข้า “โครงการรักแผ่นดินเกิด” กระจายไปทั่วพื้นที่ โดยใช้คำว่าว่า “โครงการของพ่อหลวง” ที่สื่อนัยถึงสถาบันเบื้องสูง แต่กลับไม่ระบุแหล่งที่มา และไม่มีรายละเอียดชื่อเสียงเรียงนามขององค์กรเจ้าของโครงการ
เป้าหมายที่ให้ชาวบ้านสมัครกันมากๆ ก็เพื่อตั้ง “คณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักรไทสยาม” โดยจะมีคณะกรรมการที่ว่านี้เรียกว่า “คณะมนตรี” ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด หลายพื้นที่มีโครงสร้างของ “คณะปฏิรูปฯ” ออกมาแล้ว มีภาพตัวบุคคลในโครงสร้างชัดเจน แต่ไม่แน่ชัดว่าได้รับความยินยอมจากบุคคลที่ปรากฏในภาพ สมัครใจเป็น “คณะปฏิรูปฯ” จริงหรือไม่
มีข้อมูลว่าที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีประชาชนสนใจสมัครเข้าร่วม “คณะปฏิรูปฯ” จำนวนไม่น้อย เพราะกลุ่มคนที่มาชักชวนอ้างว่า หากใครที่สมัครเข้าไปแล้วได้รับเลือกเป็นประธานคณะมนตรีระดับหมู่บ้านและตำบล จะได้เงินเดือนเดือนละ 20,000 บาท ผู้ชำนาญการณ์หรือที่ปรึกษาได้ 30,000 บาท ส่วนกรรมการที่เป็นชาวบ้านได้ 10,000-15,000 บาทต่อเดือน
กลุ่มคนที่ชักชวนชาวบ้านอ้างว่า เป็นองค์กรที่ไม่ใช่หน่วยราชการ แต่เป็นภาคประชาชน มีสิทธิ์เสนอสิ่งดีๆ ให้กับคนไทยภายใต้กรอบกฎหมายและรัฐธรรมนูญ โดยไม่จำเป็นต้องได้รับฉันทานุมัติจากหน่วยงานราชการ เมื่อโครงการเกิดขึ้นจริง ก็จะมีเงินเข้าบัญชีชาวบ้านและคนที่ได้รับเลือกเป็นกรรมการคณะปฏิรูปฯทุกคน
กิจกรรมที่ชักชวนชาวบ้านทำ ก็เน้นเรื่องจิตอาสา และส่งเสริมการขุดเจาะพลังงาน เพื่อให้ราคาน้ำมันลดเหลือลิตรละ 8 บาท อันจะช่วยลดต้นทุนการผลิตทุกด้านของพี่น้องประชาชน ทำให้คนไทยอยู่ดีกินดี แต่โครงการที่ฟังดูดีเริ่มมีข้อสงสัย เพราะแม้จะสมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แถมยังสมัครได้โดยการยื่นเอกสารโดยตรง และผ่านทางออนไลน์ แต่เมื่อชาวบ้านสมัครเข้าไปจริงๆ แล้ว กลับมีการขอเรียกเก็บสมุดบัญชีธนาคาร บัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งก็เริ่มขอเงินค่าดำเนินการคนละ 3,000 บาทบ้าง 10,000 บาทบ้าง โดยใครที่ยอมจ่าย จะสามารถกู้เงินได้ 1 ล้านบาท ทำให้ชาวบ้านเริ่มสงสัย เพราะคล้ายคลึงกับแชร์ลูกโซ่ที่เคยตกเป็นข่าว จึงออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานรัฐเร่งตรวจสอบ
ชาวบ้านรายหนึ่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ข้อมูลว่า มีการเรียกเงินสมาชิกคนละ 3,000 บาท อ้างว่าจะสามารถกู้ได้ 1,000,000 บาท พอเกิดเรื่องแบบนี้จึงไม่อยากจะเชื่อ เพราะตอนแรกบอกว่าไม่เสียเงิน แต่คนที่สมัครสมาชิกก็ให้สำเนาบัตรประชาชนกับบัญชีธนาคารไปหมดแล้ว
จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า โครงการนี้แพร่ไปในหลายจังหวัด โดยใช้วิธีการเดียวกับที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เฉพาะในภาคอีสานพบแล้ว 4 จังหวัด คือ อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และมหาสารคาม ส่วนภาคตะวันตก พบหลักฐานที่ จ.ตาก มีการปล่อยข่าวว่า ประธานใหญ่ของโครงการนี้ ซึ่งไม่ระบุตัวตน ตั้งเป้าหาสมาชิกให้ได้ 12-36 ล้านคนภายในเดือน ก.พ.63
โดยล่าสุด พล.ต.ธิรา แดหวา ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างเบื้องสูง มีการหาสมาชิกในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เบื้องต้นพบว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และมีชาวบ้านสอบถามเข้ามา คาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มมิจฉาชีพเพื่อหลอกนำเอกสารหลักฐานต่างๆ ของชาวบ้านไปทำธุรกรรมทางการเงิน
ขณะที่ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ไม่เคยเห็นโครงการแบบนี้ ไม่ใช่ของจริงแน่นอน จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนไม่ให้หลงเชื่อ ส่วนทางกองทัพจะประสานไปยังฝ่ายตำรวจ เพื่อดำเนินการตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป
#ศูนย์ประชาสัมพันธ์
#กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า
ขอบคุณข้อมูล : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า – เพจใหม่