ข่าวใหม่อัพเดท » การวิเคราะห์สารสนเทศด้านการประชาสัมพันธ์ สนับสนุนการปฏิบัติการข่าวสาร ในการแก้ไขปัญหา จชต. ในช่วงวันที่ ๒๑-๒๗ มี.ค. ๖๓

การวิเคราะห์สารสนเทศด้านการประชาสัมพันธ์ สนับสนุนการปฏิบัติการข่าวสาร ในการแก้ไขปัญหา จชต. ในช่วงวันที่ ๒๑-๒๗ มี.ค. ๖๓

30 มีนาคม 2020
0

๑. บทสรุปผู้บริหาร

        จากการติดตามสถานการณ์ข่าวที่เกิดขึ้นจากการนำเสนอของสื่อมวลชนภายในประเทศในช่วงวันที่ ๒๑-๒๗ มี.ค. ๖๓ พบว่า มีข่าวเชิงบวก ๑๐๐ ข่าว จากที่มี ๑๕๓ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔-๒๐ มี.ค. ๖๓) ในส่วนของข่าวเชิงลบที่เกี่ยวข้องกับ จชต.  มีข่าวเชิงลบ ๒๔ ข่าวในสัปดาห์นี้ จากที่มี ๕๙ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔-๒๐ มี.ค. ๖๓)

          ประเด็นข่าวเชิงลบ ได้แก่

  • การเมือง : ๑) จุดไฟ การเมือง ให้ ‘ประยุทธ์’ ลาออก ปักธง ความคิด และ ๒) คอลัมน์ มองรอบทิศ: อยู่ด้วยกันยาก!
  • เหตุร้ายรายวัน : วางบึ้ม’ทหารพราน’เจ็บ ๒ กลับจากบิ๊กคลีนนิ่งมัสยิด
  • สิทธิมนุษยชน : เรื่อง’ผู้หญิง’ ไม่ใช่ การสงเคราะห์ แต่เป็นวาระ’ระดับโลก’
  • การรักษาความปลอดภัยในชีวิต/ทรัพย์สิน : ๑) คาร์บอมบ์ ศอ.บต. บีอาร์เอ็น ลูบคม? ความรุนแรงชายแดนใต้ยืดเยื้อเรื้อรัง และ ๒) รายงาน: เจาะ ๔ ปม คาร์บอมบ์ หน้า ศอ.บต. จับตาโยงปัญหา’ขัดแย้งภายใน’
  • การยกระดับคุณภาพชีวิต: พบผู้ป่วยติดเชื้อ ‘โควิด-19’ เสียชีวิตรายที่ ๕ อยู่ที่จังหวัดนราธิวาส

         ประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่

  • ยาเสพติด : ๑) ลุยจับเอเยนต์ยาเสพติดสงขลา, ๒) รวบหมื่นคนผู้ต้องหายาเสพติด และ ๓) รวบคาด่าน! หนุ่มเชียงใหม่ขนยาเคเกือบ ๒๐๐ โลซุกลังส้มเตรียม ทะลักลงใต้
  • การช่วยเหลือประชาชน : พรก.ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร ‘บิ๊กตู่’ลั่นจัดการเด็ดขาด-ไม่ปรานีพวกฉวยโอกาส
  • เศรษฐกิจ และการสร้างรายได้ : ๑) โอเคเบตง!!เที่ยวบินแรกผ่านฉลุย, ๒) ขายยางฯ ไม่ได้ราคาเลยหันมาปลูกลำไย, ๓) นำร่องยกระดับกลุ่ม สตรี’ค้าขาย ออนไลน์ ‘ให้ปัง, ๔) ลด แลก แจกแถม: ข้าวกล้องออร์แกนิก, ๕) ศึกษาแผนเชื่อม’อ่าวไทย-อันดามัน’ และ ๖) กยท. ปั้นทายาทเกษตรกรชาวสวนยาง เป็นนวัตกร ด้าน ยางพารา แจกทุน ป.ตรี จนจบการศึกษา

       จากสถานการณ์ข่าวที่เกิดขึ้นจากการนําเสนอของสื่อมวลชน ส่งผลให้ระดับการรับรู้เชิงบวกที่มีต่อสถานการณ์ จชต. ในสัปดาห์นี้ เพิ่มขึ้น จาก ๑.๗๑ ในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔ – ๒๐ มี.ค. ๖๓)  เป็น ๒.๐๔ ในสัปดาห์นี้ สืบเนื่องจากภาพข่าวมาตรการในการป้องกัน และช่วยเหลือประชาชนของทุกภาคส่วน จากการแพร่ระบาดของ Covid 19

     ในส่วนของประเด็นสำคัญจากสื่อมวลชนต่างประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงวันที่ ๒๑ – ๒๗ มี.ค. ๖๓ ดังนี้

       ข่าวสารเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่รายงานโดยสื่อต่างประเทศทุกชิ้นเป็นประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ และผลกระทบ ตั้งแต่ผลกระทบที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ทหาร และ ตำรวจมาเลเซียตรึงกำลังตลอดแนวชายแดนคุมเข้มทั้งจุดผ่านแดนทางการ และ จุดผ่านแดนตามธรรมชาติป้องกันการลักลอบเข้าออกประเทศในช่วงเวลาที่มาเลเซียเผชิญการแพร่ระบาดรุนแรงที่สุดในอาเซียน การเสียชีวิตของชายไทยมุสลิมที่นราธิวาสซึ่งติดเชื้อจากการร่วมประกอบศาสนกิจหมู่ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ และ การช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้ชาวมาเลเซียที่ติดค้างในประเทศไทยภายหลังไทยปิดพรมแดนติดมาเลเซีย ทั้ง ๙ ด่าน เดินทางกลับประเทศ

     จากสถานการณ์ข่าวทั้งใน และต่างประเทศ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีข้อเสนอแนะในการประชาสัมพันธ์ ดังนี้

       การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า COVID-19 เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ และ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตรายแรกในพื้นที่ จชต. ที่โรงพยาบาลสุไหงโกลก จ.ว.น.ธ. และ เป็นคนไทยรายแรกที่ติดเชื้อจากการร่วมประกอบศาสนกิจที่มัสยิดศรี เปตาลิง ซึ่งมีผู้ร่วมพิธีราว ๑๖,๐๐๐ คน เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ และ มีการพบผู้ติดเชื้อยืนยันในหลายพื้นที่ ทำให้มีการประกาศมาตรการห้ามเดินทางข้ามจังหวัด และ ห้ามเดินทางเข้าออกในบางหมู่บ้านที่มีการแพร่ระบาด COVID-19 อีกทั้งมาเลเซียประเทศที่มีพรมแดนติด จชต. เป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาด COVID-19 รุนแรงที่สุดในอาเซียน จึงมีข้อเสนอแนะให้เน้นประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน ควบคุม และ ชะลอการแพร่ระบาด COVID-19 ดังนี้

      ๑) เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภารกิจของทหาร และ ตำรวจที่ทำหน้าที่ลาดตระเวน และ ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนเพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่า หน่วยงานความมั่นคงดูแลชายแดนไทย-มาเลเซียอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการป้องกันมิให้มีการลักลอบเข้าเมืองซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด COVID-19 ทั้งนี้ ควรมีการเผยแพร่ทั้งภาพถ่าย และ วีดิโอภารกิจดูแลป้องกันชายแดนไทย-มาเลเซีย ทุกช่องทางสื่อ โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์

     ๒) เผยแพร่ประชาสัมพันธ์การปฏิบัติภารกิจของทหาร และ ตำรวจ ในการตั้งด่านตรวจตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อควบคุมให้เป็นคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ จชต. ที่ใช้อำนาจตาม พรก.ฉุกเฉิน ห้ามมิให้ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัด รวมทั้งห้ามมิให้เข้าออกในบางหมู่บ้านที่เป็นพื้นที่แพร่ระบาด COVIID-19

     ๓) เผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมช่วยเหลือทางการแพทย์ และ มนุษยธรรม แก่ประชาชนในพื้นที่ เช่นกิจกรรมหน่วยแพทย์ทหารที่เข้าไปให้ความรู้การดูแลสุขอนามัยต้านภัย COVID-19 การรักษาพยาบาล กิจกรรมที่มีกำลังพลช่วยเหลือดูแลล้างทำความสะอาดสถานที่สาธารณะร่วมกับประชาชนในชุมชน รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือสิ่งของอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต้องกักบริเวณตัวเองเนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยง

๒. ผลการวิเคราะห์สารสนเทศด้านการประชาสัมพันธ์ ประจำวันที่ ๒๑–๒๗ มี.ค. ๖๓

     ๒.๑ เปรียบเทียบแนวโน้มความถี่ การนำเสนอประเด็นข่าวเชิงบวก และประเด็นข่าวเชิงลบ

ในช่วงวันที่ ๒๑-๒๗ มี.ค. ๖๓ มีข่าวเชิงบวก (เส้นทึบสีเขียว) ๑๐๐ ข่าว จากที่มี ๑๕๓ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔-๒๐ มี.ค. ๖๓) สำหรับในมิติของแนวโน้มความถี่ (เส้นปะสีน้ำเงิน) มีแนวโน้มฯ ลดลงเล็กน้อย ในส่วนของข่าวเชิงลบที่เกี่ยวข้องกับ จชต. (เส้นทึบสีแดง) มีข่าวเชิงลบ ๒๔ ข่าวในสัปดาห์นี้ จากที่มี ๕๙ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔-๒๐ มี.ค. ๖๓) สำหรับในมิติของแนวโน้มความถี่ (เส้นปะสีแดง) มีแนวโน้มฯ ลดลง

๒.๒ ค่าสัดส่วนระหว่างข่าวเชิงบวก และข่าวเชิงลบ

เมื่อนำจำนวนข่าวเชิงบวก และจำนวนข่าวเชิงลบ ในแต่ละวันมาคำนวณหาค่าสัดส่วน ระหว่างข่าวเชิงบวกกับข่าวเชิงลบ พบว่าในแต่ละวันจะมีค่าสัดส่วนฯ ดังนี้

วัน/เดือน/ปี จำนวนข่าวเชิงบวก (1) จำนวนข่าวเชิงลบ (2) ค่าสัดส่วน (3)=(1)/(2)
2020-03-14 14 10 1.4
2020-03-15 11 3 3.67
2020-03-16 16 1 16
2020-03-17 27 21 1.29
2020-03-18 34 17 2
2020-03-19 31 3 10.33
2020-03-20 20 4 5
  21.86 8.43 2.59
2020-03-21 15 5 3
2020-03-22 13 3 4.33
2020-03-23 19 4 4.75
2020-03-24 11 2 5.5
2020-03-25 22 5 4.4
2020-03-26 14 1 14
2020-03-27 6 4 1.5
  14.29 3.43 4.17

๓. แนวโน้มในประเด็นที่เพ่งเล็ง ในช่วงวันที่ ๒๑–๒๗ มี.ค. ๖๓

     ๓.๑ ประเด็นการพูดคุยเพื่อสันติสุข

ไม่มีข่าวเชิงบวก ทั้งในช่วงวันที่ ๒๑-๒๗ มี.ค. ๖๓ และ ในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔-๒๐ มี.ค. ๖๓) สำหรับในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ต่ำค่อนข้างคงที่ ในส่วนของข่าวเชิงลบที่เกี่ยวข้องกับ จชต. ไม่มีข่าวเชิงลบในสัปดาห์นี้ จากที่มี ๒ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔-๒๐ มี.ค. ๖๓) สำหรับในมิติของแนวโน้มความถี่ (เส้นปะสีแดง) มีแนวโน้มฯ ลดลง

     ๓.๒ ประเด็นเหตุร้ายรายวัน

ในช่วงวันที่ ๒๑-๒๗ มี.ค. ๖๓ มีข่าวในประเด็นเหตุร้ายรายวัน ๔ ข่าว จากที่มี ๓๑ ข่าว ในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔-๒๐ มี.ค. ๖๓) ๔ ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ลดลง ภาพข่าวในประเด็นเหตุร้ายรายวัน ได้แก่ วางบึ้ม’ทหารพราน’เจ็บ 2 กลับจากบิ๊กคลีนนิ่งมัสยิด

     ๓.๓ ประเด็นการเมือง

ไม่มีข่าวเชิงบวกในประเด็นการเมืองเกี่ยวกับ จชต. ทั้งในช่วงวันที่ ๒๑-๒๗ มี.ค. ๖๓ และ ในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔-๒๐ มี.ค. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ต่ำค่อนข้างคงที่ ในส่วนข่าวเชิงลบฯ มีข่าวเชิงลบ ๒ ข่าว ในสัปดาห์นี้ จากที่มี ๔ ข่าว ในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔-๒๐ มี.ค. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ต่ำค่อนข้างคงที่ ภาพข่าวเชิงลบ ได้แก่ ๑) จุดไฟ การเมือง ให้ ‘ประยุทธ์’ ลาออก ปักธง ความคิด และ ๒) คอลัมน์ มองรอบทิศ: อยู่ด้วยกันยาก!

     ๓.๔ ประเด็นการรักษาความปลอดภัยในชีวิต/ทรัพย์สิน

ในช่วงวันที่ ๒๑-๒๗ มี.ค. ๖๓ มีข่าวเชิงบวกในประเด็น รปภ.ในชีวิต/ทรัพย์สิน ๓ ข่าว จากที่มี ๔๓ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔-๒๐ มี.ค. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ  ลดลง  ในส่วนข่าวเชิงลบฯ มีข่าวเชิงลบ ๕ ข่าวในสัปดาห์นี้ จากที่มี ๑ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔-๒๐ มี.ค. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ต่ำค่อนข้างคงที่ ภาพข่าวเชิงบวก ได้แก่ แม่ทัพภาค 4 สั่งถอนกำลังด้านนอกเขื่อนปัตตานี กันเป็นพื้นที่ห้ามเข้าชั่วคราว  ภาพข่าวเชิงลบ ได้แก่ ๑) คาร์บอมบ์ ศอ.บต. บีอาร์เอ็น ลูบคม? ความรุนแรงชายแดนใต้ยืดเยื้อเรื้อรัง และ ๒) รายงาน: เจาะ 4 ปมคาร์บอมบ์หน้า ศอ.บต. จับตาโยงปัญหา’ขัดแย้งภายใน’

     ๓.๕ ประเด็นเศรษฐกิจและการสร้างรายได้

ในช่วงวันที่ ๒๑-๒๗ มี.ค. ๖๓ มีข่าวเชิงบวก ในประเด็นเศรษฐกิจฯ ๑๓ ข่าว จากที่มี ๗ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔-๒๐ มี.ค. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในส่วนของข่าวเชิงลบในประเด็นเศรษฐกิจฯ มีข่าวเชิงลบ ๒ ข่าวในสัปดาห์นี้ จากที่มี ๑๒ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔-๒๐ มี.ค. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ลดลง ภาพข่าวเชิงบวก ได้แก่ ๑) โอเคเบตง!!เที่ยวบินแรกผ่านฉลุย, ๒) ขายยางฯ ไม่ได้ราคาเลยหันมาปลูกลำไย, ๓) นำร่องยกระดับกลุ่ม สตรี’ค้าขายออนไลน์’ให้ปัง, ๔) ลด แลก แจกแถม: ข้าวกล้องออร์แกนิก, ๕) ศึกษาแผนเชื่อม’อ่าวไทย-อันดามัน’ และ ๖) กยท. ปั้นทายาทเกษตรกรชาวสวนยาง เป็นนวัตกร ด้านยางพารา แจกทุน ป.ตรี จนจบการศึกษา ภาพข่าวเชิงลบ ได้แก่ ๑) 76 จังหวัดอ่วมพิษ ‘โควิด’ เศรษฐกิจ-ค้าชายแดนระส่ำ !! และ ๒) ชายแดนใต้เผชิญวิกฤติ “โควิด-ปิดด่าน-ยางถูกเท”

     ๓.๖ ประเด็นยาเสพติด

ในช่วงวันที่ ๒๑-๒๗ มี.ค. ๖๓ มีข่าวเชิงบวก ในประเด็นยาเสพติด ๔ ข่าว จากที่มี ๓ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔-๒๐ มี.ค. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ต่ำค่อนข้างคงที่ ในส่วนของข่าวเชิงลบในประเด็นยาเสพติด ไม่มีข่าวเชิงลบทั้งในสัปดาห์นี้ และ ในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔-๒๐ มี.ค. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ต่ำค่อนข้างคงที่ ภาพข่าวเชิงบวก ได้แก่ ๑) ลุยจับเอเยนต์ยาเสพติดสงขลา, ๒) รวบหมื่นคนผู้ต้องหายาเสพติด และ ๓) รวบคาด่าน! หนุ่มเชียงใหม่ขนยาเคเกือบ 200 โลซุกลังส้มเตรียมทะลักลงใต้

     ๓.๗ ประเด็นสิทธิมนุษยชน

             ในช่วงวันที่ ๒๑–๒๗ มี.ค. ๖๓ มีข่าวเชิงลบ ในประเด็นสิทธิมนุษยชน ได้แก่ เรื่อง’ผู้หญิง’ ไม่ใช่ การสงเคราะห์ แต่เป็นวาระ’ระดับโลก’

     ๓.๘ ประเด็นการบํารุงขวัญกําลังพล

            ในช่วงวันที่ ๒๑–๒๗ มี.ค. ๖๓ ไม่มีข่าวเชิงลบ ในประเด็นการบํารุงขวัญกําลังพล

     ๓.๙ ประเด็นเทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหา จชต.

            ในช่วงวันที่ ๒๑–๒๗ มี.ค. ๖๓ ไม่มีข่าวเชิงลบ ในประเด็นเทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหา จชต.

     ๓.๑๐ ประเด็นการบังคับใช้กฎหมาย

            ในช่วงวันที่ ๒๑–๒๗ มี.ค. ๖๓ ไม่มีข่าวเชิงลบ ในประเด็นการบังคับใช้กฎหมาย

๔. ประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการรับรู้ และแนวโน้มระดับผลกระทบต่อการรับรู้เชิงบวก

     ๔.๑ ประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการรับรู้

ประเด็นข่าวเชิงลบ

๑. การเมือง ๑) จุดไฟ การเมือง ให้ ‘ประยุทธ์’ ลาออก ปักธง ความคิด  และ  ๒) คอลัมน์ มองรอบทิศ: อยู่ด้วยกันยาก!
๒. เหตุร้ายรายวัน ๑) โจรใต้วางระเบิดทหารพราน เจ็บ 2 กลับจากบิ๊กคลีนนิ่งมัสยิดป้องกันเชื้อโควิด-19, ๒) โจรซุ่มวางระเบิด ทหารพรานเจ็บ 2 ขณะกลับจากมัสยิด, ๓) วางบึ้ม’ทหารพราน’เจ็บ2 กลับจากบิ๊กคลีนนิ่งมัสยิด  และ  ๔) โจรใต้ป่วน ลอบกดบึ้ม ทหารเจ็บ2
๓. สิทธิมนุษยชน ๑) เรื่อง’ผู้หญิง’ ไม่ใช่ การสงเคราะห์ แต่เป็นวาระ’ระดับโลก’  และ  ๒) เรื่อง’ผู้หญิง’ ไม่ใช่ การสงเคราะห์ แต่เป็นวาระ’ระดับโลก’
๔. การรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ๑) คาร์บอมบ์ ศอ.บต. บีอาร์เอ็น ลูบคม? ความรุนแรงชายแดนใต้ยืดเยื้อเรื้อรัง, ๒) รายงาน: เจาะ4ปมคาร์บอมบ์หน้า ศอ.บต. จับตาโยงปัญหา’ขัดแย้งภายใน’, ๓) คอลัมน์ ยุทธจักรแปดแฉก, ๔) เบื้องหลัง ‘คาร์บอมบ์’ ที่หน้า ศอ.บต. BRN บีบ กอ.รมน.และได้พี่เลี้ยงดีที่เป็น ‘ฝรั่งหัวแดง’  และ  ๕) รายงานพิเศษ: จาก ศอฉ.เสื้อแดง ถึง ศอฉ.COVID ชะตาอาถรรพ์ 3 ป. กว่าจะคลอด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ‘บิ๊กตู่’ คุมเกมทหาร ตั้ง ‘บิ๊กกบ’ หัวหน้าทีมมั่นคง กับบทบาท ‘บิ๊กแดง’ กลางวิกฤต
๕. การยกระดับคุณภาพชีวิต ๑) พบผู้ป่วยติดเชื้อ ‘โควิด-19′ เสียชีวิตรายที่ 5 อยู่ที่จังหวัดนราธิวาส, ๒) ชาวบ้านนราธิวาส แห่ซื้อไข่ไก่เกลี้ยงตลาดจองคิวซื้อล่วงหน้า รับสถานการณ์พรก.ฉุกเฉิน, ๓) ด่วน!! ปิดศูนย์ดาวะห์แห่งประเทศไทย มัสยิดอิล-นูร ป้องกันการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19, ๔) โควิดป่วน’ยะลา’!ผู้ว่าฯสั่งปิดสำนักทะเบียนทุกแห่ง ‘รพ.บันนังสตา’ปิด7วันหลังแพทย์ติดเชื้อ, ๕) สั่งกักตัว4พนง.คุมประพฤติ หลังสอบ’ผู้ต้องกัก’ติดโควิด, ๖) ชาวเบตงแห่ตุนไข่ไก่! หวั่นขาดตลาด ร้านค้าของขาดเกลี้ยงแผง, ๗) ขาดแคลนหนัก!’พยาบาลยะลา’ ตัดชุดป้องกัน’โควิด’เอง, ๘) ภาพข่าว: ไข่ขาด  และ  ๙) คอลัมน์ ข่าวสดทั่วไทย: ยะลา-ไหม้วอด

ประเด็นเชิงบวก

  1. การศึกษา ม.อ.ปัตตานีสอนออนไลน์หนีโรคร้าย
  2. กีฬา ๑) อัพเดทสถานการณ์วันต่อวัน บอลไทยลีกคัมแบ๊กเมื่อไหร่, ๒) ย่อยข่าวกีฬา: ตบทีมชาติร่วมต้านโควิด, ๓) วงแตก! ทีมไทยลีกทยอยเลิกซ้อมหนีโควิด  และ  ๔) ท่าเรือเลิกซ้อม มาดามแป้ง’ออกกฎเหล็กป้องโควิด,
  3. ยาเสพติด ๑) ลุยจับเอเยนต์ยาเสพติดสงขลา, ๒) รวบหมื่นคนผู้ต้องหายาเสพติด, ๓) จับเคตามีน186กก.ซุกลังส้มมุ่งสงขลา  และ  ๔) รวบคาด่าน! หนุ่มเชียงใหม่ขนยาเคเกือบ200โลซุกลังส้มเตรียมทะลักลงใต้,
  4. การบำรุงขวัญกำลังพล ๑) ร.10พระราชทานดอกไม้แก่ทหารนราฯ, ๒) ข่าวสดทั่วไทย: นราธิวาส-ให้กำลังใจ  และ  ๓) ผู้ว่าฯ นราธิวาส เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของแก่ทหารที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ในพื้นที่ระแงะ,
  5. วัฒนธรรม และวิถีชีวิต คอลัมน์ วงการพระสุดสัปดาห์
  6. การช่วยเหลือประชาชน ๑) เจลล้างมือเสริมโพลีแซคคาไรด์, ๒) เจลล้างมือเสริมโพลีแซคคาไรด์, ๓) ‘กลุ่มอสม.ปัตตานี’เดินรณรงค์ป้องกัน COVID-19, ๔) พื้นที่ชายแดนใต้เสี่ยงโควิด-19 คนผวาติดเชื้อ วอนรัฐชัดเจน-ช่วยครอบคลุม, ๕) ชีพจรทั่วไทย, ๖) คอลัมน์ ชีพจรทั่วไทย, ๗) ‘ปัตตานี’ติดไวรัสพุ่ง20ห่วงปกปิด-ระบาดหนัก, ๘) รายงานพิเศษ: ซีพีเอฟ ส่งอาหารปลอดภัย รพ.กว่า 40 แห่ง เดินหน้าเป็นกำลังใจร่วมต้านภัยโควิด-19, ๙) ตั้ง362ด่าน คัดกรองข้ามจว.ทั่วปท., ๑๐) กทม.สั่งปิดกราวรูดห้าง-ตลาด, ๑๑) ข่าวข้นคนเข้ม: ป้องกัน, ๑๒) พรก.ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร ‘บิ๊กตู่’ลั่นจัดการเด็ดขาด-ไม่ปรานีพวกฉวยโอกาส 26มีนาคมถึง30เมษายน, ๑๓) รายงานพิเศษ : ‘ศอ.บต.’ต้องใช้วิกฤติเป็นโอกาส ในการสร้างความเข้าใจกับสังคม’มาลายู’, ๑๔) ผู้ว่าฯสั่งด่วน’ปิดนราธิวาส’ระงับเดินทางเข้าออกโดยยานพาหนะ ควบคุม’โควิด’, ๑๕) ปิด’รพ.บันนังสตา’7วัน ส่งแพทย์ช่วยกู้วิกฤติ’หมอ’ติดเชื้อ’โควิด’, ๑๖) คนสวยใจบุญ! ‘คิมเบอร์ลี่’บริจาคเครื่องอบฆ่าเชื้อ10เครื่องให้รพ.ตจว.สู้โควิด, ๑๗) สั่งห้ามเข้า-ออกยะลาเด็ดขาดแล้ว สุดเข้ม!คัดกรองป้องกันโควิด-19, ๑๘) แวดวงนักปกครอง : 21 มีนาคม 2563, ๑๙) มท.ออกคำสั่งด่วนถึงผู้ว่าฯ ปิดพรมแดน คุมเข้มสกัดไวรัสโควิด-19, ๒๐) เช็คที่นี่! เปิดแผนที่แสดงจังหวัดที่มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศ, ๒๑) ปิดแล้วด่านไทย-มาเลย์3แห่ง เว้นคนประจำรถขนส่งสินค้า, ๒๒) เริ่มเที่ยงคืนนี้!ผู้ว่าฯ4จว.ใต้ ปิดด่านผ่านแดนไทย-มาเลย์, ๒๓) สถานการณ์น่าเป็นห่วง! ‘ยะลา’ยอดติดเชื้อ’โควิด-19’แตะ17ราย รอดูอาการกว่า200ราย, ๒๔) ‘ด่านเบตง’ปรับเวลาจุดผ่านแดน ระงับเดินทางเข้า-ออกของบุคคลทุกสัญชาติ, ๒๕) ทหารผู้นำศาสนาพร้อมใจทำความสะอาดมัสยิดกลางป้องกันโควิด, ๒๖) ผู้ว่าฯสั่งด่วน’ปิดเมืองยะลา’สกัดโควิด ‘ห้ามเข้า-ออก’ เว้นรถพยาบาล สินค้าจำเป็น, ๒๗) พิษ’โควิด’!ผู้ว่าฯสั่งปิดศูนย์ ดะฮ์วะห์มัรกัสยะลาชั่วคราว, ๒๘) ‘นราธิวาส’ ทำความสะอาด ‘วัด’ 99 แห่ง ป้องกันโรคระบาดโควิด-19, ๒๙) ‘จิตอาสา-หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส’ ทำความสะอาดสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก, ๓๐) ‘ไทยสมายล์’ขานรับมาตรการเว้นระยะห่างย้ำยังให้บริการปกติเส้นทางในประเทศ, ๓๑) เจ้าหน้าที่ตั้งด่าน แจ้งประชาชนห้ามออกจากบ้านป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในปัตตานี, ๓๒) สส.นราธิวาส เขต.2 เดินหน้าแจกหน้ากากอนามัย และร่วมกิจกรรมรณรงค์ทำความสะอาดมัสยิดป้องกันโรค COVID- 19, ๓๓) เผยสาเหตุ หมอ-พยาบาล รพ.บันนังสตา ป่วยโควิด-19 ติดเชื้อจากครอบครัว, ๓๔) ยะลาพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในพื้นที่ 26 ราย เฝ้าระวังอีกกว่า 200ราย, ๓๕) ศอ.บต.ร่วมมือกับ กระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตกว่า 27 ประเทศ ดูแลนักศึกษาไทย, ๓๖) สนง.คณะกรรมการอิสลามฯ5จว.ใต้ พร้อมรพ.อำเภอบันนังสตา จ.ยะลา ประกาศปิด7วัน, ๓๗) เทศบาลเมืองนราธิวาส ทำความสะอาดบริเวณ ตลาดสด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื่อไวรัสโคโรน่า 2019 Covid-19, ๓๘) ‘ยะลา’ ตั้งศูนย์เฝ้าระวัง และ ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จะมีการประเมินสถานการณ์ทุกวัน, ๓๙) แพทย์ยะลา ย้ำชัด กลุ่มติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 จำนวน 3 ราย มาจากมาเลเซีย๔๐) ผปก.สถานบันเทิงสุไหงโก-ลก พร้อมใจปิดบริการชั่วคราวเพื่อสังคม, ๔๑) เตือนชาวมุสลิม! ประธานอิสลามยะลาแนะปฏิบัติตนเคร่งครัดป้องกันโควิด-19, ๔๒) กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ส่งมอบสิ่งของอุปกรณ์ให้หน่วยในพื้นที่ ร่วมใจต้านภัยโควิด-19, ๔๓) ปัตตานีพบผู้ป่วยโรค COVID -19 เพิ่มอีก 1 รวม 8 ราย, ๔๔) ยะลาพบผู้ติดเชื้อโควิคเพิ่ม17ราย รอดูอาการกว่า200คน, ๔๕) ปัตตานีน่าห่วงหลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม12ราย, ๔๖) วิทยาลัยชุมชนนราธิวาส จัดกิจกรรมการทำหน้ากากผ้า, ๔๗) ประชาชนจิตอาสาร่วมกับเจ้าหน้าที่ร่วมทำความสะอาดมัสยิดกลางปัตตานี, ๔๘) ขนส่งนราธิวาส ระดมคัดกรองรถโดยสาร หลังพบผู้ป่วยโควิด-19, ๔๙) ชาวเบตงรวมพลังปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อนในเขตเทศบาลเมืองเบตง 4มุมเมืองป้องกันโควิด-19, ๕๐) ผบ.ตร.สั่งทุกด่านภาคใต้คุมเข้มคัดกรองรถขนส่งสินค้าสกัดแพร่โควิด, ๕๑) เช็กด่วน ผู้ป่วย ‘โควิด-19 ‘ จำนวน 827 คน อยู่ในจังหวัดไหนบ้าง, ๕๒) ทหารนาวิกโยธิน ร่วมกับผู้นำศาสนาพร้อมใจทำความสะอาดมัสยิดกลางป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19, ๕๓) นิพนธ์ ร่วมประชุม ครม.ผ่านระบบประชุมทางไกลหารือ วาระสำคัญรับสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า 2019 ที่กระทรวงมหาดไทย, ๕๔) เทศบาลนครยะลา เดินหน้าต่อเนื่องทำความสะอาด ขจัดไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่อง, ๕๕) แม่ทัพภาค 4 ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้, ๕๖) เทศกิจเทศบาลนครยะลา แจกใบปลิวตามจุดผ่อนผันจำหน่ายสินค้าให้หยุดขายตั้งแต่พรุ่งนี้, ๕๗) แม่ทัพภาคที่ 4 พบปะและประสานงานควบคุมการระบาดของโรค COVID-19 กับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส, ๕๘) ศอ.บต. เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ นศ. ไทย ในต่างแดนที่ติดค้างกลับไทยไม่ได้, ๕๙) หน่วยกองกำลังนราธิวาส บูรณาการร่วม 3 ฝ่าย ทำความสะอาดสถานีรถไฟและจุดพักรถ ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19, ๖๐) ทีมแพทย์พยาบาล ห้องผ่าตัดโรงพยาบาลยะลา โพสเฟสบุ๊ค ร่วมกันตัดเย็บชุดสวมใส่ หน้ากากป้องกัน สำหรับใช้ในห้องผ่าตัด, ๖๑) ผู้ว่าฯนราธิวาส เปิดกิจกรรมรณรงค์ทำความสะอาดวัด เพื่อป้องกันโรค COVID – 19  และ  ๖๒) ประชาชนจิตอาสา ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ทำความสะอาดสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก,
  7. การบังคับใช้กฏหมาย ย้อนอดีตไม่เคยลืม ไทยเคยประกาศเคอร์ฟิว จากการรัฐประหาร สลายม็อบฝ่ายต้าน
  8. เศรษฐกิจ และการสร้างรายได้ ๑) โอเคเบตง!!เที่ยวบินแรกผ่านฉลุย, ๒) ลุยศึกษาท่าเรือน้ำลึกอันดามัน-อ่าวไทย, ๓) เปิดแผนพัฒนาท่าเรือน้ำลึกเจ้าท่าอันดามัน-อ่าวไทยเรือเชื่อมล้อ-ราง, ๔) ขายยางฯไม่ได้ราคาเลยหันมาปลูกลำไย, ๕) ขายยางฯไม่ได้ราคาเลยหันมาปลูกลำไย, ๖) ‘เจ้าท่า’ศึกษาสร้าง4ท่าเรือใหม่ภาคใต้, ๗) นำร่องยกระดับกลุ่มสตรี’ค้าขายออนไลน์’ให้ปัง, ๘) ลด แลก แจกแถม: ข้าวกล้องออร์แกนิก, ๙) ศึกษาแผนเชื่อม’อ่าวไทย-อันดามัน’, ๑๐) TPCHมีสัญญาณผลงานโตโดดจ่อCODชีวมวล-ขยะ59MW, ๑๑) กยท. ปั้นทายาทเกษตรกรชาวสวนยาง เป็นนวัตกรด้านยางพารา แจกทุน ป.ตรี จนจบการศึกษา, ๑๒) TPCH ส่งซิกปี 63 ผลงานโตก้าวกระโดด จ่อ COD โรงไฟฟ้าชีวมวล -ขยะ 59 MW  และ  ๑๓) TPCH ส่งซิกปี 63 ผลงานโตก้าวกระโดด จ่อ COD โรงไฟฟ้าชีวมวล -ขยะ 59 MW พร้อมลุยโรงไฟฟ้าชุมชนสนองนโยบายรัฐ,

   ๔.๒ ระดับผลกระทบต่อการรับรู้เชิงบวก (Positive Awareness Level: AI) ต่อสถานการณ์ จชต.

จากสถานการณ์ข่าวที่เกิดขึ้นจากการนําเสนอของสื่อมวลชน ส่งผลให้ระดับการรับรู้เชิงบวกที่มีต่อสถานการณ์ จชต. ในสัปดาห์นี้ เพิ่มขึ้น จาก ๑.๗๑ ในสัปดาห์ที่แล้ว (๑๔ – ๒๐ มี.ค. ๖๓)  เป็น ๒.๐๔ ในสัปดาห์นี้ ในมิติของแนวโน้มการรับรู้เชิงบวก มีแนวโน้มฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย สืบเนื่องจากภาพข่าวมาตรการในการป้องกัน และช่วยเหลือประชาชนของทุกภาคส่วน จากการแพร่ระบาดของ Covid 19

๕. ประเด็นสําคัญจากสื่อมวลชนต่างประเทศ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงวันที่ ๒๑ – ๒๗ มี.ค. ๖๓

       ข่าวสารเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่รายงานโดยสื่อต่างประเทศทุกชิ้นเป็นประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ และผลกระทบ ตั้งแต่ผลกระทบที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ทหาร และ ตำรวจมาเลเซียตรึงกำลังตลอดแนวชายแดนคุมเข้มทั้งจุดผ่านแดนทางการ และ จุดผ่านแดนตามธรรมชาติป้องกันการลักลอบเข้าออกประเทศในช่วงเวลาที่มาเลเซียเผชิญการแพร่ระบาดรุนแรงที่สุดในอาเซียน การเสียชีวิตของชายไทยมุสลิมที่นราธิวาสซึ่งติดเชื้อจากการร่วมประกอบศาสนกิจหมู่ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ และ การช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้ชาวมาเลเซียที่ติดค้างในประเทศไทยภายหลังไทยปิดพรมแดนติดมาเลเซีย ทั้ง ๙ ด่าน เดินทางกลับประเทศ

๕.๑ สื่อมาเลเซีย รายงานเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม อ้างคำให้สัมภาษณ์ของพลตรีเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ ๔ คาดการณ์ว่ามีนคนไทยที่ทำงานและเรียนหนังสิอที่มาเลเซียเดินทางกลับประเทศประมาณ ๕ หมื่นคน ภายหลังรัฐบาลมาเลเซียประกาศปิดประเทศระหว่างวันที่ ๑๘-๓๑ มีนาคม เพื่อชะลอและควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่

พลตรีเกรียงไกร บอกว่า ทางฝ่ายไทยก็มีการประกาศปิดพรมแดนติดต่อกับมาเลเซียทั้ง ๘ จุด และด่านพรมแดนทางทะเลที่ท่าเรือตำมะลัง จ,สตูล ตั้งแต่วันที่ ๒๑ มีนาคม เป็นต้นไป

(Nearly 50,000 Thai nationals working in Malaysia have returned home following the Malaysian government’s decision to impose the Movement Control Order (MCO) from March 18 to 31 to contain COVID-19.Fourth Army deputy commander Maj Gen Kriangkrai Srirak said it was estimated that, 100,000 Thais were working and 1,100 were studying in Malaysia.“The authorities have decided to close all entry points of the Malaysia-Thailand border following an increase in the number of COVID-19 cases in the southern provinces of the kingdom,” he said.

Eight land entry points – Satun (Wan Prachan), Songkhla (Ban Prakob, Sadao and Padang Besar), Yala (Betong) and Narathiwat (Sungai Kolok, Bukohta and Takbai) – as well as one sea entry point namely the Tammalang Port in Satun have been closed beginning today.)

ที่มาข้อมูล ; https://www.bernama.com/en/general/news.php?id=1823570

๕.๑.๑ สำนักข่าว Bernama รายงานอ้างแถลงการณ์ของนายณรงค์ ศศิธร เอกอัครราชฑูตไทยประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประกาศว่า รัฐบาลไทยมีคำสั่งปิดพรมแดนติมาเลเซียทุกด่าน ๙ จุด เพื่อควบคุมและชะลอการแพร่ระบาด COVID-19 โดยคำสั่งนี้จะมีผลจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ได้มีการยื่นหนังสือแจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียทราบแล้ว

ในช่วงที่มีคำสั่งปิดพรมแดนพลเมืองทั้งสองประเทศ ที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยหรือมาเลเซีย ต้องเดินทางโดยเครื่องบินเท่านั้น อย่างไรก็ตามเพื่ออำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าผ่านแดนของทั้งสองประเทศ จึงมีการเปิดด่านพรมแดนหนึ่งด่านเพื่อการขนส่งสินค้าทางรถยนต์เท่านั้น

(The Thai government has closed nine border checkpoints to Malaysia until further notice to curb the spread of Covid-19.

The Malaysian Customs Department said in a statement that the Thai Ambassador to Malaysia, Narong Sasitorn has notified the matter to the South-East Asian division secretary at the Foreign Ministry today.

“All nine Thai-Malaysian checkpoints via land and sea have been closed and the border closure is also implemented at all Thai border checkpoints with Laos, Cambodia and Myanmar.

“During the closure period, all Thai nationals and foreigners are barred from entering or exiting Thailand via land or sea,” the Customs department added.

Thai nationals and Malaysians are only allowed to return to their respective countries by air.

Meanwhile, only one land or sea checkpoints in each designated territory bordering Malaysia will be opened for the transporting of goods across Thai borders.

Other stringent rules included allowing only one Malaysian driver in each heavy vehicle on land while only five crew members are allowed in a boat to transport goods by sea.

However, the drivers and boat crews will only be allowed to enter after the mandatory health screening at the border. – Bernama)

ที่มาข้อมูล ; https://www.nst.com.my/news/nation/2020/03/577464/covid-19-thailand-closes-9-border-checkpoints-malaysia

๕.๑.๒ สื่อมาเลเซียรายงานเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม อ้างคำให้สัมภาษณ์กงสุลมาเลเซียประจำสงขลา ว่า ได้มีการประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและนราธิวาส เพื่อขอให้ช่วยอำนวยความสะดวกอนุญาตให้ชาวมาเลเซียที่ติดค้างอยู่ในประเทศไทย ภายหลังรัฐบาลไทยมีคำสั่งปิดพรมแดน

ทั้งนี้ชาวมาเลเซียที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศมีทั้งนักท่องเที่ยวและนักเรียนปอเนาะ รวม ๑๔๔ คน

กงสุลมาเลเซีย เปิดเผยว่าผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและนราธิวาสอนุญาตให้ตามที่ร้องขอ แต่ขอให้เดินทางผ่านจุดผ่านแดนที่กำหนดและในเวลาที่กำหนดเท่านั้น

(A total of 144 Malaysians stranded in southern Thailand have been sent home today, said the Consulate General of Malaysia, Muhammad Ridzuan Abu Yazid, in Songkhla.

He said with the cooperation of the governors of Songkhla and Narathiwat, all the Malaysians were allowed to leave Thailand.

He said among those stranded were students of pondok schools, tourists as well as those visiting family members in the region.

“A total of 144 Malaysians have left (Thailand) at the appointed time by the local authorities.)

ที่มาข้อมูล ; https://www.malaysiakini.com/news/517077

๕.๒ สำนักข่าว Bernama รายงานว่า ผู้บังคับการกองพันที่ ๗ (GOF) มาเลเซียได้สั่งการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ประจำการตามแนวชายแดนมาเลเซีย-ไทย ติดรัฐกลันตัน เพิ่มอีก ๒๐๐ นายเพื่อเพิ่มการตรวจตราป้องกันมิให้มีการลักลอบเผ่านพรมแดนในช่วงที่มาเลเซียปิดประเทศสู้ภัยไวรัส COVID-19

ในระหว่างนี้เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงมาเลเซีย จะลาดตระเวณตรวจตราทุกจุดตามแนวชายแดน โดยเฉพาะช่องทางตามธรรมชาติ ๘๘ จุดที่เป็นจุดผ่านแดนผิดกฏหมาย โดยจะลาดตระเวณตลอด ๒๔ ชั่วโมงตลอดแนวพรมแดนตั้งแต่รันตูปันยัง ติดกับสุไหงโกลก ไปจนถึงเปงกาลันกุโบร์ ติดกับอ.ตากใบ จ.นราธิวาส

The 7th Battalion General Operations Force (GOF) has deployed more personnel at the three Immigration, Customs, Quarantine and Security Complexes (ICQS) along the Malaysia-Thailand border in Kelantan to enforce the Movement Control Order (MCO).

Its commanding officer, Supt Azhari Nusi, said an additional 86 personnel were now helping the 372 officers and men previously stationed at the Rantau Panjang, Pengkalan Kubur and Bukit Bunga complexes.

“(Tighter) checks are conducted at the entry-exit gates to prevent breaches of the MCO,” he told reporters when met at the Ibrahim Pencen Post in Rantau Panjang here today.

“To tighten control at the Malaysia-Thailand border, some 200 personnel are also conducting 24-hour checks at the 88 illegal bases in Rantau Panjang, Jeram Perdah and Pengkalan Kubor.)

ที่มาข้อมูล ; https://www.bernama.com/en/general/news.php?id=1823695

๕.๓ สื่อมาเลเซียรายงานเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม กรณีการเสียชีวิตของชายไทยมุสลิมชาวนราธิวาส ที่เสียชีวิตจากอาการป่วยติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายแรกที่เสียชีวิตที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายปรีชา นวลจันทร์ นายอำเภอสุไหงโกลก เปิดเผยว่า ชายคนที่เสียชีวิตเป็นหนึ่งในคนไทย ๑๓๒ คน ที่เดินทางไปร่วมประกอบศาสนกิจที่มัสยิดแห่งหนึ่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมพิธีวันนั้นกว่าหนึ่งหมื่นคน

ชายไทยคนนี้นับเป็นคนไทยคนแรกที่เสียชีวิตจาการติดเชื้อที่มัสยิดศรี เปตาลิ่ง

Thailand today reported 91 new COVID-19 cases and one fatality – a Thai man who had attended a mass religious gathering at a mosque in Malaysia, bringing the total to 1,136 cases and five deaths. 

Sungai Kolok District Officer, Preecha Nuannoi said the 50-year-old Thai man is one of the 132 Thais who attended the mass religious gathering in Kuala Lumpur last month.

“His condition deteriorated yesterday. He was pronounced dead at Sungai Kolok Hospital, Narathiwat at 3 am (local time) today,” he told Bernama when contacted.

He added that family members of the deceased tested negative for COVID-19.

It is the first death in Thailand linked to the Sri Petaling mosque gathering in Malaysia.)

ที่มาข้อมูล ; https://www.bernama.com/en/general/news.php?id=1825910

๖. ข้อเสนอแนะในการประชาสัมพันธ์ สนับสนุนการปฏิบัติการข่าวสาร ในช่วงเวลาต่อไป

    การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า COVID-19 เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ และ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตรายแรกในพื้นที่ จชต. ที่โรงพยาบาลสุไหงโกลก จ.ว.น.ธ. และ เป็นคนไทยรายแรกที่ติดเชื้อจากการร่วมประกอบศาสนกิจที่มัสยิดศรี เปตาลิง ซึ่งมีผู้ร่วมพิธีราว ๑๖,๐๐๐ คน เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ และ มีการพบผู้ติดเชื้อยืนยันในหลายพื้นที่ ทำให้มีการประกาศมาตรการห้ามเดินทางข้ามจังหวัด และ ห้ามเดินทางเข้าออกในบางหมู่บ้านที่มีการแพร่ระบาด COVID-19 อีกทั้งมาเลเซียประเทศที่มีพรมแดนติด จชต. เป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาด COVID-19 รุนแรงที่สุดในอาเซียน จึงมีข้อเสนอแนะให้เน้นประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน ควบคุม และ ชะลอการแพร่ระบาด COVID-19 ดังนี้

   ๑) เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภารกิจของทหาร และ ตำรวจที่ทำหน้าที่ลาดตระเวน และ ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนเพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่า หน่วยงานความมั่นคงดูแลชายแดนไทย-มาเลเซียอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการป้องกันมิให้มีการลักลอบเข้าเมืองซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด COVID-19 ทั้งนี้ ควรมีการเผยแพร่ทั้งภาพถ่าย และ วีดิโอภารกิจดูแลป้องกันชายแดนไทย-มาเลเซีย ทุกช่องทางสื่อ โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์

   ๒) เผยแพร่ประชาสัมพันธ์การปฏิบัติภารกิจของทหาร และ ตำรวจ ในการตั้งด่านตรวจตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อควบคุมให้เป็นคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ จชต. ที่ใช้อำนาจตาม พรก.ฉุกเฉิน ห้ามมิให้ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัด รวมทั้งห้ามมิให้เข้าออกในบางหมู่บ้านที่เป็นพื้นที่แพร่ระบาด COVIID-19

   ๓) เผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมช่วยเหลือทางการแพทย์ และ มนุษยธรรม แก่ประชาชนในพื้นที่ เช่นกิจกรรมหน่วยแพทย์ทหารที่เข้าไปให้ความรู้การดูแลสุขอนามัยต้านภัย COVID-19 การรักษาพยาบาล กิจกรรมที่มีกำลังพลช่วยเหลือดูแลล้างทำความสะอาดสถานที่สาธารณะร่วมกับประชาชนในชุมชน รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือสิ่งของอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต้องกักบริเวณตัวเองเนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยง


error: Content is protected !!