ข่าวใหม่อัพเดท » นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบสัญญาเช่าในโครงการ “บ้านของเรา ก้าวไปด้วยกัน”

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบสัญญาเช่าในโครงการ “บ้านของเรา ก้าวไปด้วยกัน”

17 กุมภาพันธ์ 2020
0

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานมอบสัญญาเช่าในโครงการ “บ้านของเรา ก้าวไปด้วยกัน” โดย กคช. ณ ศูนย์ชุมชนโครงการเคหะร่มเกล้า 2 ส่งเสริมสร้างความมั่นคงในที่อยู่อาศัย ย้ำสร้างความเสมอภาคเท่าเทียม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน

วันนี้ (17 กุมภาพันธ์ 2563) เวลา 09.00 น. ณ โครงการเคหะร่มเกล้า 2 ถนนร่มเกล้า เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานใน…พิธีมอบสัญญาเช่าในโครงการ “บ้านของเรา ก้าวไปด้วยกัน” โดยการเคหะแห่งชาติ โดยมี นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้กล่าวรายงาน ซึ่งมี นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ คณะผู้บริหารการเคหะแห่งชาติ และประชาชนผู้อยู่อาศัยในโครงการฯ เข้าร่วมงาน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบสัญญาเช่า โครงการบ้านเช่าราคาพิเศษให้แก่ผู้เช่าชุดแรก จากโครงการเคหะร่มเกล้า 2 และโครงการเคหะลาดกระบัง 2 จำนวน 50 ราย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคงในระยะยาว จำเป็นต้องคำนึงถึงทรัพยากรบุคคลเป็นศูนย์กลางการพัฒนา มุ่งสร้างคนไทยให้เป็นพลังสำคัญในการสร้างความมั่นคงของชาติ พัฒนาคนไทยทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี คนเก่ง มีศักยภาพ มีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ทั้งในภาคการผลิตและภาคบริการเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงเศรษฐกิจฐานรากและผู้มีรายได้น้อย สร้างความเสมอภาคเท่าเทียมกันในสังคม ตลอดจนการสร้างความมั่นคงทางด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประชาชนชาวไทยมีพลังกาย พลังใจ ในการช่วยกันพัฒนาประเทศชาติ

ขณะเดียวกัน รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กำหนดกรอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะยาวของประเทศ เพื่อให้เป็นแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านการอยู่อาศัยของประชาชน ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยมุ่งเน้นการบูรณาการ และการสอดคล้องกับนโยบาย และทิศทางการพัฒนาประเทศด้านอื่น ๆ มีเป้าหมายให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่วในปี 2579 มีปริมาณที่อยู่อาศัยที่กลุ่มเป้าหมายรับภาระได้อย่างเพียงพอ รวมทั้งสามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคต ให้มีความมั่นคงในที่อยู่อาศัยและได้รับความคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค

นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ที่อยู่อาศัยจะต้องมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ถูกสุขลักษณะ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในชุมชนที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และตั้งอยู่ในชุมชนที่มีสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่เหมาะสมเพียงพอต่อการอยู่อาศัย มีการบริหารจัดการการอยู่อาศัยที่มีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง ส่งเสริมกระบวนการบริหารจัดการการอยู่อาศัยที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการขับเคลื่อนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยกันผลักดันและบริหารจัดการพื้นที่พักอาศัยให้ผู้ที่มีสิทธิ์ได้มีโอกาสเท่าเทียมกันในการเป็นเจ้าของที่พักอาศัย ด้วยตระหนักดีว่าเราทุกคน ย่อมต้องอยากมีบ้านเป็นของตนเอง บ้านเป็นสถานที่ส่วนบุคคล ที่สร้างความสุข ความผ่อนคลาย และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในครอบครัว บ้านจึงเป็นสถานที่แห่งความอบอุ่น เป็นที่ที่ทำให้คนในครอบครัวนึกถึงและอุ่นใจที่ได้อยู่ และเป็นแหล่งพักพิงที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยมากที่สุด

นายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติ ดูแลบ้านของประชาชนเป็นอย่างดี เพื่อเป็นบ้านที่มีคุณภาพสูงสุด และนายกรัฐมนตรีรู้สึกยินดีกับพี่น้องประชาชนที่ได้สิทธิเช่าและเข้าอยู่ในโครงการที่มีคุณภาพ ทั้งโครงการเคหะร่มเกล้า และโครงการเคหะลาดกระบัง 2 ที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจพัฒนาให้เป็นชุมชนเข้มแข็ง พร้อมขอให้ทุกคนภาคภูมิใจกับชุมชนของตนเอง ช่วยกันดูแลรักษาที่อยู่อาศัย ทั้งการจัดการขยะ การสร้างพื้นที่สีเขียว ช่วยกันปลูกต้นไม้ในบ้านให้ร่มรื่นน่ามอง รวมถึงการรักและสามัคคีกันในชุมชน พร้อมทั้งการส่งเสริมให้เป็นชุมชนต้นแบบที่ปลอดยาเสพติด

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติ ที่ดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล จัดทำโครงการ “บ้านถูกทั่วไทย” ในครั้งนี้ ทำให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน และขอขอบคุณหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทุกฝ่ายที่ร่วมกันให้การสนับสนุนโครงการจนประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูธนิทรรศการและบูธกิจกรรมชุมชน โดยภายในงานมีการจัดแสดงบูธต่าง ๆ อาทิ บูธตลาดเคหะประชารัฐ ตลาดบวรร่มเกล้าซึ่งได้รับรางวัลตลาดสะอาดได้มาตรฐานระดับเงิน จากกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี 2548-2561 ได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัลสุดยอดตลาดลาดกระบัง ในปี พ.ศ. 2558 และได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวด ชุมชนสดใส จิตใจงดงาม ประจำปี 2562 บูธสาธิตการทำผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และชมบูธโครงการประเมินผลระดับความสำเร็จในการพัฒนาชุมชนเข้มแข็งพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน พร้อมเยี่ยมชมห้องตัวอย่างของโครงการ ด้วย

ขอบคุณข้อมูล : กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก ดูเพิ่มเติม

error: Content is protected !!