ต่ออำนาจบนความทุกข์
ในที่สุดก็เป็นไปตามคาด ผลการประชุมฝ่ายความมั่นคง ระหว่างทหารและสภาความมั่นคง เมื่อวานนี้ ( 25 มิ.ย.) มีมติให้ต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน ไปสิ้นสุดสิ้นเดือนกรกฎาคม ด้วยเหตุผลต้องมีกฏหมายควบคุมเบ็ดเสร็จ ในช่วงการบังคับควบคุมโรคติดต่อ เพื่อรับสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ยังมีการลุกลามอยู่ทั่วโลก ขณะที่การควบคุมโรคในประเทศไทยเรานั้น ปลอดคนติดเชื้อไปนานกว่า 30 วันแล้วก็ตาม
นับเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจประเทศที่ยากจะฟื้นตัว
ต้องโงหัวไม่ขึ้นต่อไป
รายได้การท่องเที่ยวจากต่างประเทศตายสนิท
ประชาชนจะตกงานมากขึ้นเป็นทวีคูณ
รายได้ถดถอย รากหญ้าระดับล่าง ต้องทะยอยฆ่าตัวตายทุกวัน
ขณะที่ข้าราชการทุกระดับ ได้รับผลกระทบน้อยมาก บางตำแหน่งกลับได้รับเงินพิเศษเพิ่มขึ้น
การต่ออายุพรก.ออกไปครั้งนี้ ถือได้ว่า รัฐกำลังผลักภาระให้กับประชาชนในประเทศ
ทุกหัวระแหง
มองเหตุผลง่ายๆ ในเมื่อภายในประเทศของเรา ปลอดจากผู้ติดเชื้อโควิด นานกว่า 1 เดือนแล้ว คงเหลือเพียงผู้ติดเชื้อคนไทย ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และอยู่ในระยะเวลากักตัวในสถานที่ ที่รัฐเตรียมไว้เท่านั้น
ทำไม ??
ไม่เพิ่มประสิทธิภาพความเข้มงวดต่อชาวต่างชาติ ที่ทะยอยเดินทางกันเข้ามา รวมไปถึง การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามตะเข็บชายแดนรอบๆประเทศ บุคคลเหล่านี้ควรเฝ้าระวังจริงจัง เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ต้องปฏิบัติอยู่แล้ว ที่สำคัญต้องสำนึกถึงรายได้ของพวกท่านๆ ที่มาจากเงินภาษีประชาชนให้มาก
เมื่อคนใน ไร้โรค คนนอกที่มีโรคต้องเฝ้าระวัง ควบคุมให้ดี อย่าให้เข้ามาแพร่เชื้อ
ประชาชนทั่วไปจะเดือดร้อนได้อย่างไร ?? เจ้าหน้าที่รัฐต้องทำงานหนัก เพื่อเป้าหมายที่วางไว้ การต่ออายุ พรก.ฉุกเฉินไปอีก 1 เดือน จึงถูกมอง ว่า รัฐกำลังซ้ำเติม และผลักภาระให้กับประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศ
ขณะที่ผู้บริหารไม่สำนึก ไม่วางระบบ ติวเข้มจริงจังกับการแพร่เชื้อที่กำลังจะเข้ามาจากประเทศต่างๆ ไม่สร้างความมั่นใจอะไรให้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ข้าราชการของรัฐ ในส่วนที่เกี่ยวข้อง สามารถควบคุมพาหะนำโรคจากภายนอกประเทศได้ เพราะหากอ้างเหตุแบบเหวี่ยงแห ลงมาระดับล่างแบบนี้ อาจถูกมองว่า มีธง คือ ต้องการขยาย พรก.แบบเดือนต่อเดือนไปเรื่อยๆ
ลุแก่อำนาจ !!
ไม่สนเรื่องของเศรษฐกิจที่กำลังจะล้มครืน ผู้คนระดับล่างทะยอยฆ่าตัวตายทุกวัน
ถ้าเอาสถิติยอดคนตาย เพราะหนีปัญหาหนี้สิน เรื่องของปากท้อง ฟันธงได้ชัดมาก
สถิติการตายของประชาชนพวกนี้ มากกว่าการตายการโรคโควิดในประเทศที่ยังคงตัวเลข ที่ 58 ศพ หลายเท่าตัว
การต่ออายุพรก.ออกไปเรื่อยๆ เท่ากับเป็นการเพิ่มขยายตัวเลขของประชาชนที่ฆ่าตัวตายหนีปัญหาปากทัอง และเพิ่มขยายตัวเลขคนตกงานอีกจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกข์ชาวบ้านถูกละเลย รัฐเยียวยาได้เพียงเศษเงินไม่กี่พันบาท ที่สำคัญไม่ทั่วถึง ขณะที่ข้าราชการบางส่วน บางตำแหน่งมีรายได้เพิ่มขึ้น แม้กระทั่ง สว.ในสภาสูง ที่ทำงานไม่คุ้มหน้าที่ ข้าราชการการเมืองระดับสูง ที่ไม่เดือดร้อนรายได้
ทั้งหมดจึงมองข้ามหัวประชาชนทั้งประเทศ แบบใจดำมากๆ หรือมีนัยยะมากกว่านั้น กลัวไปถึงม็อบต่างๆ ที่กำลังรวมตัวต่อต้านอำนาจเบ็ดเสร็จ ที่ในหัวใจผู้บริหาร ไม่เคยคำนึงถึงน้ำตาชาวบ้าน ยอมข้ามศพประชาชน เพื่ออำนาจที่หวังจะถาวร
พวกท่านกำลังคิดผิด
ดูถูกประชาชนชาวไทยมากเกินไปแล้ว.
อิทธิเดช ลุย.