ข่าวใหม่อัพเดท » ปคม.จับหนุ่มแสบอ้างตัวเป็นตำรวจ หลอกลวงสาวต่างด้าวที่ประสงค์จะทำงานไปข่มขืน

ปคม.จับหนุ่มแสบอ้างตัวเป็นตำรวจ หลอกลวงสาวต่างด้าวที่ประสงค์จะทำงานไปข่มขืน

29 พฤษภาคม 2020
0

วันที่ 28 พ.ค.63 เวลา 12.00 น.ที่ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์​ (บก.ปคม.)​ : พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม.พร้อมด้วย​ พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์, พ.ต.อ. ฐากูร นิ่มสมบุญ รอง ผบก.ปคม. แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุแอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้า ที่ตำรวจบังคับหญิงสาวต่างด้าวไปข่มขืนกระทำชำเรา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 พ.ค.63 มูลนิธิ LNP (Labour Protection Network) ได้พาหญิงสาวชาวปะโอ สัญชาติพม่า 2 คน ประกอบด้วย น.ส.เมย์ อายุ 22 ปี และ น.ส.แง อายุ 20 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. ว่าถูกชายไทยไม่ทราบชื่อล่อลวงไปเพื่อการอนาจาร ข่มขืน กรรโชกทรัพย์ และหน่วงเหนี่ยวกักขัง

พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล ผกก.1 บก.ปคม. จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.อาทิตย์ พุ่มทอง, พ.ต.ท. ไพรัตน์ เกียรติเจริญศิริ รอง ผกก.1 ปคม.ร่วมทำการสืบสวนสอบสวน ก่อนมอบหมายสั่งการให้ ร.ต.อ.ประเวศน์ แสงพรหม สว.กก.1 บก.ปคม. ในฐานะ​หัวหน้าชุด ร.ต.อ.จรัญ จาดเปรม รอง สว.กก.1, ด.ต.ธนภัทร จันทร์ศรีชั้น, ด.ต.หญิง ปรัชนันท์ วรรณกลาง, ด.ต.สุวัชร สบายจิตร​ และ ส.ต.อ.เรวัติ รัตนธรกรพงศ์ ผบ.หมู่ กก.1 บก.ปคม.วางแผนจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ร.ต.อ.ประเวศน์ฯ ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายรายนี้ชื่อเล่นว่านายอ๊อบ (ทราบชื่อจริงภายหลังคือ นายณรงค์ ห้วยหงส์ทอง อายุ 28 ปี) จึงขออนุมัติศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับที่ จ.285/2563 ลงวันที่ 26 พ.ค.63

จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้มีที่พักอยู่ย่านบางบอน โดยนายอ๊อบฯ​ มาขายประจำที่หน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น โดยได้รับข้อมูลมาจากชาวบ้าน ว่ามีบุคคลลักษณะดังกล่าว ที่มีพฤติกรรมชอบแอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไปเฝ้ารอจนกระทั่ง​เวลา 18.30 น. นายอ๊อบฯ ขับรถเก๋งมิตซูบิชิ สีแดง ทะเบียน 3 ฐ 9363 กทม. มาจอดและลงจากรถบริเวณฝั่งตรงข้าม ซ.9 ถ.บางบอน 1 ชุดจับกุมจึงเข้าแสดงตัวพร้อมหมายจับให้ผู้ต้องหาดู

โดยนายอ๊อบฯ​ รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง จึงควบคุมตัวมาสอบสวน ที่ กก.1 บก. ปคม. และแจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยข่มขู่ด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมหรือให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินโดยใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งนายณรงค์ หรือ อ๊อบ ให้การภาคเสธ รับว่าได้นำรถยนต์และ รถ จยย. ไปรับผู้เสียหายทั้งสองรายจริงแต่ไม่ได้มีการกระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเราแต่อย่างใด

สำหรับคดีนี้ เบื้องต้นจากการสอบสวน น.ส.เมย์ ชาวปะโอ สัญชาติพม่า ที่เข้ามารับจ้างทำ งานใน กทม.เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 14 พ.ค.63​ ได้เห็นเฟซบุ๊กบัญชีชื่อ” AK Love Janne”ซึ่งเป็นคนพม่าด้วยกัน โพสต์ประกาศว่าต้องการรับสมัครคนงานหญิงไปทำงานย่านเดอะมอลล์ บางแค จึงติดต่อสอบถามไป ก่อนจะให้เบอร์มือถือของนายณรงค์ฯ ผู้ต้องรายนี้มา

เมื่อโทร.ติดต่อไป น.ส.เมย์ฯ แจ้งว่าเดินทางไปไม่ถูก นายณรงค์ฯ จึงนัดให้ น.ส.เมย์ฯ​ ที่พักอยู่ย่านลำสาลี มารอที่หน้าห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ ก่อนขับรถเก๋งมิตซูบิชิ สีแดง ทะเบียน 3 ฐ 9363 กทม. มารับ อ้างว่าจะพาไปดูที่ทำงาน จากนั้นขับรถพา น.ส.เมย์ฯ มายังห้องพักแบ่งให้เช่า ย่านบางบอน 1 ซอย 9 ก่อนพาเข้าห้องแล้วบังคับให้ น.ส.เมย์ฯ ถอดเสื้อผ้าออก ก่อนโชว์บัตร อปพร.ควักลูกกระสุนปืน และกุญแจมือให้ดู พร้อมพูดจาอ้างว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าขัดขืน ก่อนจะใช้กำลังทุบตี

น.ส.เมย์ฯ ได้แต่ยกมือไหว้ขอร้องอย่าทำร้ายตนเลย นายณรงค์ฯ​ จึงให้ น.ส.เมย์ฯ​ ใช้มือช่วยจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง ก่อนจะค้นกระเป๋าสะพายผู้เสียหายเอาเงินสดที่มีอยู่ 7,000 บาท โทรศัพท์​มือถือ 1 เครื่อง และบัตรต่างด้าวไป จากนั้นขับรถพาไปปล่อยผู้เสียหายกลางทางให้หาทางกลับเอง

ด้าน น.ส.แง ชาวปะโอ สัญชาติพม่า ผู้เสียหายอีกราย จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เข้ามาทำงานในไทยเมื่อปีที่แล้ว ก่อนจะตกงานเมื่อหลายเดือนก่อน จนกระทั่ง​เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 63 เห็นเฟซบุ๊กบัญชี “AK Love Janne” ประกาศรับสมัครคนงานหญิงจึงติดต่อไปได้เบอร์โทรศัพท์​ของนายณรงค์ฯ​ ให้ถ่ายรูปส่งไปให้ดูก่อน​ จากนั้นจึงโทรศัพท์​นัดหมาย นายณรงค์ฯ​ ให้นั่งรถมารอที่หน้าเดอะมอลล์ บางแค โดยเอารถ จยย. CPR สีเหลือง ขับขี่มารับ พาไปถึงหน้าอาคารสีชมพู บางบอน 1 แยก 10 ซอย 10 บอกให้เอากระเป๋าฝากไว้ก่อน จะพานั่งซ้อน จยย.ขับไปยัง บังกาโล รีสอร์ท แห่งหนึ่งไม่ทราบชื่อ ที่ต้องขับขี่ จยย.นานประมาณ 10 นาทีถึง

นายณรงค์ฯ ได้ใช้กำลังบังคับ น.ส.แงฯ ให้เข้าไปภายในห้อง ก่อนโชว์บัตร อปพร. พร้อมอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าไม่อยากถูกจับฐานลักลอบทำงานผิดกฎหมาย โดยนายณรงค์ฯ​ ได้เอายาเสพติดชนิดยาเค ออกมาสูบก่อนจะใช้กำลังทุบตีและบังคับข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง หลังจากนั้นได้ล้วงเอาเงินสด 2,000 บาทในกระเป๋าผู้เสียหายไป แล้วพานั่งซ้อน จยย.มาปล่อยกลางทาง น.ส.แงฯ ได้เรียกแท๊กซี่มาส่งที่พักย่านสนามบินน้ำ นนทบุรี

จากนั้นผู้เสียหายทั้งสองรายจึงได้เข้าขอความช่วยเหลือมูลนิธิ LNP ที่พาเข้าปรึกษาตำรวจสันติบาล ก่อนจะพามาแจ้งความตำรวจ บก.ปคม.ทำการสืบสวนสอบสวนจนจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


สุรเชษฐ​ ​ศิลา​นนท์​ รายงาน​

error: Content is protected !!