สำรวจความพร้อมค่ายทหาร เตรียมสถานที่รองรับผู้เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ป้องกัน Covid-19
วันนี้ (11 มีนาคม 2563) เวลา 11.30 น. ที่กองร้อยอาวุธเบาที่ 3 กองพันทหารที่1 กรมทหารราบที่ 153 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี, นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิลามจังหวัดปัตตานี, พลตรี ปิยพงษ์ วงศ์จันทร์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี, นายแพทย์ อุดมเกียรติ พูลสวัสดิ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี, นายแพทย์อรุณ ประเสริฐสุข รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลปัตตานี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สำรวจความพร้อมของการจัดสถานที่สำหรับรองรับประชาชนที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงและผู้ที่มีอาการต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัส Covid-19 เพื่อเฝ้าระวังสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วันจนพ้นระยะฟักตัวของโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี โดยในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ได้เลือกใช้กองร้อยอาวุธเบาที่ 3 กองพันทหารที่1 กรมทหารราบที่ 153 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย เป็นสถานที่กักตัว โดยมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายทหาร, จังหวัดปัตตานี, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือหากมีผู้เข้าข่ายต้องรับการการกักตัว
พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวถึงมาตรการเตรียมรับมือสถานการณ์ Covid-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ได้มีการประชุมหน่วยขึ้นตรง ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอจังหวัดสงขลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเตรียมสถานที่กักกันตามนโยบายของรัฐบาลและตามสั่งการของผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งขณะนี้ได้มีการเตรียมการโดยใช้หน่วยทหารในพื้นที่ ซึ่งในวันนี้ได้ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยม กำชับให้ดูแลผู้ที่มากักตัวให้อยู่อย่างสะดวกสบาย และถูกสุขลักษณะ สำหรับพื้นที่ชายแดนก็มีหน่วยป้องกันชายแดนเข้าไปให้การสนับสนุนอำนวยความสะดวก และได้มีการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนงดใช้ท่าข้ามทางธรรมชาติ และให้ไปใช้ท่าข้ามที่ถูกต้องเพื่อผ่านการตรวจคัดกรองที่ชัดเจน
นายแพทย์ อุดมเกียรติ พูลสวัสดิ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานีกล่าวว่า สำหรับจังหวัดปัตตานีมีความพร้อมด้านสถานที่ที่จะใช้ในการกักตัวโดยเป็นไปตามมาตรฐานของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์รับคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มฐานทัพเรือสัตหีบ กองทัพเรือ ตั้งแต่ขั้นตอนการนำผู้ป่วยเข้าพื้นที่ , ที่พัก, ที่รับประทานอาหาร, ห้องน้ำ และการอำนวยความสะดวกในด้านอื่นๆ โดยจะใช้เวลาในการกักตัว 14 วันเพื่อเฝ้าระวังอาการและป้องกันการติดต่อระหว่างคนสู่คน ซึ่งการได้รับการสนับสนุนกองร้อยอาวุธเบาที่ 3 กองพันทหารที่1 กรมทหารราบที่ 153 ให้เป็นสถานที่กักตัวในสถานการณ์นี้ ท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เป็นหัวหน้าหลักในการประสานความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงกลาโหม, กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข เพราะเพียงแค่โรงพยาบาลปัตตานีคงมีสถานที่รองรับไม่เพียงพอ
#ศูนย์ประชาสัมพันธ์
#กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า
ขอบคุณข้อมูล : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า – เพจใหม่