วันนี้ (๑๒ มิ.ย.๖๒) เวลา ๐๙.๓๐ น. พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. ได้เปิดเผยว่ากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้จัดการประชุมหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. ครั้งที่ ๔/๒๕๖๒ สรุปผลการปฏิบัติงานในรอบเดือนที่ผ่านมา โดยมีผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงของ กอ.รมน. (ส่วนกลาง) และผู้แทนของ กอ.รมน.ภาค ๑ – ๔ เข้าร่วมประชุมฯ บริเวณชั้น ๓ อาคารรื่นฤดี กอ.รมน. โดยมี พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เลขาธิการ กอ.รมน. เป็นประธานการประชุมฯ สรุปเรื่องที่สำคัญ ดังนี้
เรื่องแรก กอ.รมน.กระทำพิธีมอบธงสัญลักษณ์รับรองครัวเรือนปลอดภัยยาเสพติด กองทุนแม่ของแผ่นดิน
กอ.รมน.โดย ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ ๒ ได้ดำเนินการทำพิธีมอบธงสัญลักษณ์รับรองครัวเรือนปลอดภัยจากยาเสพติด กองทุนแม่ของแผ่นดิน ในพื้นที่ อ.กันทรลักษณ์ จว.ศรีสะเกษ และ อ.เมือง จว.หนองคาย ในห้วงเดือน พฤษภาคม ๒๕๖๒
สืบเนื่องจากสถานการณ์ยาเสพติดที่ผ่านมาของหมู่บ้านมีการใช้สารเสพติดอย่างแพร่ระบาด ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กอ.รมน.จังหวัดศรีสะเกษ ,กอ.รมน.จังหวัดหนองคาย ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งประชาชนในพื้นที่ จึงได้ร่วมกันบูรณาการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบโดยใช้หลักชุมชนดูแลชุมชน ใช้มาตรการตามกฎชุมชนเข้มแข็ง ให้ได้รับความรู้ความเข้าใจ
ในการขับเคลื่อนโครงการแม่ของแผ่นดิน มีระบบเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดของหมู่บ้าน ใช้แนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้เป็นหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ปลอดภัยจากยาเสพติด สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมุ่งเน้นลดจำนวนทั้งผู้ค้าและผู้เสพทุกชุมชนอย่างยั่งยืน จากผลการปฏิบัติสามารถลดการแพร่ระบาดของยาเสพติดได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้เกิดการยอมรับทางสังคมด้วยกันให้อภัยซึ่งกันและกัน และดำเนินเศรษฐกิจพอเพียงควบคู่กันไปเพื่อให้เป็นหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
เรื่องที่สอง กอ.รมน.ให้ความรู้ด้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และสร้างกลุ่ม LINE
เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ด้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ
กอ.รมน.โดยศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ ๓ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้
ด้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาแก่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและ กอ.รมน.จังหวัด ทั้งนี้เพื่อให้รับทราบนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามและป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา อีกทั้งเป็นการบูรณาการร่วมกันของส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาบุคคลากรของรัฐและเตรียมความพร้อมของบุคคลากรให้มีความรู้มีความสามารถ มีจิตสำนึก ติดตามและตรวจสอบมีส่วนร่วมในการป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตามนโยบายของรัฐบาล
นอกจากนี้ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ ๓ ได้พัฒนาสร้างเครือข่ายมวลชน ในการ
เฝ้าระวัง ติดตามและตรวจสอบ สถานการณ์ด้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่ กอ.รมน.ภาค ๔ ได้แก่ กอ.รมน.จังหวัดระนอง , กอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต และ กอ.รมน.จังหวัดกระบี่ สำหรับเครือข่ายมวลชนดังกล่าวประกอบด้วย กลุ่มเครือข่ายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน , อาสารักษาดินแดน ,กลุ่มวิทยุเครื่องแดง และเครือข่ายองค์การทหารผ่านศึก (อผศ.) รวมทั้งกลุ่มประมงพื้นบ้าน ในการอบรมครั้งนี้ผู้เข้ารับการอบรมฯ จะได้รับการถ่ายทอดความรู้ เรื่องสถานการณ์และแนวโน้มการก่อการร้ายข้ามชาติ
ที่จะมีผลกระทบต่อประเทศไทย และประเภทของอาชญากรรมข้ามชาติในภูมิภาคอาเซียน
สำหรับรูปธรรมที่ได้ดำเนินการแล้วจากการอบรมฯสามารถสร้างเครือข่ายผู้นำชุมชน ที่เข้มแข็งมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะในการเฝ้าระวังและรายงานข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ทันเวลา โดยได้มีการจัดตั้งกลุ่ม LINE เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารในเรื่องการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เพื่อจะได้แจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไขหรือระงับเหตุไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นในพื้นที่ โดยมียอดมวลชนที่เข้าร่วมกลุ่ม LINE ในพื้นที่ กอ.รมน.จังหวัดระนองจำนวน ๒๔ คน , กอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต จำนวน ๗๕ คน และ กอ.รมน.จังหวัดกระบี่ จำนวน ๒๐ คน
เรื่องที่สาม การขยายผลความคืบหน้าโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
การเสริมสร้างความมั่นคงเป็นกิ่งงานหนึ่งในการปฏิบัติตามแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ จชต.ในการพัฒนาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคง ปัจจุบันมีการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบการพัฒนาแบบพึ่งพาตนเองแบบยั่งยืนในพื้นที่ จชต. ดังนี้
๑. โครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน อ.เบตง จว.ยะลา โครงการก่อสร้างทางอากาศยานดำเนินการก่อสร้างทางวิ่ง ทางขับและลานจอดอากาศยาน
มีความคืบหน้า ๖๘ เปอร์เซ็นต์ อาคารที่พักผู้โดยสารมีความคืบหน้า ๖๐.๑๘ เปอร์เซ็นต์ คาดว่าสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี ๖๓ สรุปยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าพื้นที่อำเภอเบตง
ในปี ๒๕๖๑ จำนวน ๓๘ ล้านคน สามารถสร้างรายได้เป็นจำนวนเงิน ๒ ล้านล้านบาท ปัจจุบันมีการปรับปรุงทางหลวงและเพิ่มช่องจราจรเพื่อเพิ่มความสะดวกในการสัญจร รวมทั้งการสร้างอุโมงค์ลอดภูเขาบนทางหลวงหมายเลข ๔๑๐ ยะลา – เบตง และปรับปรุงภูมิทัศน์ที่พักริมทางจากเบตงไปสู่ทะเลสาบฮาลาบาลา เสร็จเป็นที่เรียบร้อย
๒.โครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต อ.จะนะ จว.สงขลา เป็นการขยายผลเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนไปสู่เมืองต้นแบบที่ ๔ เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต
๓. โครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนการค้าชายแดนระหว่าง
ประเทศ อ.สุไหงโก-ลก จว.นราธิวาส ประกอบด้วย ๓ โครงการได้แก่ โครงการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า และศูนย์กลางตลาดสินค้าการเกษตร , โครงการโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์สถานีรถไฟ สุไหงโก-ลก ส่งเสริมการจัดตั้งสถานีขนส่ง (คลังสินค้า) ปัจจุบันมีความก้าวหน้าร้อยละ ๘๐ ของงานทั้งหมดและโครงข่ายเชื่อมโยงคมนาคมและสะพานแห่งที่ ๒ ข้ามแม่น้ำโกลกเพื่อเตรียมจัดเขตปลอดภาษี
รวมถึงก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำระหว่างประเทศที่ อ.ตากใบ จว.นราธิวาส ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาในระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล
๔.โครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ไปสู่เมืองต้นแบบเกษตรอุตสาหกรรมก้าวหน้าผสมผสาน อ.หนองจิก จว.ปัตตานี ได้แก่การสร้างโรงงานกลุ่มวิสาหกิจแปรรูปหญ้าเนเปียร์ให้เป็นแหล่งศูนย์กลางในการปลูกหญ้าเนเปียร์แปรรูปเป็นอาหารสัตว์ และพัฒนาพื้นที่โรงงานเป็นตลาดชุมชน เพื่อเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจชุมชนต่อไป
เรื่องสุดท้าย ความคืบหน้าการลงทะเบียนซิมการ์ดสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่ จชต.
กอ.รมน.ภาค ๔ ส่วนหน้า ร่วมกับ กสทช.จัดอบรมให้ความรู้ในการลงทะเบียนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่ จชต. เรื่อง “ มาตรการจัดระเบียบการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่
ในพื้นที่ จชต.” เพื่อเป็นการระงับยับยั้งเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความสงบสุขของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งเพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยของผู้ใช้บริการทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยขอความร่วมมือจากผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ใช้งานอยู่ในเขตพื้นที่ จว.ยะลา ,จว.ปัตตานี จว.นราธิวาส และ ๔ อำเภอของ จว.สงขลา (นาทวี ,จะนะ , เทพา และ สะบ้าย้อย) ซึ่งยังไม่ลงทะเบียนซิมการ์ดด้วยระบบ “ตรวจสอบอัตลักษณ์” ต้องไปแสดงตนพร้อมบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อลงทะเบียนใหม่ ณ จุดให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ให้บริการหรือหน่วยงานสังกัดกรมการปกครองหรือ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ หน่วยงานอื่นตามที่ได้รับแจ้งจากบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในห้วง ๑ มิ.ย.๖๒ ถึง ๓๑ ต.ค.๖๒ ซึ่งหากไม่ดำเนินการตามที่ได้รับแจ้งหรือตามห้วงเวลาจะไม่สามารถใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่หมายเลขนั้นได้ ทั้งนี้ขอความร่วมมือจากผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่อยู่นอกพื้นที่ หากมีความประสงค์จะใช้บริการโทรศัพท์ในเขตพื้นที่ข้างต้นจะต้องติดต่อไปยังผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยกด
๑๖๕๖* หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก กด # และ กดโทรออก (ทุกระบบ) จึงจะสามารถใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่หมายเลขนั้นได้ โดยมีผลตั้งแต่ ๑ พ.ย.๖๒ เป็นต้นไป