เมื่อ 23 กพ.63 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมนราธิวาส สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่าย เข้าบังคับใช้กฏหมายกับกลุ่มคนร้ายและได้ปะทะขึ้นบริเวณเขาตะเว ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พบผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 5 ราย ที่เหลือหลบหนีไปได้
โดยสามารถตรวจยึดอาวุธปืนสงคราม จำนวน 6 กระบอก ประกอบด้วยเอ็ม 16 จำนวน 5 กระบอก และอาก้า 1 กระบอก พร้อมสัมภาระจำนวนหนึ่ง โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดตรวจพิสูจน์หลักฐานได้เข้าจุดเกิดเหตุตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ เพื่อยืนยันศพกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรทั้ง 5 ศพคือใครบ้าง
พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า สั่งการให้ชุดที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว เบื้องต้นได้รับรายงานว่าเหตุปะทะบนเขาตะเว ยืนยันเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่โจมตี ชคต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส โดยการตรวจสอบอาวุธปืนที่ยึดได้ พบเป็นอาวุธปืนยาวที่ถูกปล้นไปจากกองพันพัฒนา 4 จำนวน 1 กระบอก และเป็นอาวุธปืนที่แย่งชิงไปจากเหตุโจมตีและปะทะกับ อส.ชคต.ร่มไทร 1 กระบอก เหตุเกิดเมื่อ 12 ม.ค.63 ที่ผ่านมา ที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบความเขื่อมโยงกับการก่อเหตุอื่นๆในพื้นที่
นอกจากนี้ยังตรวจยึดระเบิดและอุปกรณ์ระเบิดในเป้สนาม 15 ใบ อีกเป็นจำนวนมาก คาดว่าคนร้ายเตรียมการออกก่อเหตุขนาดใหญ่ในพื้นที่ แต่โชคดีที่เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่เสียก่อนที่กลุ่มดังกล่าวจะสามารถไปก่อเหตุร้ายต่างๆ ให้เกิดความสูญเสียขนาดใหญ่ได้
พล.ท.พรศักดิ์ แม่ทัพภาค 4 กล่าวว่าเหตุปะทะครั้งนี้ถือเป็นอีกส่วนสำคัญของการเปิดแผนจรยุทธ์ฟื้นเขาตะเวให้ปลอดภัย แก้ปัญหาที่ดินทำกินให้ชาวบ้านที่ร้องไปยังรัฐบาลว่าการดำเนินการต่าง ๆ ล่าช้า เพราะปัญหาเกิดจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่สามารถเข้าพื้นที่ตรวจสอบต่างๆ ได้ จึงจำเป็นต้องให้มีการปิดล้อมพื้นที่ภูเขา เพื่อบังคับใช้กฎหมาย ตัดการสนับสนุนไม่ให้มีการส่งเสบียง หรือให้การช่วยเหลือกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในทุกกรณี ทั้งต้องจำกัดเสรีการปฏิบัติของผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อยู่ในเขตพื้นที่ป่าเขาด้วยชุดจรยุทธ์ เข้าไปดูแลพื้นที่รอบเขา ซึ่งแผนดังกล่าวทุกคนต่างก็ทราบกันมาก่อนแล้ว ทั้งนี้ต้องขอบคุณชาวบ้านที่คอยช่วยแจ้งข้อมูลเบาะแสอย่างต่อเนื่องและยังคงให้มีการบังคับใช้กฏหมายต่อไป หากชาวบ้านคนใดยังคงมีความจำเป็นต้องเขาไปยังพื้นที่ป่าเขาก็ให้แจ้งต่อหน่วยรับผิดชอบพื้นที่ หรือกำนันผู้ใหญ่บ้านในภูมิลำเนาทราบก่อนดังเคยปฏิบัติมา เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดและขอความร่วมมือช่วยกันเห็นหูเป็นตา ช่วยกันนำสันติสุขกลับมาสู่พื้นที่โดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.กองกำลังจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เปิดเผยในส่วนกลุ่มก่อเหตุรุนแรงที่เสียชีวิตทั้ง 5 ราย เป็นกลุ่มนายชุลกิฟลี มาน๊ะ ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับคดีความมั่นคง โดย 1 ใน 5 อาจเป็นนายยากี เวาะงอย ซึ่งต้องรอยืนยัน โดยเฉพาะข้อมูลจากญาติที่มารับศพคนอื่นๆ ด้วย จึงอยากให้รอความชัดเจนอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูล : เสียงเล่าจากปลายด้ามขวาน