๑.บทสรุปผู้บริหาร
จากการติดตามสถานการณ์ข่าวที่เกิดขึ้นจากการนำเสนอของสื่อมวลชนภายในประเทศในช่วงวันที่ ๒๒-๒๘ ก.พ. ๖๓ พบว่า มีข่าวเชิงบวก ๗๕ ข่าว จากที่มี ๗๘ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕-๒๑ ก.พ. ๖๓) ในส่วนของข่าวเชิงลบที่เกี่ยวข้องกับ จชต. มีข่าวเชิงลบ ๓๒ ข่าวในสัปดาห์นี้ จากที่มี ๑๙ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕-๒๑ ก.พ. ๖๓)
ประเด็นข่าวเชิงลบ ได้แก่
- การพูดคุยเพื่อสันติสุข: ตรวจสอบเส้นทางการ ‘พูดคุย’ ที่บีอาร์เอ็นชนะตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ผู้กำหนดเกมเป็น ‘ต่างชาติ’ ที่ต้องการเห็นการแบ่งแยก
- เหตุร้ายรายวัน: แฉบึ้มสะบ้าย้อยเป็น จยย.บอมบ์ ยอดคนเจ็บพุ่ง ๑๐ ราย เด็ก ๓
- การเมือง: ๑) ‘กมลศักดิ์’ ชี้ ‘บิ๊กตู่’ ล้มเหลวแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้-ปัญหายาเสพติด, ๒) มอ.ปัตตานี นัด แฟลชม็อบ พรุ่งนี้! และ ๓) รายงานพิเศษ: มุมมองต่อปฏิบัติการ’ไอโอ’ของรัฐ
ประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่
- ยาเสพติด : ยะลาจับเครือข่ายยาบ้า
- เศรษฐกิจ และการสร้างรายได้: ๑) สุดขอบฟ้าท้าเที่ยวไทย: เบตง อัยเยอร์เวง, ๒) กาแฟธารโตพืชเศรษฐกิจที่เติมเต็มเรื่องในอดีต, ๓) ท้องถิ่นพูด: ฉัตรชัย กิติไพศาล ผอ.ศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา ‘การพัฒนากาแฟในอ.ธารโต-เบตง’, ๔) SME D Bank ลงพื้นที่เยี่ยมกิจการลูกค้า หนุนเข้าถึงสินเชื่อ SME D ยกกำลัง ๓พร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบนโยบาย สาขานราธิวาส และ ๕) รายงาน: ‘ยักษ์ปิโตรเคมี’ กว้านที่ดิน ๑.๗ หมื่นไร่ ร่วมปั้นภาคใต้สู่’ศูนย์กลางพลังงานโลก’
- การ รปภ.ชีวิต/ทรัพย์สิน: ๑) ทหารปะทะรอบ ๒ ไล่ล่าบนเขาตะเวดับแนวร่วมเพิ่ม ๑, ๒) นราธิวาสกู้ทันระเบิดฝัง จยย., ๓) มีชุดสร้างหลักฐาน เท็จหลัง ก่อเหตุ…หนึ่งในสาเหตุต้องใช้ กม.พิเศษดับไฟใต้, ๔) ‘เลขาฯสมช.’ ระบุ รอ ‘กอ.รมน.ภาค ๔’ แจงเหตุวิสามัญคนร้าย เขาตะเว และ ๕) รู้ตัวมือวางระเบิด จยย.บอมบ์ สะบ้าย้อย ฝีมือ’อุสมัน เจ๊ะมิน’
จากสถานการณ์ข่าวที่เกิดขึ้นจากการนําเสนอของสื่อมวลชน ส่งผลให้ระดับการรับรู้เชิงบวกที่มีต่อสถานการณ์ จชต. ในสัปดาห์นี้ ลดลง จาก ๒.๓๖ ในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕ -๒๑ ก.พ. ๖๓) เป็น ๑.๖ ในสัปดาห์นี้
ในส่วนของประเด็นสำคัญจากสื่อมวลชนต่างประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงวันที่ ๒๒–๒๘ ก.พ. ๖๓ ดังนี้
ประเด็นข่าวเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ในสื่อต่างประเทศสัปดาห์นี้ มีเฉพาะรายงานในสื่อมาเลเซีย ทั้งนี้ประเด็นที่สื่อมาเลเซียรายงานมากที่สุด คือ แท๊กซี่เถื่อนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ข้ามไปหากินที่ฝั่งมาเลเซียโดยไม่ยำเกรงกฏหมาย ขณะที่เจ้าหน้าที่มาเลเซียทั้งตรวจคนเข้าเมือง และ เจ้าหน้าที่ขนส่งทางบก ยืนยันว่า ไม่ได้ปล่อยปละละเลย หรือ รับสินบนจาก รถรับจ้างไทยที่เข้าไปวิ่งรับส่งในมาเลเซียโดยไม่มีใบอนุญาต
กองพันที่ ๙ หรือ PGA 9 ของมาเลเซียเข้มงวดปิดจุดช่องทางผ่านแดนธรรมชาติ ๔ จุด ริมแม่น้ำโกลก แถบปาเสมัส เมืองชายแดนติดกับอำเภอสุไหงโกลก เพื่อควบคุมให้ชาวมาเลเซียผ่านเข้าออกจุดผ่านแดนทางการเท่านั้น ตามมาตรการควบคุม และ ป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา
สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวมาเลเซีย จัดงานส่งเสริม Visit Malaysia Year 2020 ที่จังหวัดปัตตานี เพื่อสร้างความสัมพันธ์เครือข่ายธุรกิจท่องเที่ยวมาเลเซีย-ไทย (B-to-B) ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักเที่ยวไทยปี ๒๕๖๓ เป็น ๒.๓ ล้านคน เทียบกับ ๑.๙ ล้านคนในปี ๒๕๖๒
สื่อมาเลเซียรายงานเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องซ่อนไว้มอเตอร์ไซค์ โจมตีรถปลัดอำเภอสะบ้าย้อย จ.สงขลา เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ๑๐ คน ในจำนวนนี้มีเด็กอายุ ๓-๕ ปี รวมอยู่ด้วย
จากสถานการณ์ข่าวทั้งใน และต่างประเทศ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีข้อเสนอแนะในการประชาสัมพันธ์ ดังนี้
ประชาสัมพันธ์สนับสนุนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้ข่าวสารเกี่ยวกับการพูดคุยสันติสุขฯ เนื่องจากในห้วงสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม คาดว่า การพูดคุยอย่างเป็นทางการครั้ง ๒ ระหว่างคณะพูดคุยฝ่ายไทยนำโดย พลเอก วัลลภ รักเสนาะ และ ตัวแทนบีอาร์เอ็น นำโดยอานัส อับดุลเลาะห์มาน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งการพูดคุยครั้งนี้ มีความสำคัญเนื่องเพราะเป็นการพูดคุย ครั้งแรก ในรัฐบาลตันสรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีคนที่ ๘ ของมาเลเซีย โดยมีหัวข้อข่าวสารสำคัญในการประชาสัมพันธ์ดังนี้
๑) การพูดคุยครั้งที่สองระหว่างฝ่ายรัฐไทยกับบีอาร์เอ็น เป็นสิ่งยืนยันพันธะสัญญาที่รัฐบาลมาเลเซียมีกับรัฐบาลไทย แม้มาเลเซียจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อกระบวนการพูดคุยสันติสุขแต่อย่างใด
๒) การจัดการพูดคุยสันติสุขฯ ที่กรุงกัวลัมเปอร์ ต้นเดือนมีนาคม เป็นไปตามกำหนดการเดิม โดยมีตัวแทนรัฐบาลมาเลเซีย ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก
๓) การจัดการพูดคุยระหว่างฝ่ายไทยกับบีอาร์เอ็น เป็นสิ่งยืนยันว่า รัฐบาลมาเลเซียรับทราบ และ ให้ความเห็นชอบการพูดคุยระหว่างฝ่ายรัฐไทยกับบีอาร์เอ็น รัฐบาลมาเลเซียไม่ได้มีความไม่พอใจรัฐบาลไทยอย่างที่สื่อต่างประเทศบางแห่งรายงานแต่อย่างใด
๔) นับตั้งแต่การพูดคุยอย่างเป็นทางการระหว่างคณะพูดคุยฝ่ายรัฐไทยกับบีอาร์เอ็น ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม เป็นต้นมา มีส่วนทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ จชต. ดีขึ้น คือไม่พบการก่อเหตุรุนแรงที่สร้างความเสียหายขนาดใหญ่
๒. ผลการวิเคราะห์สารสนเทศด้านการประชาสัมพันธ์ ประจำวันที่ ๒๒–๒๘ ก.พ. ๖๓
๒.๑ เปรียบเทียบแนวโน้มความถี่ การนำเสนอประเด็นข่าวเชิงบวก และประเด็นข่าวเชิงลบ
ในช่วงวันที่ ๒๒-๒๘ ก.พ. ๖๓ มีข่าวเชิงบวก (เส้นทึบสีเขียว) ๗๕ ข่าว จากที่มี ๗๘ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕-๒๑ ก.พ. ๖๓) สำหรับในมิติของแนวโน้มความถี่ (เส้นปะสีน้ำเงิน) มีแนวโน้มฯ ลดลง ในส่วนของข่าวเชิงลบที่เกี่ยวข้องกับ จชต. (เส้นทึบสีแดง) มีข่าวเชิงลบ ๓๒ ข่าวในสัปดาห์นี้ จากที่มี ๑๙ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕- ๒๑ ก.พ. ๖๓) สำหรับในมิติของแนวโน้มความถี่ (เส้นปะสีแดง) มีแนวโน้มฯ เพิ่มขึ้น
๒.๒ ค่าสัดส่วนระหว่างข่าวเชิงบวก และข่าวเชิงลบ
เมื่อนำจำนวนข่าวเชิงบวก และจำนวนข่าวเชิงลบ ในแต่ละวันมาคำนวณหาค่าสัดส่วน ระหว่างข่าวเชิงบวกกับข่าวเชิงลบ พบว่าในแต่ละวันจะมีค่าสัดส่วนฯ ดังนี้
วัน/เดือน/ปี | จำนวนข่าวเชิงบวก (1) | จำนวนข่าวเชิงลบ (2) | ค่าสัดส่วน (3)=(1)/(2) |
2020-02-15 | 12 | 2 | 6 |
2020-02-16 | 15 | 1 | 15 |
2020-02-17 | 24 | 8 | 3 |
2020-02-18 | 6 | 6 | 1 |
2020-02-19 | 6 | 1 | 6 |
2020-02-20 | 11 | 0 | 11 |
2020-02-21 | 4 | 1 | 4 |
11.14 | 2.86 | 3.9 | |
2020-02-22 | 10 | 1 | 10 |
2020-02-23 | 10 | 0 | 10 |
2020-02-24 | 18 | 3 | 6 |
2020-02-25 | 8 | 11 | 0.73 |
2020-02-26 | 15 | 5 | 3 |
2020-02-27 | 11 | 10 | 1.1 |
2020-02-28 | 3 | 2 | 1.5 |
10.71 | 4.71 | 2.27 |
๓. แนวโน้มในประเด็นที่เพ่งเล็ง ในช่วงวันที่ ๒๒–๒๘ ก.พ. ๖๓
๓.๑ ประเด็นการพูดคุยเพื่อสันติสุข
ไม่มีข่าวเชิงบวก ทั้งในช่วงสัปดาห์นี้ (๒๒-๒๘ ก.พ. ๖๓) และ ในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕-๒๑ ก.พ. ๖๓) สำหรับในมิติของแนวโน้มความถี่ (เส้นปะสีน้ำเงิน) มีแนวโน้มฯ ต่ำค่อนข้างคงที่ ในส่วนของข่าวเชิงลบฯ มีข่าวเชิงลบ ๑ ข่าวในสัปดาห์นี้ จากที่ไม่มีข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕-๒๑ ก.พ. ๖๓) สำหรับในมิติของแนวโน้มความถี่ (เส้นปะสีแดง) มีแนวโน้มฯ เพิ่มขึ้น ภาพข่าวเชิงลบ ได้แก่ ตรวจสอบเส้นทางการ ‘พูดคุย’ ที่บีอาร์เอ็นชนะตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ผู้กำหนดเกมเป็น ‘ต่างชาติ’ ที่ต้องการเห็นการแบ่งแยก
๓.๒ ประเด็นเหตุร้ายรายวัน
ในช่วงวันที่ ๒๒-๒๘ ก.พ. ๖๓ มีข่าวในประเด็นเหตุร้ายรายวัน ๑๒ ข่าว จากที่มี ๑๐ ข่าว ในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕-๒๑ ก.พ. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ค่อนข้างคงที่ ภาพข่าวในประเด็นเหตุร้ายรายวัน ได้แก่ แฉบึ้มสะบ้าย้อยเป็น จยย.บอมบ์ ยอดคนเจ็บพุ่ง ๑๐ ราย เด็ก ๓
๓.๓ ประเด็นการเมือง
ในช่วงวันที่ ๒๒-๒๘ ก.พ. ๖๓ มีข่าวเชิงบวกในประเด็นการเมืองเกี่ยวกับ จชต. ๑ ข่าวจากที่มี ๑ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕-๒๑ ก.พ. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ต่ำค่อนข้างคงที่ ในส่วนข่าวเชิงลบฯ มีข่าวเชิงลบ ๑๙ ข่าว จากที่ไม่มีข่าว ในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕-๒๑ ก.พ. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ เพิ่มขึ้น ภาพข่าวเชิงบวก ได้แก่ กอ.รมน.แจง ๒ รอบ ย้ำไม่ใช่เจ้าของเว็บ Pulony ภาพข่าวเชิงลบ ได้แก่ ๑) ‘กมลศักดิ์’ ชี้ ‘บิ๊กตู่’ ล้มเหลวแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้-ปัญหายาเสพติด, ๒) มอ.ปัตตานี นัด แฟลชม็อบ พรุ่งนี้! และ ๓) รายงานพิเศษ: มุมมองต่อปฏิบัติการ’ไอโอ’ของรัฐ
๓.๔ ประเด็นการรักษาความปลอดภัยในชีวิต/ทรัพย์สิน
ในช่วงวันที่ ๒๒-๒๘ ก.พ. ๖๓ มีข่าวเชิงบวกในประเด็น รปภ.ในชีวิต/ทรัพย์สิน ๓๐ ข่าว จากที่มี ๔ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕-๒๑ ก.พ. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ เพิ่มขึ้น ในส่วนข่าวเชิงลบฯ ไม่มีข่าวเชิงลบฯ ในสัปดาห์นี้ จากที่มี ๕ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕-๒๑ ก.พ. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ลดลงภาพข่าวเชิงบวก ได้แก่ ๑) ทหารปะทะรอบ ๒ ไล่ล่าบนเขาตะเวดับแนวร่วมเพิ่ม ๑, ๒) นราธิวาสกู้ทันระเบิดฝัง จยย., ๓) มีชุดสร้างหลักฐาน เท็จหลัง ก่อเหตุ…หนึ่งในสาเหตุต้องใช้ กม.พิเศษดับไฟใต้, ๔) ‘เลขาฯสมช.’ ระบุ รอ ‘กอ.รมน.ภาค4′ แจงเหตุวิสามัญคนร้าย เขาตะเว และ ๕) รู้ตัวมือวางระเบิด จยย.บอมบ์ สะบ้าย้อย ฝีมือ’อุสมัน เจ๊ะมิน’
๓.๕ ประเด็นเศรษฐกิจและการสร้างรายได้
ในช่วงวันที่ ๒๒-๒๘ ก.พ. ๖๓ มีข่าวเชิงบวก ๑๕ ข่าว จากที่มี ๒๓ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕-๒๑ ก.พ. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ลดลง ในส่วนของข่าวเชิงลบในประเด็นเศรษฐกิจฯ ไม่มีข่าวเชิงลบ ทั้งในสัปดาห์นี้ และ ในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕-๒๑ ก.พ. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ เพิ่มขึ้น ภาพข่าวเชิงบวก ได้แก่ ๑) สุดขอบฟ้าท้าเที่ยวไทย: เบตง อัยเยอร์เวง, ๒) กาแฟธารโตพืชเศรษฐกิจที่เติมเต็มเรื่องในอดีต, ๓) ท้องถิ่นพูด: ฉัตรชัย กิติไพศาล ผอ.ศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา ‘การพัฒนากาแฟในอ.ธารโต-เบตง’, ๔) SME D Bank ลงพื้นที่เยี่ยมกิจการลูกค้า หนุนเข้าถึงสินเชื่อ SME D ยกกำลัง 3 พร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบนโยบาย สาขานราธิวาส และ ๕) รายงาน: ‘ยักษ์ปิโตรเคมี’ กว้านที่ดิน1.7หมื่นไร่ ร่วมปั้นภาคใต้สู่’ศูนย์กลางพลังงานโลก’
๓.๖ ประเด็นยาเสพติด
ในช่วงวันที่ ๒๒-๒๘ ก.พ. ๖๓ มีข่าวเชิงบวก ในประเด็นยาเสพติด ๑ ข่าว จากที่มี ๔ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕-๒๑ ก.พ. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ลดลง ในส่วนของข่าวเชิงลบในประเด็นยาเสพติด ไม่มีข่าวเชิงลบทั้งในสัปดาห์นี้ และในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕-๒๑ ก.พ. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ต่ำค่อนข้างคงที่ ภาพข่าวเชิงบวก ได้แก่ เดลินิวส์ก่อนขึ้นแท่น: ยะลาจับเครือข่ายยาบ้า
๓.๗ ประเด็นสิทธิมนุษยชน
ในช่วงวันที่ ๒๒–๒๘ ก.พ. ๖๓ ไม่มีข่าวเชิงลบ ในประเด็นสิทธิมนุษยชน
๓.๘ ประเด็นการบํารุงขวัญกําลังพล
ในช่วงวันที่ ๒๒–๒๘ ก.พ. ๖๓ ไม่มีข่าวเชิงลบ ในประเด็นการบํารุงขวัญกําลังพล
๓.๙ ประเด็นเทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหา จชต.
ในช่วงวันที่ ๒๒–๒๘ ก.พ. ๖๓ ไม่มีข่าวเชิงลบ ในประเด็นเทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหา จชต.
๓.๑๐ ประเด็นการบังคับใช้กฎหมาย
ในช่วงวันที่ ๒๒–๒๘ ก.พ. ๖๓ ไม่มีข่าวเชิงลบ ในประเด็นการบังคับใช้กฎหมาย
๔. ประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการรับรู้ และแนวโน้มระดับผลกระทบต่อการรับรู้เชิงบวก
๔.๑ ประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการรับรู้
ประเด็นข่าวเชิงลบ
๑. การเจรจาเพื่อสันติ ตรวจสอบเส้นทางการ
‘พูดคุย’ ที่บีอาร์เอ็นชนะตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
ผู้กำหนดเกมเป็น ‘ต่างชาติ’ ที่ต้องการเห็นการแบ่งแยก
๒. เหตุร้ายรายวัน
๑) วางบึ้มจยย.บอมบ์ปลัดอำเภอสะบ้าย้อย-อส.บาดเจ็บนร.ชาวบ้านถูกลูกหลงด้วย,
๒) บึ้มสนั่นสะบ้าย้อยปลัด-อส.-นร.เจ็บ10 แค้นวิฯแกนนำ5ศพ, ๓) บึ้มรถอ.สะบ้าย้อย
ปลัด-อส.-นร.เจ็บ
ตอบโต้เหตุวิฯ5ศพ, ๔) โจรใต้เหี้ยม!วางระเบิดสะบ้าย้อย
ชุดคุ้มครองครู-นร.เจ็บ8, ๕) ป่วนสะบ้าย้อย!คนร้ายลอบวางบึ้ม’ปลัดอำเภอ-อส.-นักเรียน’เจ็บ, ๖) โจรใต้บึ้มสะบ้าย้อย
จนท.-ชาวบ้านเจ็บ8, ๗) บึ้มสะบ้าย้อยเจ็บระนาว
นักเรียน-ผู้หญิงโดนด้วย!, ๘) แฉบึ้มสะบ้าย้อยเป็น
จยย.บอมบ์ ยอดคนเจ็บพุ่ง 10 ราย เด็ก 3, ๙) รถกระบะของปลัด, ๑๐) บึ้มรถอ.สะบ้าย้อย
ปลัด-อส.-นร.เจ็บ
ตอบโต้เหตุวิฯ5ศพ, ๑๑) บึ้มสะบ้าย้อย’ปลัด-อส.-น.ร.’เจ็บ8 และ ๑๒) จยย.บอมบ์
ถล่มเจ็บระนาว
๓. การเมือง
๑) ‘กมลศักดิ์’ ชี้ ‘บิ๊กตู่’ ล้มเหลวแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้-ปัญหายาเสพติด, ๒) มอ.ปัตตานี
นัด แฟลชม็อบ พรุ่งนี้!, ๓) แฟลชม็อบนักเรียนนักศึกษาต้าน’ลุงตู่’ลามไปทั่วประเทศ, ๔) แฟลชม็อบการเมือง
นักเรียนนักศึกษา วันเดียวมี 15 สถาบัน ลามไปทั่วประเทศ, ๕) ประมวลภาพนักศึกษานัดชุมนุมหลายมหา’ลัย
หลายพันคน, ๖) ฝ่ายค้านซักฟอกรัฐดับไฟใต้เหลว อ้างนโยบายผิด-ละเมิดสิทธิ์-ไอโอทำแตกแยก, ๗) มข.-มอ.ปัตตานีร่วมชุมนุมพรึบ, ๘) รายงานพิเศษ: มุมมองต่อปฏิบัติการ’ไอโอ’ของรัฐ, ๙) ย้อนดู”ไอโอ”ชายแดนใต้ – สองฝ่ายระดมสร้างเกลียดชัง?, ๑๐) ไอโอรัฐพ่าย
สาดโคลนทั้ง 2 ฝ่าย คนเสียหายคือประชาชน, ๑๑) ปรากฏการณ์ ‘พลังนักศึกษา’
พรึบทั่วประเทศ, ๑๒) ปรากฏการณ์ ‘พลังนักศึกษา’
พรึบทั่วประเทศ, ๑๓) จับตา
ไฟลามทุ่ง พลังนิสิตนักศึกษา จับตา ก้าวต่อไป, ๑๔) ‘วิโรจน์’ปูดปฏิบัติการ’ไอโอ’4ภารกิจหลัก,
๑๕) เปิดคลิปรอบ3’ดีลซื้อตัวส.ส.’ ‘ศรีนวล’ภท.โทรชวนเพื่อนอนค.-โยนคุยเงื่อนไขผู้ใหญ่, ๑๖) คอลัมน์
เดินหน้าชน: คารวะ’นิสิต-น.ศ.’, ๑๗) ‘วิโรจน์’ปูดปฏิบัติการ’ไอโอ’4ภารกิจหลัก และ ๑๘) คอลัมน์: ในประเทศ:
กู คุณนิสิตนักศึกษา
ประเด็นเชิงบวก
๑. ยาเสพติด เดลินิวส์ก่อนขึ้นแท่น: ยะลาจับเครือข่ายยาบ้า
๒. การศึกษา คัดข่าวกรองคน: สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
๓. การเยียวยา ๑) ต้อนรับ, ๒) พระราชทานเยี่ยมนร.เหยื่อระเบิด และ ๓) ในหลวงร.10 โปรดเกล้าฯ ผู้ว่าฯจังหวัดสงขลา เชิญดอกไม้และสิ่งของพระราชทานมอบแก่ผู้บาดเจ็บ จากเหตุลอบวางระเบิดที่อ.สะบ้าย้อย,
๔. การยกระดับคุณภาพชีวิต ๑) ภาพข่าว: คอลัมน์ คัดข่าวกรองคน: สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, ๒) อาชีพเลี้ยงแพะชายแดนใต้, ๓) ภาพข่าว: คอลัมน์ คนหน้า5: สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, ๔) ภาพข่าว: คอลัมน์ คนหน้า5: สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, ๕) เกษตรกรรุ่นใหม่จัดกิจกรรมเรียนรู้วิถีชาวนา, ๖) เกษตรกรรุ่นใหม่จัดกิจกรรมเรียนรู้วิถีชาวนา, ๗) มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพิ่มศักยภาพการรักษาใน 3 จังหวัดชายแดนใต้, ๘) องค์กรผู้หญิงยูเอ็นหารือศอ.บต., ๙) ซอกแซก108: มอบสุขอนามัย, ๑๐) ภาพข่าว: คอลัมน์ ซอกแซก108: มอบสุขอนามัย, ๑๑) อากาศเปลี่ยนแปลงเย็นในตอนเช้า ใต้เมืองคอนคลื่นสูง 2-4 เมตร, ๑๒) ‘โควิด’กระทบผู้แสวงบุญ ‘สำนักจุฬาฯ’รอยืนยันซาอุฯระงับวีซ่าชั่วคราว, ๑๓) ภาพข่าว: กรุงเทพประกันภัยมอบเครื่องกรองน้ำดื่มสะอาดเพื่อน้อง และ ๑๔) ฟื้นภูมิปัญญาดั้งเดิม’ส้มจุกจะนะ’ ส่งต่อมรดกชุมชนสู่ลูกหลานเพื่อความยั่งยืน,
๕. เศรษฐกิจ และการสร้างรายได้ ๑) สุดอบฟ้าท้าเที่ยวไทย: เบตง อัยเยอร์เวง, ๒) คอลัมน์ สุดอบฟ้าท้าเที่ยวไทย: เบตง อัยเยอร์เวง, ๓) กาแฟธารโตพืชเศรษฐกิจที่เติมเต็มเรื่องในอดีต, ๔) อาชีพเลี้ยงแพะชายแดนใต้องค์ความรู้สู่การสร้างรายได้, ๕) กาแฟธารโตพืชเศรษฐกิจที่เติมเต็มเรื่องในอดีต, ๖) ท้องถิ่นพูด: ฉัตรชัย กิติไพศาล ผอ.ศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา ‘การพัฒนากาแฟในอ.ธารโต-เบตง’, ๗) รายงานพิเศษ : เปิดหน่วยส่งเสริมหม่อนไหมนาหมื่นศรีนาโยงตรัง ต่อยอดผลิตภัณฑ์กลุ่มทอผ้านาหมื่นศรีสร้างงานสร้างรายได้, ๘) SME D Bank ลงพื้นที่เยี่ยมกิจการลูกค้า หนุนเข้าถึงสินเชื่อ SME D ยกกำลัง 3 พร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบนโยบาย สาขานราธิวาส, ๙) รายงาน: ‘ยักษ์ปิโตรเคมี’ กว้านที่ดิน1.7หมื่นไร่ ร่วมปั้นภาคใต้สู่’ศูนย์กลางพลังงานโลก’, ๑๐) ‘บินไทย’จับมือ’ไทยสมายล์’ จัด3โปรโมชั่น หวังหนุนท่องเที่ยวไทย, ๑๑) การบินไทยจับมือกับไทยสมายล์จัด 3 โปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย, ๑๒) ภาพข่าว: คอลัมน์ คลุกวงใน: สินค้าดีแดนใต้, ๑๓) ปฏิทินบันเทิง, ๑๔) ‘คต.’ เผยสถิติการค้าชายแดน-ผ่านแดนของต้นปี 63 มูลค่า 8.6 หมื่นลบ. ลดลง 10.76% และ ๑๕) ชุมชน TOT Young Club โชว์ผลิตภัณฑ์เด่น ในงานครบรอบก่อตั้ง ทีโอที 66 ปี,
๖. การรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ๑) ปะทะเดือดเขาตะเว เด็ดหัว5โจรใต้, ๒) จนท.บุกจับกลุ่มป่วนใต้คนร้ายดับ5, ๓) ทหารปะทะรอบ2 ไล่ล่าบนเขาตะเวดับแนวร่วมเพิ่ม1, ๔) นราธิวาสกู้ทันระเบิดฝังจยย., ๕) แจงปะทะ, ๖) ภาพข่าว: ปล่อยแถว, ๗) เตรียมจับมือบึ้มสะบ้าย้อย1ราย, ๘) มีชุดสร้างหลักฐานเท็จหลังก่อเหตุ…หนึ่งในสาเหตุต้องใช้ กม.พิเศษดับไฟใต้, ๙) หมาป่าตัวเดียวแต่ไม่เดียวดาย!, ๑๐) เจอระเบิด, ๑๑) กอ.รมน.ภาค4สน.เดินหน้าแก้ปัญหา, ๑๒) ปะทะบนเขาตะเว วิสามัญฯ 5 ศพ!, ๑๓) ปะทะเขาตะเวดับ 5 ยึดปืน 7 กระบอก คาดทีมโจมตี ชคต.ร่มไทร, ๑๔) เปิดชื่อ 5 ผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะบนเขาตะเว คาดพบเพิ่มอีก 1 ศพ, ๑๕) แจงจับตาย, ๑๖) ปลอมตัวตัดหญ้ามือบึ้มสะบ้าย้อยกู้อีกจยย.บอมบ์, ๑๗) ฉก.พท.48เด็ดหัว 5ขบวนการ’บีอาร์เอ็น’เป็นผีเฝ้าป่า, ๑๘) ทหารปะทะเดือดโจรใต้สนั่น’เขาตะเว’ ยึดอาวุธสงคราม เด็ดหัว 5 ศพ, ๑๙) ชาวเบตงพบระเบิดอากาศMK.82 สมัยสู้รบโจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายา, ๒๐) คืบหน้าปะทะเดือด’เขาตะเว’ ยัน’โจรใต้’กลุ่มเดียวกันโจมตี’ชคต.ร่มไทร’, ๒๑) เด็ดหัวโจรใต้5ศพ ปะทะดุเดือดบนเขาตะเว ยึดปืนสงคราม6กระบอก, ๒๒) เร่งล่าตัว! คนร้ายลอบบึ้มสะบ้าย้อย พบจยย.บอมบ์ถูกแจ้งหายปี57, ๒๓) ญาติ5โจรใต้ถูกวิสามัญแห่รับศพ คุมเข้มหวั่นมือที่3ป่วน, ๒๔) จนท.คุมเข้มนราธิวาส หลังเกิดเหตุปะทะเดือดบนเทือกเขาตะเว, ๒๕) รู้ตัวมือบึ้มสะบ้าย้อยแล้ว1คน เป็นฝีมือ’อุซมัน เจ๊ะมิน’-ตร.จ่อออกหมายจับ, ๒๖) รอบรั้วเมืองใต้ : 27 กุมภาพันธ์ 2563, ๒๗) ‘เลขาฯสมช.’ ระบุ รอ ‘กอ.รมน.ภาค4′ แจงเหตุวิสามัญคนร้าย เขาตะเว และ ๒๘) รู้ตัวมือวางระเบิดจยย.บอมบ์สะบ้าย้อยฝีมือ’อุสมัน เจ๊ะมิน’,
๗. การสร้างความเข้าใจ และความสมานฉันท์ รักบ้านเกิด
๘. การช่วยเหลือประชาชน ถังกักเก็บน้ำ
๙. กีฬา ๑) กีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่36’ช้างขาวเกมส์’จ.ตราด ยืนยันพร้อมรับมือ47ชนิดกีฬาพิธีเปิดยิ่งใหญ่19มีนาคมนี้, ๒) ‘สุเชาว์’ยิงช่วย’เมืองกาญจน์’ถล่มปลาทูศึกลีกคัพ และ ๓) เทศบาลเมืองนราธิวาส จัดแข่งขันกีฬาชุมชนสัมพันธ์,
๑๐. วัฒนธรรม และวิถีชีวิต ๑) กอ.รมน.ภาค 4 ปฏิบัติธรรมอินเดีย, ๒) กอ.รมน.ภาค 4 ปฏิบัติธรรมอินเดีย, ๓) ประชุม และ ๔) ตลาดนัดงานศิลป์,
๑๑. สิทธิมนุษยชน กสม.ประณามคนร้ายลอบวางระเบิดที่สะบ้าย้อย ทำเด็กถูกลูกหลงบาดเจ็บ
๔.๒ ระดับผลกระทบต่อการรับรู้เชิงบวก (Positive Awareness Level: AI) ต่อสถานการณ์ จชต.
จากสถานการณ์ข่าวที่เกิดขึ้นจากการนําเสนอของสื่อมวลชน ส่งผลให้ระดับการรับรู้เชิงบวกที่มีต่อสถานการณ์ จชต. ในสัปดาห์นี้ ลดลง จาก ๒.๓๖ ในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๕ -๒๑ ก.พ. ๖๓) เป็น ๑.๖ ในสัปดาห์นี้ ในมิติของแนวโน้มการรับรู้เชิงบวก มีแนวโน้มฯ ลดลง
๕. ประเด็นสําคัญจากสื่อมวลชนต่างประเทศ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงวันที่ ๒๒–๒๘ ก.พ. ๖๓
ประเด็นข่าวเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ในสื่อต่างประเทศสัปดาห์นี้ มีเฉพาะรายงานในสื่อมาเลเซีย ทั้งนี้ประเด็นที่สื่อมาเลเซียรายงานมากที่สุด คือ แท๊กซี่เถื่อนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ข้ามไปหากินที่ฝั่งมาเลเซียโดยไม่ยำเกรงกฏหมาย ขณะที่เจ้าหน้าที่มาเลเซียทั้งตรวจคนเข้าเมือง และ เจ้าหน้าที่ขนส่งทางบก ยืนยันว่า ไม่ได้ปล่อยปละละเลย หรือ รับสินบนจาก รถรับจ้างไทยที่เข้าไปวิ่งรับส่งในมาเลเซียโดยไม่มีใบอนุญาต
กองพันที่ ๙ หรือ PGA 9 ของมาเลเซียเข้มงวดปิดจุดช่องทางผ่านแดนธรรมชาติ ๔ จุด ริมแม่น้ำโกลก แถบปาเสมัส เมืองชายแดนติดกับอำเภอสุไหงโกลก เพื่อควบคุมให้ชาวมาเลเซียผ่านเข้าออกจุดผ่านแดนทางการเท่านั้น ตามมาตรการควบคุม และ ป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา
สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวมาเลเซีย จัดงานส่งเสริม Visit Malaysia Year 2020 ที่จังหวัดปัตตานี เพื่อสร้างความสัมพันธ์เครือข่ายธุรกิจท่องเที่ยวมาเลเซีย-ไทย (B-to-B) ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักเที่ยวไทยปี ๒๕๖๓ เป็น ๒.๓ ล้านคน เทียบกับ ๑.๙ ล้านคนในปี ๒๕๖๒
สื่อมาเลเซียรายงานเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องซ่อนไว้มอเตอร์ไซค์ โจมตีรถปลัดอำเภอสะบ้าย้อย จ.สงขลา เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ๑๐ คน ในจำนวนนี้มีเด็กอายุ ๓-๕ ปี รวมอยู่ด้วย
๕.๑ สำนักข่าว Bernama รายงานเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องซ่อนไว้ในมอเตอร์ไซค์ และกดระเบิดเมื่อรถยนต์ปลัดอำเภอสะบ้าย้อย จ.สงขลา แล่นผ่านจุดเกิดเหตุเมื่อเวลา ๑๕.๒๐ น. แรงระเบิดขนาดน้ำหนัก ๑๐ กิโลกรัมสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ปิคอัพกันกระสุนและคนบนรถยนต์ทั้ง ๔ คน คือ ปลัดอำเภอและอส.ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้สะเก็ดระเบิดยังปลิวไปถูกประชาชนที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุอีก ๖ คน ซึ่งมีเด็กวัย ๓-๕ ปีรวมอยู่ด้วย
ผู้กำกับการสภ.สะบ้าย้อย บอกว่า ยังไม่ตัดประเด็นการโต้ตอบแก้แค้นจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่อาจโต้ตอบเจ้าหน้าที่รัฐที่เปิดยุทธการกวาดล้างบนเทือเขาตะแว เป็นเหตุให้ผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต ๕ ศพ
(Ten people, including three children, were injured in a bomb explosion today in Saba Yoi here in Thailand.
Saba Yoi police chief Colonel Kongtup Sanatip said a homemade bomb weighing 10 kilogrammes attached to a motorcycle parked by a roadside, had detonated while a bulletproof pick-up truck was passing by at about 3.20 pm (local time), with a chief assistant district officer and three volunteers on board.
The impact of the blast launched the truck into a ravine, with all four hurt.
Also injured were six civilians, including three children aged between three and five years, who were at the scene located near a temple and a school.
All 10 victims are currently receiving treatment at a nearby hospital.
Kongtup said police were not ruling out the death of five militants in a clash with security forces in Cho-Airong, Narathiwat yesterday, as a possible motive for the bomb blast.)
ที่มาข้อมูล ; https://www.bernama.com/en/general/news.php?id=1816252
๕.๒ สำนักข่าว Bernama รายงานเมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ว่า กองพันที่ ๙ หรือ PGA9 กองทัพมาเลเซีย ปิดช่องทางผ่านแดนทางธรรมชาติ ๔ จุดริมแม่น้ำโกลก ใกล้ปาเสมัส เมืองชายแดนใกล้อำเภอสุไหงโกลก โดยจุดที่ผ่านชาวมาเลเซียผ่านแดนอยู่ที่ kampung Bukit Lata และ Jeram Perdah
ทั้งนี้ผู้บัญชาการ PGA9 ออกคำสั่งและเข้มงวดให้ชาวมาเลเซียเดินทางเข้าออกพรมแดนไทย ทางด่านทางการเท่านั้น ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย
มาตรการควบคุมการเข้าออกพรมแดนมาเลเซีย ด้านปาเสมัส ในรัฐกลันตัน เป็นมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา
(The Ninth Battalion of the General Operations Force (PGA9) has closed four illegal jetties in Kampung Bukit Lata, Jeram Perdah, here, connecting the village to the town of Mundok, Thailand.
PGA9 operations officer Asst Comm Mohd Azlee Ismail said the illegal jetties were closed through Op Mundok involving the illegal jetties at Pak Nik, Jitong, Bukit Lata and Pohon Setol.
“Op Mundok is aimed at preventing Malaysians from going to the neighbouring country without using the authorised gateways and preventing the spread of the Covid-19 virus, which they may bring in.
“Civilians crossing the border are usually not monitored and we do not know if they have the coronavirus or not.
“In the meantime, in conjunction with the operation, all the routes to the jetties have been closed and the public is not allowed to cross into the neighbouring country using boats, ” he told reporters at the Pak Nik illegal jetty at Bukit Lata here yesterday.
He said among the actions taken in conjunction with Op Mundok included laying cones on all routes to the parking lots and advising visitors not to cross the border using illegal routes.
He said 16 PGA9 officers and personnel were deployed to monitor the situation at the jetties with the help of the Marine Police Force in Pengkalan Kubur, Tumpat, in the operation.
“From 11am to 7pm, we will monitor all four illegal jetties and if any individual still insists on getting across without using a valid route, they can be detained and subject to legal action, ” he said.
The town of Mundok is the focus of visitors every Tuesday and Friday for its large-scale morning market.
The number of visitors is said to shoot up during the school holidays when tourists from outside Kelantan take the opportunity to shop there.)
ที่มาข้อมูล ; https://www.thestar.com.my/news/nation/2020/02/22/illegal-jetties-in-pasir-mas-closed-to-curb-virus-spread
๕.๓ สื่อมาเลเซียหลายสำนัก รายงานเรื่องราวของแท๊กซี่และรถตู้จากจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยเข้าไปวิ่งรับส่งผู้โดยสาร โดยไม่มีใบอนุญาตตามกฏหมายและพูดถึงโชเฟอร์แท๊กซี่เถื่อนว่ามีพฤติกรรมอันธพาลและไม่สนใจเจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่น
สำนักข่าว Bernama เปิดเผยว่า ได้ติดตามพฤติกรรมรถแท๊กซี่ รถตู้เถื่อนเป็นเวลาหนึ่งเดือนและพบว่าคนกลุ่มนี้มีพฤติการณ์ละเมิดกฏหมายอย่างโจ่งแจ้ง ไม่เกรงกลัวกฏหมาย
โชเฟอร์คนหนึ่งใช้ชื่อ”Mat” บอกว่ารถของเจ้าหน้าที่เครื่องยนต์แรงสู้รถยนต์ของพวกเขาไม่ได้ และไม่มีทางตามรถยนต์ของพวกเขาทัน และหากโดนเจ้าหน้าที่ขนส่งทางบกจับกุม Mat บอกว่า เสียค่าปรับ ๑๕๐ ริงกิตก็จบเรื่อง
ทางด้านผู้อำนวยการสำนีกงานตรวจคนเข้าเมืองรัฐปะลิส ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทำงานเต็มที่ หากคนไทยเข้าเมืองโดยไม่มีเอกสารถูกต้อง หรือ วีซ่า หมดอายุก็ต้องถูกจับกุมดำเนินคดีไม่มีข้อยกเว้น เช่นเดียวกับผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งทางบกรัฐปะลิส เจ้าหน้าที่ขนส่งมีการจับกุมดำเนินคดีรถยนต์ต่างประเทศที่กระทำความผิดในมาเลเซีย โดยไม่มีข้อยกเว้น ปี ๒๕๖๒ จับกุมทั้งหมด ๕๘๖ ราย พร้อมปฏิเศธข่าวที่กล่าวหาเจ้หาน้าที่ขนส่งทางบกว่า รับสินบนจากรถตู้เถื่อนจากประเทศไทยว่า ไม่เป็นความจริง
Not
only do they behave like thugs, “kereta sapu” (pirate taxi) operators from
southern Thailand, bent on expanding their operations here, are thumbing their
noses at local enforcement authorities.
(A month of investigative work found that these illegal
operators appear to be immune to local laws and ply their trade in the open.
An
operator, who wished to be known only as “Mat”, claimed that enforcement
vehicles could not catch up with them because their vans were much faster.
“Depa tak mampu nak ligan kami (They cannot catch up) unless they use faster
vehicles,” he said.
Mat
also said that even if they were caught by Road Transport Department (JPJ)
personnel, they do not need to worry much because the compound for not having
an International Circulation Permit (ICP) was only RM150.
“We just have to pay the fine and then it is business as usual,” he said.
Perlis
Immigration director Basri Othman denied that Thais were entering Malaysia
illegally. He said they come in like normal tourists with their passports
stamped.
“We have carried out enforcement operations and will only make an arrest if
they (Thais) do not have valid travel documents.
“As to the vehicles crossing the border, the immigration laws do not cover this
as it comes under the jurisdiction of the JPJ.
“But I do not deny the possibility of forged passport stamps or help from the
inside. Investigations are under way,” he said.
Perlis JPJ director Fatimah Mohamed Ali Piah said there would be no compromise
on Thai vehicles that enter and leave the country but fail to heed Malaysian
road transport laws and regulations.
“We pay attention to the entry points from Thailand in Perlis namely at Wang
Kelian and Padang Besar to ensure everyone follows the laws.
“There are many who do not see what we are doing because we take the approach
of conducting patrols to catch offenders and less static operations because
this method (patrols) is more effective,” she said.
Fatimah said last year, action was taken against 586 foreign vehicles for
breaking the country’s laws.
She said the highest number involved abusing the ICP at 482 cases and that
enforcement would be stepped up this year.
“As at Jan 22, 51 summonses were issued to vehicles from Thailand and 41 of
them were for abusing the ICP,” she added.
Fatimah also denied claims by Thai “pirate van” operators that there were JPJ
officers who solicited bribes to let them off.
“I will not hesitate to take action against any JPJ personnel found taking
bribes,” she said. — Bernama)
ที่มาข้อมูล ; https://www.thestar.com.my/news/nation/2020/02/23/thai-kereta-sapu-plying-trade-openly
๖. ข้อเสนอแนะในการประชาสัมพันธ์ สนับสนุนการปฏิบัติการข่าวสาร ในช่วงเวลาต่อไป
ประชาสัมพันธ์สนับสนุนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้ข่าวสารเกี่ยวกับการพูดคุยสันติสุขฯ เนื่องจากในห้วงสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม คาดว่า การพูดคุยอย่างเป็นทางการครั้ง ๒ ระหว่างคณะพูดคุยฝ่ายไทยนำโดย พลเอก วัลลภ รักเสนาะ และ ตัวแทนบีอาร์เอ็น นำโดยอานัส อับดุลเลาะห์มาน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งการพูดคุยครั้งนี้ มีความสำคัญเนื่องเพราะเป็นการพูดคุย ครั้งแรก ในรัฐบาลตันสรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีคนที่ ๘ ของมาเลเซีย โดยมีหัวข้อข่าวสารสำคัญในการประชาสัมพันธ์ดังนี้
๑) การพูดคุยครั้งที่สองระหว่างฝ่ายรัฐไทยกับบีอาร์เอ็น เป็นสิ่งยืนยันพันธะสัญญาที่รัฐบาลมาเลเซียมีกับรัฐบาลไทย แม้มาเลเซียจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อกระบวนการพูดคุยสันติสุขแต่อย่างใด
๒) การจัดการพูดคุยสันติสุขฯ ที่กรุงกัวลัมเปอร์ ต้นเดือนมีนาคม เป็นไปตามกำหนดการเดิม โดยมีตัวแทนรัฐบาลมาเลเซีย ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก
๓) การจัดการพูดคุยระหว่างฝ่ายไทยกับบีอาร์เอ็น เป็นสิ่งยืนยันว่า รัฐบาลมาเลเซียรับทราบ และ ให้ความเห็นชอบการพูดคุยระหว่างฝ่ายรัฐไทยกับบีอาร์เอ็น รัฐบาลมาเลเซียไม่ได้มีความไม่พอใจรัฐบาลไทยอย่างที่สื่อต่างประเทศบางแห่งรายงานแต่อย่างใด
๔) นับตั้งแต่การพูดคุยอย่างเป็นทางการระหว่างคณะพูดคุยฝ่ายรัฐไทยกับบีอาร์เอ็น ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม เป็นต้นมา มีส่วนทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ จชต. ดีขึ้น คือไม่พบการก่อเหตุรุนแรงที่สร้างความเสียหายขนาดใหญ่