วันนี้ได้ฟังการแถลงข่าวขี้แจง ปมร้อนๆ ของ”บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรักษ์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชา การทหารบก ในคดีจ่าคลั่งกราดยิงสังหารโหดเหยื่อ 29 ชีวิต( ไม่รวมผู้ก่อเหตุ ) บาดเจ็บอีก 58 คน
ที่มีคำถามร้อนๆจากสังคม คาใจอยู่หลายประเด็น ตั้งแต่การละเลยให้มีการทำธุรกิจในค่ายทหาร การใช้อำนาจความเป็นนายกดขี่ ข่มเหง มือสังหารรายนี้ ลามไปถึงการปล่อยให้ ชิงอาวุธพร้อมกระสุนและวัตถุระเบิดจากคลังหน่วยทหาร รวมทั้งรถจิ๊ปทหารโดยง่าย
การสกัด จู่โจม ไล่ล่าคนร้าย เป็นไปอย่างล่าช้า ไร้ประสิทธิภาพ จนเป็นเหตุบานปลาย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
การรักษาการณ์คลังอาวุธที่ขาดนายทหารชั้นสัญญาบัตรกำกับดูแลรับผิดชอบที่สำคัญ
หลังการลงมือสังหาร นายทหารระดับ พ.อ.พร้อมแม่ยาย และนายหน้า ค้าบ้านจัดสรรสวัสดิการ คนร้ายยังจี้สังหารพลทหาร ที่ทำหน้าที่ทหารรักษาการณ์เสียชีวิต
คนร้ายใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ชิงเอาอาวุธใส่รถจี๊ปตรากงจักร หลบหนีออกจากค่ายทหารโดยง่ายดาย
จากนั้นคนร้ายยังขับรถไกลออกไปประมาณ 9 กม. เข้าไปภายในวัดป่าศรัทธารวม มีการยิงต่อสู้กับตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ สภ.อ.เมืองนครราชสีมา ทั้งยังใช้ปืนกลกราดยิงผู้บริสุทธ์ เสียชีวิตรวมกัน 9 ศพ และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง
คนร้ายใช้เวลาจุดนี้ 1 ชั่วโมง ไม่มีกำลังทหารหรือตำรวจที่เป็นกองกำลังประสิทธิภาพมาหยุดความบ้าระห่ำไปได้
ที่สุด
ไอ้คลั่งรายนี้ ยังมุทะลุห้อตะบึงรถจิ๊ปทหารพร้อมอาวุธหนัก ระยะทางไกลออกไปอีก 10 กม.
ไปก่อเหตุต่อที่ห้างสรรพสินค้าเทอมินอล 21 ใจกลางเมืองโคราช สาดกระสุนใส่ทั้งรถยนต์และผู้บริสุทธิ์อย่างอุกอาจ รุกคืบเข้าไปภายในห้าง ในวันที่มีประชาชน นำลูกเล็กเด็กแดง เข้าไปใช้บริการจำนวนหลายพันคน
สังหารเหยื่อแบบไร้มนุษยธรรม ไม่เว้นผู้หญิงและเด็ก
แม้เหตุการนี้จะจบโดยการวิสามัญฆาตกรรมคนร้าย ที่ต้องแลกกับความสูญเสียอย่างมากมาย แม้กระทั่งชีวิตตำรวจหน่วยอรินทราชอีก 2 ชีวิต
” ผบ.แดง” แสดงความเสียใจทั้งน้ำตา ยอมรับความผิดพลาดจากมูลเหตุกราดยิงมาจากการฉ้อโกงเงินในการทำธุระกิจในค่ายทหาร การรังแกบีบคั้นผู้ใต้บังคับบัญชา แต่กลับมองเป็นประเด็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับหน่วยงาน
ยอมรับถึงการชิงอาวุธสงครามจากคลังอาวุธทหารโดยง่าย มีพลทหารถูกฆ่าตาย ถือเป็นความสูญเสีย
แต่ยืนยัน มีมาตรการควบคุมที่รัดกุมอยู่แล้ว แต่คนร้ายเป็นคนในหน่วย จึงรู้ไส้รู้พุงอย่างดี ยากแก่การป้องกัน
ไม่มีหลุดปากสักคำ ว่านายทหารเวรรักษาการวันนั้นเป็นใคร ?? ขณะเกิดเหตุขาดหายไปไหน ?? หน่วยงานนั้นจะต้องสอบสวนและรับผิดชอบยังไงบ้าง??
การสกัด ติดตามไล่ล่า ปะทะติดตามสกัดกั้นคนร้าย ภายในค่ายทหารมีความล่าช้า ไร้ประสิทธิภาพ
จนกลายเป็นเหตุบานปลายมีเหยื่อผู้บริสุทธ์เสียชีวิตไปจำนวนมาก
“บิ๊กแดง” ปัดความรับผิดชอบในส่วนนี้
แต่รับปากในการแถลงข่าว เป็นสัญญาประชาคม ว่า จะเร่งปัดกวาดปัญหาภายในค่ายทหาร ในเรื่องธุระกิจในค่าย จะจัดการเด็ดปีกนายทหารแบบไม่เกรงใจใคร ไม่เว้นนายพล นายพัน และนายร้อย จะทำคนพวกนี้ให้ตกงาน ถ้ามีข้อมูลว่าทำธุรกิจในค่าย
รับปากจัดการกับทหารที่เกษียณอายุราชการแล้วไม่ยอมย้ายออกจากบ้านพัก เพื่อเปิดโอกาสให้กับพวกที่รับราชการอยู่ ขีดเส้นตาย ภายใน 1ถึง2 เดือนนี้
แต่จะไม่ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบจากเหตุกราดยิงครั้งนี้ เพราะมองว่า คนร้ายก่อเหตุด้วยเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวหน่วยงาน
ทั้งแอ่นอกยืนยัน ขอรับผิดชอบญาติๆผู้เสียชีวิตทุกรายที่ยื่นแสดงความจำนงค์ เพื่อรับลูกหลานเข้าเป็นทหารโดยไม่มีข้อแม้
ขณะที่”บิ๊กแดง” อ้างถึงวีรเวรของทหารคลั่งผู้ก่อเหตุ ให้ถือเป็นอาชญากร จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจในการบังคับใช้กฏหมาย มีผบ.ตร.เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ทหารจะใช้กำลังสนับสนุนในกรณีร้องขอเท่านั้น
ประเด็นนี้ น่าจะถูกต้อง หากมองถึงสถานการณ์บานปลาย แต่อยู่ในอำนาจที่ตำรวจควบคุมได้
“บิ๊กแดง” ยืนยัน ไม่อยากให้คิดแบบสร้างความแตกแยก ทุกฝ่ายบูรณาการกันทั้งหมด
ประเด็นหลังจากนี้ สิ่งที่ยังค้างคาใจผู้สูญเสียและผู้เสียหาย ก็คือ บรรดารถยนตร์ รถจักรยานยนต์ ที่ถูกยิงพรุนเสียหาย ใคร?? รับผิดชอบ เพราะบริษัทประกันคงปฏิเสธภาระนี้แน่ และความเสียหายของห้าง หน่วยงานไหน ?? จะเป็นเจ้าภาพเยียวยา
การบำบัดจิตใจเหยื่อและครอบครัวมีประสิทธิภาพไหม ??
ที่รับไม่ได้อีกเรื่อง ขอฝากไว้ก็คือ การชันสูตรศพเหยื่อกระสุนที่ล่าช้า ใช้เวลาข้ามมาหลายวัน
ทำไม ?? ไม่มีคนสั่งการระดมแพทย์มาชันสูตร เพราะญาติพี่น้องเหยื่อที่มาจากทุกสารทิศ ต้องมากินนอนรอความหวังรับศพไปบำเพ็ญกุศล
ทำได้ไม๊ ให้รวดเร็ว เฉกเช่น เหยื่อกระสุนที่เป็นข้าราชการ
ทั้งหมดนี้ ไม่ได้ด่าทหาร
ด่ากองทัพบก แต่จงใจกระแซะ”บิ๊กแดง” โดยเฉพาะ เพราะท่านยืนยันต่อหน้าสื่อแล้วว่า เหตุการณ์นี้ให้ด่า หรือลงที่ท่านได้ ท่านยินดีรับสภาพแต่เพียงผู้เดียว.
อิทธิเดช ลุย.