จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ Ben Tawatchai Doosa-ard โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า “ฝากเตือนภัยไว้ด้วยนะครับ ร้านนี้เป็นร้านพ่อผมเอง ส่วนโทรศัพท์ที่หายเป็นของน้องสาวแท้ๆ ผมเอง คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ขนาดขับรถเก๋ง มันยังกล้าขโมย ดูจากในกล้องน่าจะมากันสองคน เหมือนทำทีมากินก๋วยเตี๋ยว แต่ที่ไหนได้ขโมยชัดๆ ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์กันด้วยครับ “
ต่อมา วันที่ 3 พ.ค.63 เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านก๋วยเตี๋ยวเรือลุงวิทย์สาขา 2 ตั้งอยู่ที่บริเวณ ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายทวิสดูสอาด อายุ 45 ปี เจ้าของร้าน บ้านเลขที่ 239/125 หมู่ที่ 3 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี กรณีถูกคนร้ายขโมยโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Oppo A83 สีชมพู ราคา 7,990 บาท ที่วางอยู่บนโต๊ะนั่งภายในร้าน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พ.ค.63 เวลาประมาณ 11.30 น.ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพชายสวมใส่เเมสก์ รูปร่างท้วม สูงประมาณ 170 ซม. อายุประมาณ 30-35 ปี สวมเสื้อยืดสีดำกางเกงขาสั้น เดินเข้ามาในร้าน โดยมีผู้หญิงอายุประมาณ 30-35 ปี ยืนรออยู่ที่บริเวณด้านนอกร้าน จากนั้นคนร้ายที่เป็นผู้ชายได้เดินเข้าไปภายในร้านอาศัยจังหวะที่ไม่มีพนักงานอยู่ ขโมยโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะนั่ง แล้วทั้งคู่ได้ขับรถหลบหนีออกไปอย่างใจเย็น
ทางด้านนายนายทวิส เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว กล่าวว่า วันเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.- 11.00 น. ลูกค้ายังไม่ค่อยมี มีเพียงลูกสาวและคนงานอยู่กันแค่ 2 คน จากนั้นมีคนร้ายเป็นชายและหญิงคาดว่าน่าจะเป็นสามีภรรยากัน ขับรถยนต์เก๋งไม่ทราบหมายเลขทะเบียนขับมาจอดที่หน้าร้าน โดยฝ่ายชายเดินเข้ามาในร้านเพียงคนเดียว ซึ่งขณะนั้นลูกสาวของตนล้างจานอยู่ที่หลังร้านและได้วางโทรศัพท์มือถือไว้ที่โต๊ะ จากนั้นฝ่ายชายได้หันไปเห็นโทรศัพท์มือถือของลูกสาวที่วางอยู่บนโต๊ะ จึงส่งสัญญาณไม่ให้ฝ่ายหญิงเดินเข้ามา เมื่อสบโอกาสคนร้ายได้หยิบโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกงข้างขวา และรีบเดินขึ้นรถยนต์เก๋ง ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังเกิดเหตุตนได้นำภาพจากล้องวงจรปิดไปแจ้งความที่ ส.ภบาง ใหญ่ เพื่อให้ช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก อีกทั้งคนร้ายก่อเหตุในช่วงเวลากลางวันไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และที่สำคัญในโทรศัพท์มือถือ มีข้อมูลสำคัญในการเรียนของลูกสาวอีกด้วย
ขณะเดียวกัน น.ส.ก้อย (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี เจ้าของโทรศัพท์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนใช้โทรศัพท์เปิดดูหนัง ซึ่งตอนนั้นถ้วยกับจานในร้านหมดพอดี จึงกดหยุดไว้ก่อนและรีบไปล้างจานที่หลังร้าน โดยวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะเพราะคิดว่าอยู่ในร้านคงไม่หาย พอตนล้างจานเสร็จจะกลับมาเปิดหนังดู พบว่าโทรศัพท์หายไปแล้ว พอโทรเข้าไปปรากฎว่าโทรศัพท์ปิดเครื่อง จึงโทรหาพ่อให้มาเปิดกล้องวงจรปิด พบคนร้ายมากัน 2 คน โดย 1 ในนั้นเดินเข้ามาขโมยโทรศัพท์ของตนไป
น.ส.ก้อย กล่าวต่ออีกว่า ตนซื้อโทรศัพท์มาเครื่องละ 7,990 บาท หลังจากโทรศัพท์ถูกขโมยไป ตนไม่รู้จะทำยังไงดี ได้เเต่ร้องไห้ เพราะเสียดายข้อมูลในโทรศัพท์ ซึ่งมีทั้งเรื่องการเรียน เบอร์โทรศัพท์ และ เม็มโมรี่การ์ด อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด ไม่อยากให้คนร้ายไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นอีก
สาโรจน์ สว่างศรี / นนทบุรี