ข่าวใหม่อัพเดท » “บิ๊ก​อู๊ด” เข้มงวดกวดขันและทำการเฝ้าระวังไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่

“บิ๊ก​อู๊ด” เข้มงวดกวดขันและทำการเฝ้าระวังไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่

7 กุมภาพันธ์ 2020
0

“บิ๊ก​อู๊ด” เข้มงวดกวดขันและทำการเฝ้าระวังไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ที่ทำให้เกิดปอดอักเสบ กำลังสร้างความหวั่นวิตกให้แก่ผู้คนทั่วโลก

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เข้มงวดกวดขันและทำการเฝ้าระวังไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ที่ทำให้เกิดปอดอักเสบ กำลังสร้างความหวั่นวิตกให้แก่ผู้คนทั่วโลก ซึ่งติดต่อได้อย่างรวดเร็วทางทางเดินหายใจและทางอากาศ ซึ่ง รัฐบาลมอบหมายให้ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.), พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ชิงดวง ผบช.สตม. เข้มงวดกวดขันในการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่มาจากประเทศเป้าหมาย หรือสัญชาติเป้าหมาย โดยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข หรือแพทย์ตรวจคนเข้าเมืองในการช่วยกันตรวจ และสกัดกั้นบุคคลที่อาจจะต้องสงสัยเพื่อตรวจสอบให้แน่ชัด​ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจึงได้วางมาตรการต่อสู้กับไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่เพื่อเป็นการดูแลพี่น้องประชาชนให้ปลอดภัยจากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่หลายมาตรการ ดังนี้

1.จัดตั้งศูนย์บริหารเหตุการณ์ เฝ้าระวังและติดตามการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (War Room) เป็นศูนย์บริหารเหตุการณ์ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา มีหน้าที่ ติดตามสถานการณ์ของการแพร่ระบาดทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเฝ้าระวังข่าวการระบาดทางเว็บไซต์ต่างๆ ที่เป็นแหล่งข้อมูลทางการ หากเป็นข้อมูลสื่อสาธารณะ หรือข่าวสารทั่วไปที่อาจก่อให้เกิดความสับสน จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และมีการประชุมทางไกลผ่านจอภาพร่วมกับหน่วยงานในสังกัด ทุกวัน ในเวลา 09.00 น. ห้วงเวลาการปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 263 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมี พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และมี พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม. เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน

2.การติดตาม และตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยติดเชื้อในพื้นที่ความรับผิดชอบ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้สั่งการให้ ตม.ทุกจังหวด จัดชุดปฏิบัติการไปติดตาม ตรวจสอบคนต่างด้าวสัญชาติจีนหรือสัญชาติอื่นๆ ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งอาจมีอาการบ่งชี้ว่าติดเชื้อ และพำนักอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โดยมีการประสานกับ หน่วยแพทย์กลุ่มภารกิจด้านการปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข ไปร่วมตรวจสอบด้วย และทำการประชาสัมพันธ์แจ้งเจ้าของที่พัก สถานประกอบการ ให้ช่วยสังเกตและดูแลคนต่างด้าวที่เข้าพักอาศัย หากพบว่ามีอาการน่าสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบทันที โดยมีสถิติการออกตรวจสอบ ดังนี้

บก.ตม.1, บก.ตม.2, บก.ตม.3, บก.ตม.4, บก.ตม.5​ และบก.ตม.6​ รวม (ราย ) 183,1,231,201,6,133,284 และ2,038 สถิติการการเดินทาง เข้า-ออก​ สถิติการการเดินทาง เข้า-ออก สัญชาติ จีน​ ตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค.2562 ถึง ปัจจุบัน (6 ก.พ.63) ต้นทางการเดินทางจำนวน (คน) ประเทศจีน

  1. เข้าประเทศ​ 1,004,067 คน
  2. ออกนอกประเทศแล้ว​ 889,576 คน
  3. ยังอยู่ในประเทศ​ 114,491 คน

อู่ฮั่น​
1.เข้าประเทศ​ 23,933 คน
2.ออกนอกประเทศแล้ว​ 21,895
3.ยังอยู่ในประเทศ​ 2,038

กว่างโจว
1.เข้าประเทศ​ 103,944 คน
2.ออกนอกประเทศแล้ว​ 91,688 คน
3.ยังอยู่ในประเทศ​ 12,256 คน

เมืองอื่นๆ
1.เข้าประเทศ​ 876,190 คน
2.ออกนอกประเทศแล้ว​ 775,993 คน
3.ยังอยู่ในประเทศ​ 100,197 คน

3.ยกเว้นค่าปรับ กรณี อยู่เกินกำหนดอนุญาต สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดเมืองและปิดสนามบินในเมือง เมืองอู่ฮั่น เมืองหวงกัน และเมืองอี้โจว เป็นเหตุให้คนต่างด้าวที่เดินทางมาจากเมืองดังกล่าวไม่สามารถเดินทางกกลับไปยังเมืองต้นทางได้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ยกเว้นไม่ทำการเปรียบเทียบปรับการอยู่เกินกำหนดอนุญาต (OVER STAY) เฉพาะคนต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางกลับออกไปนอกราชอาณาจักร

ส่วนผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เดินทางมาจากเมืองอื่นและได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว หากไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ ให้ติดต่อขอหนังสือรับรองจากสถานทูตจีนในประเทศไทย รับรองว่ามีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ในประเทศไทยอีก และหากได้รับหนังสือรับรองจากสถานทูตจีนประจำประเทศไทย คนต่างด้าวสามารถอยู่ต่อได้อีกไม่เกินครั้งละ 30 วัน ซึ่งมีผู้ที่ขอหนังสือจากสถานทูตมายื่นขออยู่ต่อที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองบ้างแล้ว

สุรเชษฐ​ ​ศิลา​นนท์​ รายงาน​

error: Content is protected !!