https://drive.google.com/file/d/175amUGp2i5S9bjC_i4FP4D-KVQgOMk8Q/view?usp=sharing
เพชรบูรณ์ คืบหน้าพายุฤดูร้อน เปิดใจนาทีเฉียดตาย ของช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์ ระหว่างหลบฝนในบ้าน แต่ทานแรงลมไม่ไหว พังถล่มลงมาทั้งหลัง ทำให้สองพ่อลูกต้องไร้ที่อาศัย
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีพายุฤดูร้อน พัดกระหน่ำอย่างรุนแรงในพื้นที่อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย กว่า 115 หลังคาเรือน รวมทั้ง สิ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องนุ่งห่ม ถูกน้ำฝนได้รับความเสียหาย และโดยเฉพาะบ้านของประชาชนรายหนึ่ง พบว่าได้รับความเสียหายสิ้นเชิง ตัวบ้านพังทลายทั้งหลัง ส่งผลให้สองพ่อลูก ต้องไร้ที่อยู่อาศัย ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
ล่าสุด นายนาวิน สังฆมาตร นายอำเภอวังโป่ง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.วังโป่ง และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด เพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือตามลำดับต่อไป พร้อมทั้งได้นำสิ่งของจำเป็นเบื้องต้น ไปมอบให้กับ นายสุรพล มีมา อายุ 45 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 18 หมู่ 7 บ้านคลองแสลงกลึง ต.วังโป่ง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก ตัวบ้านถูกลมพายุพัดถล่มจนพังทั้งหลัง ข้าวของเครื่องใช้ ทรัพย์สิน ได้รับความเสียหายทั้งหมด นอกจากนั้น ก็ยังมีรถมอเตอร์ไซค์ของลูกค้าที่อยู่ในระหว่างนำมาซ่อม ก็ถูกตัวบ้านถล่มทับพังเสียหายไปด้วยอีก 1 คัน
สอบถาม นายสุรพล มีมา อายุ 45ปี อาชีพช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์ ได้เล่านาทีเฉียดตายครั้งนี้ว่า ตอนแรกตนทำงานอยู่หน้าบ้าน และใต้ถุนบ้าน สักพักก็มีฝนตกลงมาอย่างหนัก และเริ่มมีลมพัดแรง จึงหยุดทำงานแล้วขึ้นไปหลบบนบ้าน เพียงเวลาไม่นาน เพียง 3 นาที เริ่มมีลมตีเข้ามาในตัวบ้าน และมีฝนสาด จึงสังเกตเห็นว่า มีน้ำฝนหยดลงมาที่ฝาบ้านเต็มไปหมด ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นน้ำฝน จะไหลลงแบบนี้ จากนั้นก็สังเกตเห็นลมตีฝาบ้านที่เป็นสังกะสีจนยุบเข้ามา และตามด้วยหลังคาบ้าน ก็ถูกลมพัดลอยหายไป ทำให้ตนตกใจเป็นอย่างมาก และเกรงว่าสังกะสีจะปลิว ใส่คอ และได้รับอันตราย จึงได้พยายามถอยออกมาจากจุดดังกล่าว แต่ปรากฏว่าเมื่อเดินมาถึงเสากลางบ้าน ซึ่งไปต่อไม่ได้ ในเสี้ยววินาทีนั้นปรากฏว่าบ้านได้ยุบถล่มลงมาทันที ตนจึงรีบคลานหนีออกมาได้สำเร็จ ซึ่งโชคดีเวลานั้นลูกสาว ออกไปเล่นที่บ้านเพื่อน ซึ่งปกติแล้วมักจะนอนอยู่บริเวณหลังตู้ และถ้าหากอยู่ช่วงเวลาเกิดเหตุ คาดว่าน่าจะเป็นอันตรายถึงชีวิต เนื่องจากตู้มีน้ำหนักมาก อีกทั้งต้นเสาก็ล้มมาบริเวณดังกล่าวด้วย
ซึ่งเบื้องต้น ทาง นายนาวิน สังฆมาตร นายอำเภอวังโป่ง ได้สั่งการให้หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะบ้านเรือนราษฎรที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติทั้งหลัง ซึ่งในเบื้องต้นจะได้รับเงินช่วยเหลือ 3 หมื่นบาท ส่วนบ้านเรือนที่เสียหาย หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น จะได้เข้าทำการรื้อถอน ซ่อมแซม ส่วนครอบครัวสองพ่อลูก ก็ประสานให้ไปอาศัยอยู่ที่บ้านญาติเป็นการชั่วคราว ไปก่อน
เดชา มลามาตย์/มนสิชา คล้ายแก้ว