เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่หอประชุมหนองบึก จ.นครพนม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เป็นประธานเปิดงานวันสตรีสากล มีนางมนพร เจริญศรี นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม และกลุ่มสตรีกว่า 200 คนต้อนรับ
คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า โรคโควิด 19 ที่อยากจะฝากไว้มี 3 เรื่อง เรื่องแรกคือการป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อใหม่เดินทางเข้าประเทศไทย จะต้องมีการดูแลด่านทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ซึ่งมีความสำคัญทุกด้านความจำเป็นที่จะต้องแยกให้ชัดเจนจากประเทศที่มีการระบาดหนัก หรือจุดที่มีการระบาด เราจะต้องมีการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางเข้ามา 14 วัน ต้องทำให้มีมาตรฐานและชัดเจน
ส่วนประเทศที่มีการระบาดอาจจะไม่รุนแรง เราจะมีระบบติดตามอย่างไร ซึ่งแรงงานจากประเทศเกาหลีที่เดินทางกลับ อาจจะมีความไม่ชัดเจนว่าตอนแรกในช่วงต้นไม่กลับ พอตอนหลังก็มาบอกว่าอาจจะกักตัวที่บ้าน สุดท้ายจึงมาบอกว่าจะมีสถานที่ที่จะเฝ้าระวังอาการ 14 วัน ตั้งแต่วันที่มีข่าวจนถึงวันนี้กินเวลากว่า 1 สัปดาห์ ปรากฏว่าพอมาตรการสับสนไม่ชัดเจน ทำให้สังคมตื่นตระหนก เราจะเป็นว่ามีแรงงานเหล่านี้ไปโพสต์ว่าทานอาหารร้านโน้น ไปเดินห้างทานอาหารร้านนี้ และก็มีการปิดร้านปิดห้าง ทุกตนก็กลัวก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ตรงลงมีการสกรีนถูกต้องแล้วหรือไม่ ก็เลยทำให้คนไม่กล้าออกมาจับจ่ายซื้อของและทานอาหารในร้านอาหาร ยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจ
ส่วนที่ 2 คือการระบาดแล้วในประเทศ จะต้องมีมาตรการระบาดวิทยา ในการควบคุมการระบาด การติดตามผู้ที่สัมผัสผู้ที่ติดเชื้ออย่างมีมาตรการเข้มแข็ง และเป็นมาตรการที่ได้มาตรฐานสากล ส่วนที่ 3 ส่วนสุดท้ายควรจะให้ความรู้กับประชาชนในการป้องกันตนเอง จัดหาอุปกรณ์ในการป้องกันตนเองให้กับประชาชนได้เพียงพอ ไม่ได้มาแจกแต่อย่างน้อยหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์และเจลล้างมือต้องกระจายให้มีการจำหน่ายอย่างทั่วถึง
อีกประเด็นคือการระบาด เป็นเรื่องสำคัญที่สุดคือโรงพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์เป็นด่านหน้า อุปกรณ์ก็ต้องมีครบหมด และการสาธารณสุขก็เป็นด้านสำคัญมาก อุปกรณ์พวกเขาต้องมีครบหมดทั้งหน้ากาก เสื้อป้องกันทุกอย่าง เห็นว่าหลายโรงพยาบาลก็ร้องเรียนมา ซึ่งรัฐบาลจะต้องเร่งแก้ใน 4 จุดนี้
ภาพ/ข่าว เทพพนม น็อต นคร. รายงาน