นายกรัฐมนตรีติดตามงานปรับปรุงภูมิทัศน์และความคืบหน้างานติดตั้งระบบเดินรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต
วันนี้ (19 กุมภาพันธ์ 2563) เวลา 15.30 น. ณ บริเวณสวนรักษ์ธรรมชาติ (วงเวียนหลักสี่) ถนนพหลโยธิน เขตบางเขน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมติดตามความคืบหน้าในการปรับปรุงภูมิทัศน์และงานติดตั้งระบบเดินรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต โดยมีพลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งภาคีเครือข่ายร่วมให้การต้อนรับ โอกาสนี้ นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อมกล่าวบรรยายสรุปการปรับปรุงภูมิทัศน์สวนรักษ์ธรรมชาติที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิดสวนสาธารณะลดฝุ่นละออง (PM 2.5) ว่า ได้เลือกต้นไม้ที่สามารถดักจับฝุ่นอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น คลอเดีย รวงผึ้ง ข่อยและกระดุมทอง ซึ่งโครงการ “สวนรักษ์ธรรมชาติ” เป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 80 พรรษา และให้เป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับประชาชน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้พบปะและทักทายพี่น้องประชาชน และได้ร่วมปลูกต้นรวงผึ้งและต้นยางนาร่วมกับประชาชนและตัวแทนนักศึกษาจาก 3 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร และมหาวิทยาลัยเกริก เพื่อเป็นที่ระลึกในการติดตามความคืบหน้างานติดตั้งระบบเดินรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีวัดพระศรีมหาธาตุในครั้งนี้ด้วย โดยได้กล่าวชื่นชมการสร้างสวนรักษ์ธรรมชาติว่า พี่น้องประชาชนสามารถใช้เป็นที่พักผ่อน พบปะ ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกัน การส่งเสริมให้เกิดความรักความสามัคคีในหมู่ประชาชน อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก พื้นที่ต้องมีแสงสว่างเพียงพอ รวมทั้งการปรับปรุงภูมิทัศน์ เพิ่มเติมต้นไม้ที่สามารถช่วยลดฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่ส่วนอื่นๆ ตามความเหมาะสมต่อไป
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ โดยนายพานุรักษ์ กลั่นนุรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักจราจรและขนส่ง ได้สรุปความคืบหน้างานติดตั้งระบบเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ประกอบด้วย 4 สถานี คือ สถานีกรมป่าไม้ สถานีบางบัว สถานีกรมทหารราบที่ 11 และ สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน 2563 นี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวตอนหนึ่งว่า โครงการฯ นี้ สามารถเอื้อประโยชน์ให้แก่ประชาชนที่สัญจรไปมาได้เป็นอย่างมาก รัฐบาลจะเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างถนน โดยกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมทางหลวงท้องถิ่น เพื่อพื้นที่ประเทศไทยสามารถเชื่อมโยง ลดความแออัด และสร้างประโยชน์แก่พี่น้องประชาชน แต่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันพัฒนาประเทศ ก้าวทันสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง พร้อมร่วมกันแก้ไขปัญหาในทุกมิติ นายกรัฐมนตรียังย้ำให้ประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาล พร้อมจะเดินหน้าพัฒนาประเทศโดยไม่ทิ้งประชาชนไว้ข้างหลัง
ขอบคุณข้อมูล : กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก