ฟื้นฟูการบินไทย ต้องอาศัย ทอท.

ฟื้นฟูการบินไทย ต้องอาศัย ทอท.

ทราบว่าวันนี้ (14 พ.ค.63 เวลา 15.00 น.) จะมีการถกด่วนระหว่างกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงการคลังเพื่อหาทางออกให้กับการบินไทย ดังนั้น ถึงเวลาที่ผมเขียนบทความนี้จึงยังไม่แน่นอนว่า กระทรวงการคลังจะได้รับความเห็นชอบจาก ครม.ให้ค้ำประกันเงินกู้ระยะสั้นประมาณ 54,700 ล้านบาท ตามที่การบินไทยต้องการหรือไม่ แต่ไม่ว่าการบินไทยจะได้รับเงินกู้หรือต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการภายใต้ พ.ร.บ.ล้มละลายก็ตาม การบินไทยจะไม่พึ่งพาบริษัท ท่าอากาศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ไม่ได้

ทอท.เป็นผู้บริหารจัดการสนามบินสำคัญหลายสนามบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะเสริมสร้างให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคนี้ได้

การเป็นศูนย์กลางการบินจะต้องเกิดจากการทำงานประสานกันอย่างเหนียวแน่นระหว่างสายการบินแห่งชาติหรือสายการบินไทยกับผู้บริหารจัดการสนามบินหลักหรือ ทอท. ซึ่งจะทำให้ทั้งการบินไทยและ ทอท.มีรายได้เพิ่มขึ้น

ดังนั้น ทอท.จะต้องช่วยทำให้การบินไทยใช้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นฐานการบินให้ได้ ซึ่งจะส่งผลให้มีสายการบินจำนวนมากบินเข้า-ออก สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อมาเปลี่ยนเครื่อง-ต่อเครื่อง ได้อย่างสะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัย เป็นการสร้างเส้นทางการบินในลักษณะที่คล้ายกับล้อจักรยาน โดยมีดุมล้อเป็นศูนย์กลาง (Hub) และซี่ล้อเป็นเส้นทางเข้าสู่ศูนย์กลาง (Spoke) หรือที่เรียกกันในวงการบินว่า Hub and Spoke

ถ้าผู้บริหารสนามบินยังมีทัศนคติว่าสนามบินไม่สมควรเอื้อประโยชน์ให้สายการบินแห่งชาติก็ต้องถือว่าเป็นทัศนคติที่อันตรายต่อสายการบิน องค์กรตัวเอง และประเทศชาติอย่างยิ่ง

การฟื้นฟูการบินไทยไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ ก็ตามจะไร้ประโยชน์ทั้งสิ้น ถ้า ทอท.ไม่ให้ความร่วมมือ เพราะสายการบินไทยจะเสียความสามารถในการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศเหมือนเดิมดังเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาวิกฤตในทุกวันนี้

ถ้าจะทำให้การบินไทยเข็มแข็ง ทอท.จะต้องให้ความร่วมมือช่วยกันสร้าง Hub ให้การบินไทย โดยการทำให้สนามบินสุวรรณภูมิมีบริการที่รวดเร็ว มีความสวยงาม มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ผู้โดยสารใช้เวลาที่สนามบินได้อย่างเพลิดเพลิน ไม่เบื่อ มีสิ่งใหม่ๆ นำเสนอตลอดเวลา ราคาอาหาร สินค้าและบริการไม่แพง ที่สำคัญที่สุด จะต้องเปิดโอกาสให้การบินไทยได้ใช้เทอร์มินัลหรือพื้นที่ และ Gate ที่ดีที่สุดเสมอ

แต่การที่ ทอท.จะขยายสนามบินสุวรรณภูมิที่เรียกว่า North Expansion หรือเทอร์มินัล 2 ตัดแปะ จะไม่ช่วยสร้าง Hub ให้การบินไทย เนื่องจากการบินไทยจะหมดสภาพการแข่งขันโดยสมบูรณ์เพราะ

1. ไม่ทำให้เกิดความประทับใจกับผู้โดยสารที่จะมาต่อเครื่อง เพราะต้องเดินไกล สับสนวุ่นวาย และต้องต่อรถไฟฟ้าไร้คนขับ หรือ APM หลายสาย
2. ต้นทุนการบริหารจัดการของการบินไทยจะสูง เพราะพื้นที่การทำงานของการบินไทยกระจัดกระจาย
3. ไม่สามารถจัดหลุมจอดเครื่องบินของสายการบินไทยให้มีประสิทธิภาพได้ เพราะต้องใช้อาคารเก่าผสมกับอาคารใหม่ที่มีรูปแบบแตกต่างกัน

หาก ทอท.ให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมกับการบินไทย จะช่วยผลักดันให้การบินไทยพลิกฟื้นกลับมาผงาดอีกครั้ง เนื่องจากพนักงานของการบินไทยมีศักยภาพสูง ดังจะเห็นได้จากการจัดอันดับสายการบินยอดเยี่ยมของโลกโดย Skytrax (บริษัทจัดอันดับสายการบินและสนามบินทั่วโลก) ได้จัดอันดับให้การบินไทยเป็นสายการบินยอดเยี่ยมของโลกอันดับ 10 ในปี 2561 และ 2562 ทั้งๆ ที่การบินไทยอยู่ในภาวะขาดทุน แต่ด้วยความสามารถของผู้ปฏิบัติงานก็ยังสามารถทำให้การบินไทยติดอันดับท็อปเท็นของโลกได้ ในขณะที่ ทอท.ซึ่งมีกำไรมาตลอด แต่อันดับโลกของสนามบินสุวรรณภูมิกลับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง จากอันดับ 10 ในปี 2553 ลดลงเป็นอันดับ 36 ในปี 2561 อันดับ 46 ในปี 2562 และอันดับ 48 ในปี 2563

น่าแปลกมั้ยครับว่า องค์กรที่ขาดทุนกลับบริหารงานได้อันดับดีกว่า แต่องค์กรที่มีกำไรกลับบริหารงานได้อันดับแย่กว่า!

การรำพึงรำพันว่ากรุงเทพฯ เป็น Hub ด้วยเงื่อนไขทางภูมิศาสตร์ มีทำเลที่ตั้งดีเหมือนสมัยก่อนนั้นหมดยุคไปนานแล้ว

ดังนั้น จะต้องช่วยกันหยุด North Expansion แล้วหันกลับไปทำให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็น Hub ของการบินไทยตามแผนแม่บทเดิมของการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะช่วยฟื้นฟูการบินไทยได้

Cr. ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์