พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงแนวทางการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ น้อมนำแนวทาง เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ยึดกระบวนการยุติธรรม
เมื่อวันที่(25 ก.พ.63) เวลา 22.00 น. ณ อาคารรัฐสภา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงเรื่องแนวทางการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า รัฐบาลได้น้อมนำแนวทาง เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เป็นหลักในการแก้ปัญหามาโดยตลอด ที่ผ่า…นมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ส่งผลให้เกิดความสูญเสีย บาดเจ็บทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ รัฐบาลได้บูรณาการการทำงานระหว่างกอ.รมน. และ ศอ.บต. รวมถึงหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความสงบและการพัฒนาในพื้นที่ หากหน่วยงานใดเกิดปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนสามารถร้องเรียนมายังรัฐบาลได้ตลอด ขอย้ำว่ารัฐบาลเปิดรับข้อมูลจากทุกฝ่าย และติดตามดูสถิติการเกิดเหตุ เพื่อเป็นตัวชี้วัดกลไกและมาตรการการแก้ปัญหาทั้งด้านนโยบายและงบประมาณ ซึ่งรัฐบาลมีการจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ในกลุ่มจังหวัดดังกล่าวเพื่อนำงบประมาณและนโยบายการพัฒนาเข้าสู่พื้นที่ ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง และที่สำคัญอีกปัจจัยหนึ่งคือ กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็น กลไกสำคัญที่จะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย มีกฎหมายที่ดูแลและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งรัฐบาลจะเร่งรัดดูแลกระบวนการเยียวยาให้ดีที่สุด
ในมิติการพัฒนา ที่ ศอ.บต รับผิดชอบนั้น ขณะนี้ได้มีการขับเคลื่อนโครงการ สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ที่มุ่งหมายให้เกิดการพัฒนา และการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างยั่งยืนและทันสมัย ทั้งนี้ การศึกษานับว่าเป็นมาตรการสำคัญในการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ และปัจจุบันในพื้นที่มีรูปแบบการศึกษาหลายรูปแบบ แต่รัฐบาลยังคงให้ความสําคัญระบบการเรียนการสอน 2 ระบบควบคู่กันไปคือ ระบบการศึกษาสามัญ และการสอนศาสนา
วันนี้ ไม่ต้องการให้ทุกฝ่ายไปเน้นย้ำต้นเหตุของปัญหาว่ามาจากความแตกต่างของชาติพันธ์ เพราะทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคมพหุวัฒนธรรม และในปัจจุบันประชาชนในพื้นที่นั้นมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการยกเลิก พ.ร.บ. ฉุกเฉิน ในหลายพื้นที่ ใช้ทหาร หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ดูแล แต่กระนั้น ในหลายพื้นที่ยังคงมีความรุนแรงอยู่ โดยเฉพาะในเวลาพลบค่ำที่ยากจะแยกแยะว่าใครเป็นใคร รวมทั้งลักษณะพื้นที่ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญและดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ประชาคมต่างประเทศ เช่น OIC คณะทูตต่างประเทศ ก็มีความร่วมมืออันดีกับรัฐบาล มีการลงพื้นที่ดูสถานการณ์ เพื่อนำไปพิจารณาสู่ความร่วมมือในการแก้ปัญหาอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูล : สำนักโฆษก