ข่าวใหม่อัพเดท » นายกรัฐมนตรี มอบเงินกองทุนฯ สำนักนายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รุนแรง ณ จ.นครราชสีมา

นายกรัฐมนตรี มอบเงินกองทุนฯ สำนักนายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รุนแรง ณ จ.นครราชสีมา

19 กุมภาพันธ์ 2020
0

นายกรัฐมนตรีมอบเงินกองทุนฯ สำนักนายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รุนแรง ณ จ.นครราชสีมา ย้ำให้บริหารจัดการให้ดี ใช้เงินให้เกิดประโยชน์

วันนี้ (19 ก.พ.63) เวลา 08.40 น. ณ หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสีย…ชีวิตจากเหตุรุนแรง ที่เกิดขึ้น ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช โดยมอบเงินช่วยเหลือสำหรับผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 79 ราย จากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี และมอบเงินกรณีผู้เสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 ของกระทรวงยุติธรรม โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมเป็นสักขีพยาน สำหรับผู้บาดเจ็บสำหรับรายอื่นๆ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมาจะได้ประสานครอบครัวผู้เสียชีวิตและ เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาให้ตามภูมิลำเนาต่อไป

โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวรายงานความช่วยเหลือว่า คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรีอนุมัติเงินกองทุนฯ จำนวนทั้งสิ้น 34 ล้าน 8 แสนบาท สำหรับผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท จำนวน 27 ราย (ยกเว้นผู้ก่อเหตุและคู่กรณีซึ่งอยู่ระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริง) กรณีบาดเจ็บสาหัสรายละ 2 แสนบาท จำนวน 21 ราย และมอบเงินช่วยเหลือกรณีบาดเจ็บจำนวน 36 ราย รายละ 1 แสนบาท รวมทั้งความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นๆ ทั้งเงินช่วยเหลือเยียวยา ความช่วยเหลือกรณีทรัพย์สินเสียหาย ฟื้นฟูร่างกายผู้บาดเจ็บ ทั้งคุณภาพชีวิตและสภาพจิตใจ จากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ เอกชนและประชาชน ตามระเบียบฯ กฎหมายที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน (ในกรณีเป็นผู้ประกันตน) กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และสวัสดิการจากหน่วยงานต้นสังกัดตามสิทธิของแต่ละบุคคล รวมทั้งยังมีเงินบริจาคผ่านจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้พบปะให้กำลังใจครอบครัวญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุรุนแรง พร้อมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้สูญเสียและผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะนี้ขึ้นอีก ทั้งนี้ “นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานความช่วยเหลือบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ พร้อมพระราชทานพระราชกระแสแสดงความเสียพระราชหฤทัยและพระราชทานกำลังใจ ให้พวกเราก้าวผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยความมีสติ มีปัญญา รักสามัคคี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งเราจะต้องน้อมนำพระราชกระแส แปรเปลี่ยนเป็นพลังในการขับเคลื่อนการดำรงชีวิตให้เดินข้างหน้าต่อไป” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกรัฐมนตรียังย้ำด้วยความห่วงใยว่า เงินเยียวยาเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งจะมีความช่วยเหลืออื่นๆ ทยอยเพิ่มเติมจากหลายๆ หน่วยงาน ขอให้เข้าใจว่า ทุกชีวิตมีค่า เงินจำนวนเท่าใดก็ไม่อาจทดแทนความสูญเสียได้ อยู่ที่จะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามความช่วยเหลือเยียวยาที่ผู้ได้ผลกระทบให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด และตามพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงให้มีการชดเชยเยียวยาโดยเร็วที่สุด ซึ่งนายกรัฐมนตรียังสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาและทุกภาคส่วนประสานงานร่วมกันดูแลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทุกคน และย้ำถึงเงินเยียวยาว่า มีค่าเพราะแลกมาด้วยชีวิตของญาติพี่น้อง ขอใช้ให้เกิดประโยชน์ วางแผนจัดระเบียบบริหารการจัดการใช้เงินอย่างคุ้มค่า พร้อมเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน เพราะทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน ขอให้มีกำลังกายและใจที่เข้มแข็งเป็นพลังขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไป

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางต่อไปยังศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อเยี่ยมผู้ประกอบการร้านค้าในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราชต่อไป

ขอบคุณข้อมูล : กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก ดูเพิ่มเติม

error: Content is protected !!