ภูเก็ต-นักรบเสื้อขาวจาก มอ.ถึงภูเก็ตแล้วประจำโรงพยาบาลสนามแห่งที่2ดูแลผู้ป่วยโควิด19
วันนี้ (15 เมษายน 2563) เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่สนามบินนานาชาติจังหวัดภูเก็ต กลุ่มแพทย์พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์จาก มอ.จำนวน 58 รายเดินทางมาถึงจังหวัดภูเก็ตแล้วเพื่อปฏิบัติภารกิจการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ของจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, รองศาสตราจารย์ ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต และผู้เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ
ทั้งนี้จากสถานการณ์ผู้ป่วยของจังหวัดภูเก็ตที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์อาจจะขาดอัตรากำลังบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานทั้งที่มีอัตราผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ประกอบกับคณะแพทยศาสตร์ฯ ได้รับการประสานงานจากรองอธิการบดี วิทยาเขตภูเก็ต และผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ในการจัดสรรบุคลากรทางการแพทย์มาสนับสนุนทีมแพทย์ภูเก็ต เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์ภูเก็ต ซึ่งปฏิบัติงานต่อเนื่องอย่างหนักมาเป็นหลายเดือน หลังได้รับการประสานงานทางคณะแพทย์ฯ ของ มอ.ได้ลงมาในพื้นที่เพื่อประเมินสถานการณ์ ทั้งในส่วนของสถานที่ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ซึ่งใช้อาคารศูนย์กีฬาฯ ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตภูเก็ต ชั้น 2, 3 และ 4 รวมจำนวน 150 เตียง
รองศาสตราจารย์ ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดี วิทยาเขตภูเก็ต กล่าวว่า หาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ทำหน้าที่ของตัวเองในการช่วยดูแลทุกปัญหาของสังคมในภาพรวม เนื่องจากปัญหาโควิด-19 ในพื้นที่ภูเก็ตจะหนักกว่าที่อื่น หากเทียบกับจำนวนประชากรซึ่งสูงที่สุดในประเทศและขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์ของจังหวัดภูเก็ตได้ทำงานอย่างหนักมาเป็นเวลาร่วม 2 เดือน และเริ่มจะล้า ซึ่งมองไปข้างหน้าภาระยังมีอีกยาวไกล ด้วยความตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จึงได้หารือกันและได้ตัดสินใจส่งคณะแพทย์ พยาบาลและสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยฯ มาดูแลและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ให้ลุล่วง ทั้งนี้ขอเป็นกำลังใจให้ชาวภูเก็ตทุกคน โดยเราจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับการสู้กับปัญหาครั้งนี้ไปด้วยกัน โดยวันนี้ทางทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์รวมถึงผู้เกี่ยวข้องได้เดินทางมาถึงเรียบร้อยแล้วเตรียมพร้อมรับมือดูแลผู้ป่วยโควิด-19ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตอย่างเต็มที่ต่อไป
ขอขอบคุณ : ภูเก็ตอันดามันนิวส์
สำนักข่าวความมั่นคง/ศูนย์ข่าวภูเก็ต