วันที่ 3 ก.ค.63 เวลา 14.00 น. ณ ห้องศูนย์ TIC ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาธร กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี, พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก. ตม.1 และ พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.ตม.จ.สุรินทร์ ปฏิบัติราชการ กก.สส.บก.ตม.1 ร่วมกันแถลงข่าว ดังนี้
สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 23 พ.ค.63 กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ได้ทลายแก๊งโรแมนส์สแกมชาวแอฟริกัน ได้ที่ถนนเพชรบุรี 17 แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพ ได้จำนวน 3 ราย เป็นชายชาวไนจีเรีย 2 ราย และหญิงชาวไทยอีก 1 ราย
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1 ได้สั่งการให้ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ทำการสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมสมาชิกในแก๊งดังกล่าว เนื่องจากการจับกุมในครั้งนั้นสามารถจับกุมสมาชิกทีมกดเงินและสมาชิกทีมรับเงินฟอกเงินได้ และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินยังพบบัญชีผีของธนาคารต่างๆ อีกจำนวน 14 บัญชี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวนขยายผลติดตามตัวสมาชิกทีมรับจ้างหาคนเปิดบัญชี จนสามารถสืบทราบและติดตามตัวเจ้าของบัญชีผีทั้ง 14 คน มาทำการสอบปากคำจนทราบว่า ได้รับการว่าจ้างจาก นายธงชัยฯ ให้เป็นผู้เปิดบัญชี โดยเสนอเงินให้จำนวน 1,500 บาท ต่อการเปิดบัญชีธนาคาร 1 ครั้ง พร้อมบัตร ATM ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ และสำเนาบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูล
จึงพบว่า นายธงชัยฯ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมา ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงในการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เดินทางไปยังจังหวัดกาฬสินธุ์ บ้านเกิดของผู้ต้องหา
จากการสอบถามคนในหมู่บ้านทราบว่านายธงชัยฯ มีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติซึ่งรู้จักกันในเรือนจำ และในแต่ละเดือนมักได้รับการติดต่อจากเพื่อนชาวต่างชาติให้เดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียงอยู่เป็นประจำ เมื่อสอบถามถึงพฤติกรรมของนายธงชัยฯ หลังจากออกมาจากเรือนจำ ทราบว่าได้ทำการชักชวนคนในหมู่บ้านให้ช่วยเปิดบัญชีธนาคารพร้อมบัตร ATM ซิมการ์ดโทรศัพท์ พร้อมขอสำเนาบัตรประจำตัวไปด้วย
โดยนายธงชัยฯ จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้ทั้งหมดและจะจ่ายเงินค่าจ้างในภายหลัง ซึ่งได้ชักชวนมาแล้วหลายคนและไม่ได้บอกถึงวัตถุประสงค์ว่าจะนำไปใช้เพื่ออะไร และนายธงชัยฯ เองก็มักจะไปเปิดบัญชีธนาคารอยู่บ่อยๆ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการประสานไปยังธนาคารพาณิชย์ต่างๆ เพื่อขอตรวจสอบข้อมูลของนายธงชัยฯ
จากการตรวจสอบทราบว่านายธงชัยฯ ได้เปิดบัญชีธนาคารมาหลายแห่ง และมีบางบัญชีได้ถูกอายัดไว้แล้ว เนื่องจากผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงได้ขออายัดไว้ได้ทันก่อนทีมม้ากดจะกดเงินออกไป ทำให้เงินของผู้เสียหายยังคงค้างอยู่ในบัญชี นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังได้ประสานไปยังธนาคารต่างๆ หากพบตัวนายธงชัยฯ ให้ทำการติดต่อหรือแจ้งชุดสืบสวนทราบด้วย
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.63 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้สืบทราบว่านายธงชัยฯ จะเข้าไปติดต่อเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินในธนาคารแห่งหนึ่ง จึงได้จัดกำลังแฝงตัวเฝ้ารอยังบริเวณธนาคารดังกล่าว จนกระทั่งพบนายธงชัยฯ กำลังจะเข้าไปยังธนาคาร เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและขอตรวจสอบ นายธงชัยฯ รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมา จริง จึงได้ทำการจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 จะได้ทำการสืบสวนขยายผลสมาชิกแก๊งโรแมนส์สแกมดังกล่าวต่อไป
พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหา นคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน