พล.ต.ต.ประสพโชค พร้อมมูล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ประธานคณะกรรมการวิสามัญศึกษาแนวทางการพัฒนาให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ท่านได้มีแนวคิดการพัฒนา และยกระดับกรุงเทพมหานครให้กลายเป็นเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City ซึ่งเป็นหนึ่งในวาระแห่งชาติ ประกอบด้วย 7 ด้านหลัก ได้แก่
- Smart people พลเมืองอัจฉริยะ
- Smart Living การดำรงชีวิตอัจฉริยะ
- Smart Economy เศรษฐกิจอัจฉริยะ
- Smart Mobility การเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ
- Smart Energy พลังงานอัจฉริยะ
- Smart Environment สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ
- Smart Governance การบริการภาครัฐอัจฉริยะ
จากผลการจัดลำดับ Smart City ของเมืองหลวง 102 ประเทศทั่วโลกในปี 2562 กรุงเทพได้เป็นลำดับที่ 75 ดังนั้นเราจึงตั้งเป้าหมายให้กรุงเทพสามารถติดหนึ่งใน 20 ของ Smart City ภายในปี 2565 โดยจะเริ่มทำเขตแรกเป็นเขตนำร่องที่เขตพระนคร จากนั้นจะนำรูปแบบหรือโมเดลของเขตพระนครไปใช้ในเขตอื่นๆ ครบทั้ง 50 เขต
ส่วนปัจจัยสำคัญที่ถือเป็นรากฐานสำคัญไปสู่การเปลี่ยนแปลงนั้น ผู้บริหารกรุงเทพมหานครจะต้องนำระบบการบริหารจัดการที่ดี (Good governance) มาใช้ในทุกมิติ ทั้งด้าน อาทิเช่น
- การบริหารคน
- การบริหารงบประมาณ
- การบริหารเครื่องมืออุปกรณ์
- การบริหารแผนงาน
และในการพิจารณาว่า เมืองใดจะเป็น Smart City หรือไม่ ควรมีตัวชี้วัดอย่างน้อย 5 ตัวหรือที่เรียกว่า 5 ส ดังนี้
1. สะดวก : สะดวกในการใช้ชีวิต การเดินทาง การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของเมือง การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้
2. สะอาด/สวยงาม : บ้านเมืองมีความสะอาด มีความสวยงาม น่าอยู่ น่าเที่ยว
3. สงบเรียบร้อย : มีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ปลอดภัยจากยาเสพติด บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย ไม่วุ่นวาย
4. สิ่งแวดล้อม : มีสิ่งแวดล้อมที่ดีทั้งบนบก ในน้ำ อากาศ และเสียง
5. สุข : ประชาชนต้องมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี