ตำรวจเมืองคอนจู่บุกโจมจับกุม “อุ้ง ดอนใคร” มือสังหาร“ทัน นาเพลง”เอเยนต์ค้ายานรก-ผู้การ ฯเมืองคอนแฉทั้งสองฝ่ายพัวพันยาเสพติดและเพิ่งพ้นรั้วคุก-ผู้ตายค้ายาแบบเดลิเวอรี่ขับ จยย.ตระเวณส่งยามีไฟฉายคาดศรีษะเป็นสัญลักษณ์
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 15 พ.ค.2563 พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว. นครศรี ธรรมราช, พ.ต.อ.อนันต์ หริกจันทร์ ผกก.สภ.ท่าศาลา, พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผกก.สส.ภ. จว.นครศรีธรรมราช, พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.5บก.ปคม. พร้อมกำลังตำรวจ กก.สส.ภ. จว.นครศรีธรรมราช และสายตรวจ สายสืบ สภ.ท่าศาลา ได้ควบคุมตัวนายสุนทร แสนภักดี หรือ “อุ้ง ดอนใคร” อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160 หมู่ 9 ต.กลาย อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรม ราช ตามหมายจับที่ 204/2563 ลงวันที่ 14 พ.ค. 2563 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้อนุญาต และพกพาอาวุธปืนเข้าไปใน เมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็น และเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และไม่มีเหตุสมควร หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนบุกซองจ่อยิงนายสุทัศน์ วัฒนะ หรือ “ทัน นาเพลง” อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 172 หมู่ 8 ต.กลาย อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เสียชีวิตเมื่อเวลา 20.00 น.คืนวันที่ 12 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในการตรวจสอบชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุพบศพนายสุทัศน์ วัฒนะ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 172 หมู่ 8 ต.กลาย อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่ริมถนนสายดอนใคร – ปลักปลา มีรถจักรยานยนต์ของผู้ตายล้มอยู่ใกล้ ๆ มีไฟฉายแบบคาดศรีษะเปิดไฟอยู่ และตกอยู่ใกล้กับศพ สภาพศพถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก ในมือซ้ายผู้ตายกำถุงยาไอซ์ใว้จำนวน 1 ถุง น้ำหนัก 0.70 กรัม ในกระเป๋าสะพายสีดำที่ผู้ตายสะพายอยู่พบเงินสด จำนวน 2,700 บาท เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง อุปกรณ์การเสพยาไอซ์ 1 ชุด โทรศัพท์มือถือผู้ตาย 1 เครื่อง และที่กระเป๋าเสื้อผู้ตายมีกระเป๋าสีน้ำตาลอยู่ ในกระเป๋าสีน้ำตาล มียาไอซ์ บรรจุในถุงพลาสติกใส จำนวน 5 ถุง น้ำหนักรวม 8.97 กรัม ยาบ้าบรรจุในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน 1 ถุง ยาบ้า 174 เม็ด ถุงพลาสติกใสถุงเปล่า จำนวน 15 ถุง และพบเงินสด อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังทางขวาอีก 21,500 บาท และจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ไปตามถนนสายดอนใคร – ปลักปลา มุ่งหน้าไปทางบ้านปลักปลา เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบคนร้ายน่าจะรู้จักกันและหยุดรถคุยกันก่อนที่คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่หน้าอกผู้ตาย 1 นัด แล้วหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าสาเหตุมาจากการขัดแย้งและหักหลังเรื่องยาเสพติด จึงรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับนายสุนทร แสนภักดี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160 หมู่ 9 ต.กลาย อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ตามหมายจับที่ 204/2563 ลงวันที่ 14 พ.ค. 2563 จนกระทั้งเวลาประมาณ 06.00 น. วันนี้ (15 พ.ค.)ชุดสืบสวน สภ.ท่าศาลาและ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 23/3 หมู่ 1 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจยึดอาวุธปืนที่ผู้ต้องหาใช้ยิงผู้ตาย ซึ่งหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปที่บ้านญาติที่ อ.ดอนสัก จ.สุราษฏร์ธานีและนำอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ไปฝั่งดินไว้ที่ริมคลองกัน หลังบ้านเลขที่ 149/1 หมู่ 4 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดอาวุธปืนฑูตมรณะไว้เป็นหลักฐาน
โดยในการควบคุมตัวนายสุนทร หรือ “อุ้ง ดอนใคร” ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ พบว่าชาวบ้านที่ทราบข่าวจำนวนมากต่างมารอดูการทำแผน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกระจายกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างแข่งขัน โดยในขณะที่ทำแผนได้มีนางนงลักษณ์ วัฒนะ อายุ 40 ปี มาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย ซึ่งนางนงลักษณ์ ได้เข้าไปสอบถามนายสุนทร หรือ “อุ้ง ดอนใคร” ว่าทำไมต้องทำรุนแรงกันถึงขนาดนี้ มีปัญหาอะไรก็น่าจะพูดคุยดี ๆ กันได้ ในขณะที่นายสุนทร หรือ “อุ้งดอนใคร” ยกมือไห้ขอโทษ แต่ในขระที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังควบคุมตัวนายสุนทร หรือ “อุ้ง ดอนใคร” ขึ้นรถตู้กับ ปรากฏว่าได้บุตรชายของนายวัฒนะ หรือ “ทัน นาเพลง” อายุ 19 ปีซึ่งเป็นนักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งที่มีอาการโกรธแค้นอย่างหนัก พยายามเข้าไปทำร้ายนายสุนทร หรือ “อุ้ง ดอนใคร” มือปืน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันจับตัวเอาไว้ โดยนางนงลักษณ์ ผู้เป็นแม่เข้าไปกอดมัดลูกชายพร้อมร้องห่มร้องให้และร้องให้พร้อมบอกกับลูกด้วยน้ำตานองใบหน้าว่า “อย่าทำลูก มันถูกจับกุมและจะได้รับโทษทัณฑ์ตามกฎหมายแล้ว”
ในขณะเดียวกันได้มีนางพัน แสนภักดี อายุ 65 ปี แม่ของนายสุนทร หรือ อุ้งดอนใคร” มือปืนมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย และพยายามจะเข้าไปหาลูกชาย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันตัวออกไป โดยขอให้ไปติดต่อที่ สภ.ท่าศาลา ซึ่งนางพัน กล่าวว่าตนมีลูก 3 คนนายสุนทร หรือ “อุ้ง”เป็นคนสุดท้อง ตามปกติมีอาชีพก่อสร้าง และไม่ทราบมาก่อนเลยว่าลูกชายพัวพันกับการค้ายาเสพติดและเป็นมือปืนยิงนายสุทัศน์ จนเสียชีวิต ใครทำกรรมอะไรไว้ก็คงรับกรรมไปเองก็แล้วกัน
พล.ต.ต.สันธิชัย อาวัฒนกุลเทพ กล่าวว่า คดีนี้ทั้งผู้ตายและมือปืนต่างมีความประพฤติไม่เรียบร้อยและพัวพันกับการค้ายาเสพติด และทั้งคู่เคยถูกจับกุมติดคุกในคดียาเสพติดและอาวุธปืนเพิ่งออกจากมาได้ไม่ถึงปี และมีความขัดแย้งกันในเรื่องการค้ายาเสพติดในพื้นที่ ต.กลายและใกล้เคียง โดยผู้ตายเป็นนักค้ารายใหญ่และขายแบบเดลิเวอรี่ โดยการขับรถ จยย.สะพายกระเป๋า 1 ใบในกระเป๋าจะมียาบ้า ยาไอซ์ และเครื่องช่างดจิตอลติดตัวไว้ตลอดเวลา เมื่อลูกค้าสั่งยาเสพติดก็จะขับรถ จยย.ไปส่งโดยมีไฟฉายที่คาดศรีษะเป็นสัญลักษณ์ ในคืนเกิดเหตุนายสุนทร หรือ “อุ้ง ดอนใคร”ได้โทรศัพท์สั่งซื้อยาเสพติดเมื่อนายสุทัน์ หรือ “ทัน นาเพลง” มาถึงทั้งสองได้พูดคุยกัน และในขณะที่นายสุทัศน์ หรือ “ทัน นาเพลง”ก้มหยิบยาเสพติดในกระเป๋านายสุนทร หรือ “อุ้ง ดอนใคร” มือปืนจึงฉวยโอกาสชักอาวุธปืนออกมาจ่อยิงกลางหน้าอก 1 นัดจนลมคว่ำเสียชีวิตริมถนน หลังก่อเหตุนายสุนทร หรือ “อุ้งดินใคร” มือปืนได้หลบหนีไปบ้านญาติที่ อ.ดอนสัก จ.สุราษฏร์ธานีและเอาปืนฝังดินไว้ ก่อนจะกลบมาซอนตัวที่บ้านญาติใน ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และหลบหนีไปบ้านญาติอีกคนที่ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช จนเจ้าหน้าที่ตำรวจจู่โจมจับกุมได้โดยละม่อมดังกล่าว โดยคดีนี้มีพยานหลักฐานแน่นหนาประกอบกับนายสุนทร หือ “อุ้งดอนใคร” ผู้ต้องหาก็ให้การับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสอบสวนทำสำนวนเพื่อเสนออยการส่งฟ้องศาลพิพากษาลงโทษตามกฎหมายต่อไป
ธีรศักดิ์ อักษรกูล นครศรีธรรมราช