“วัชระ” แฉเลขาฯสภายอมรับซิโนไทยฯฟ้องมอบพท.ก่อสร้างสภาล่าช้ามีพิรุธ พร้อมถามหาเกียรติยศ-ศักดิ์ศรีเสี่ยหนูอยู่ที่ไหน กลืนน้ำลายตัวเองที่เคยบอกว่าจะเอากล่อง ไม่เอาเงินแต่กลับมาฟ้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐในยุคโควิด-19 ถึง1.6พันล.
วันที่ 30 เม.ย.63 : นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.พรรคปชป.กล่าวถึงกรณี บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ฟ้องสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ศาลปกครองกลาง เพื่อให้ชำระหนี้จำนวน 1,596,592,305.46 บาท โดยกล่าวหาว่าสภาฯส่งมอบพื้นที่ในการก่อสร้างล่าช้า และนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ออกมากล่าวสำทับอีกว่า บริษัทฟ้องร้องถูกต้องแล้ว จึงเป็นที่น่าสงสัยต่อการปฏิบัติหน้าที่ราชการของนายสรศักดิ์ฯ เป็นอย่างยิ่งว่าซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่ เหตุใดถึงยอมรับว่าบริษัทฯ ฟ้องเรียกค่าเสียหายสภาฯถึง 1,596 ล้านบาทเป็นเรื่องถูกต้อง เป็นพฤติกรรมที่ปกป้องผลประโยชน์ของทางราชการหรือไม่ ทั้งๆที่ในความจริงสภาฯไม่ผิด และในสัญญาก็เขียนไว้ชัดแล้วว่าสภาฯไม่ต้องรับผิด ซึ่งต้องพิสูจน์ความจริงกันในศาลว่าใครโกหกเพื่อหวังเงินภาษีอากรของประชาชนหรือไม่ อีกทั้งสภาฯได้ขยายเวลาการก่อสร้างจากสัญญาเดิม 900 วันให้บริษัทฯ ถึง 4 ครั้ง คือ
- ครั้งที่ 1 เป็นเวลา 387 วัน มีนายสรศักดิ์ เพียรเวช เป็นประธานตรวจการจ้างเป็นผู้เสนอให้ขยาย ซึ่งแต่เดิมกรรมการชุดนี้มีนายวีระพันธ์ มุขสมบัติ เป็นประธานมีมติให้ขยายเพียง 287 วัน นายสรศักดิ์ฯ มีมติเพิ่มให้อีกถึง 100 วัน เมื่อนายสรศักดิ์ฯ ได้รับจัดวางให้เป็นเลขาธิการสภาฯ ได้อนุมัติให้ขยายเวลา
- ครั้งที่ 2 เป็นเวลา 421 วัน
- ครั้งที่ 3 เป็นเวลา 674 วัน
- ครั้งที่ 4 เป็นเวลาอีก 382 วัน
รวมผลงานการขยายเวลาให้บริษัทซิโน่ฯ ของนายสรศักดิ์ฯ ล้วนๆ รวมทั้งสิ้น 1,864 วัน มากกว่าสัญญาหลักถึง 2 เท่าผิดปกติวิสัยของวิญญูชนโดยทั่วไป ซึ่งในสัญญาหากก่อสร้างล่าช้า บริษัทต้องจ่ายค่าปรับให้สภาฯ วันละ 12 ล้านบาท ไม่ทราบว่าประเด็นที่รัฐเสียหายมากถึงขนาดนี้จะนำไปฟ้องศาลอาญาทุจริตได้หรือไม่ มิหนำซ้ำบริษัทซิโน่ฯ ยังมีหนังสือลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 ถึงนายสรศักดิ์ฯ เลขาธิการสภาฯ เรียกค่าเสียหายถึง 1,605,228,940.83 บาท อันเป็นที่มาของการฟ้องศาลปกครองในครั้งนี้ ดังนั้น การที่นายสรศักดิ์ฯ ยังอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการสภาต่อไป ประชาชนจะเชื่อใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีการซูเอี๋ยระหว่างกัน เพราะเป็นผู้มีส่วนสำคัญทำให้สภาฯ ถูกฟ้องในครั้งนี้
นายวัชระฯ ชี้ว่า การที่บริษัทซิโน่ฯ ฟ้องในครั้งนี้ จึงเป็นการสวนทางกับคำพูดของนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยอย่างสิ้นเชิง เพราะนายอนุทินเคยกล่าวไว้เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2561 ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยว่า “บริษัททราบว่าการก่อสร้างครั้งนี้จะมีปัญหา แต่ทำไมยังรับก่อสร้างนั้น อยากจะบอกว่าบริษัทถือคติเอากล่องไม่เอาเงิน เอาศักดิ์ศรี เอาความภาคภูมิใจ จะได้เขียนลงในประวัติบริษัทว่าเคยก่อสร้างรัฐสภา ด้วยเกียรติของผม ของพ่อผม มีเกียรติเพียงพอที่จะรับประกันว่าโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่มีความโปร่งใส”
เมื่อนายอนุทินฯ ยืนยันว่า “บริษัทถือคติเอากล่อง ไม่เอาเงิน” แล้วบริษัทซิโน่ฯของนายอนุทินฯ ไปฟ้องศาลปกครองเอาเงินอีก 1,569 ล้านทำไม? เกียรติของตัวนายอนุทินฯ บิดานายอนุทินฯ ตามที่เคยกล่าวอ้าง เกียรติของบิดาท่านที่ชื่อนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้ทรงเกียรตินั้นอยู่ตรงไหน? ยิ่งตอนนี้อยู่ในภาวะที่รัฐบาลถังแตกตัองกู้เงินนับล้านล้านบาทเพื่อดูแลประชาชนจากโรคโควิด-19 เงินแค่ 5,000 บาทยังแจกประชาชนได้ไม่ทั่วถึง แต่บริษัทซิโน่ฯ ของรองนายกรัฐมนตรีกลับมาฟ้องร้องเรียกเอาเงินจากรัฐบาลถึง 1,600 ล้านบาทในภาวะวิกฤตอย่างนี้ ต้องถามว่าใช้หลักธรรมาภิบาลข้อไหน
ทั้งนี้ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธานปปช.สภาผู้แทนราษฎร จะแถลงเปิดหลักฐานการทุจริตในเรื่องนี้ในวันอาทิตย์ ที่ 3 พฤษภาคม 2563เวลา 10.30 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน