โลกทั้งใบไม่กล้าทำ
โปรดสังเกตดูในช่วงเวลานี้ มีความเห็นจากนายแพทย์หลายท่าน ที่ดาหน้าให้ความเห็น แทบจะตรงกัน เป็นการเห็นด้วยกับ การยืดอายุพรก.ฉุกเฉินของรัฐบาลถึงสิ้นเดือนและอาจต่ออายุออกไปอีกเรื่อยๆ ผ่านทางสื่อมวลชน หลายช่องทาง โดยอ้างถึงสถานการณ์โควิด 19 ของโลก
ในทางกลับกัน การไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ เป็นเวลานานกว่า 40 วันแล้ว 3 เท่าของระยะเวลาเฝ้าระวัง !! คงพบผู้ติดเชื้อ แต่เพียงผู้เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ ที่รัฐกักตัวไว้ในสถานควบคุมโรคตามโรงแรมในกทม.และปริมณฑล เป็นตัวเลขสะสม
ท่ามกลางการ ใช้ พรก.ฉุกเฉิน ที่ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีบูรณาการหน่วยงานรัฐ ขณะเดียวกันช่วงเวลานี้ รัฐได้เปิดโอกาสให้สถานประกอบการเฟส 5 อาบ อบ นวด ผับ บาร์ คาราโอเกะ ร้านเกมส์ โต๊ะสนุกเกอร์ เปิดให้บริการในเวลาควบคุมไม่เกินเที่ยงคืนทุกวัน
นับหนึ่งของการเริ่ม จากวันที่ 1 ก.ค.ถึงตอนนี้เป็นเวลา 1 สัปดาห์พอดี
ประเด็นสำคัญต้องยอมรับ คือ ปรากฏการณ์ที่คนไทยสามัคคีกันมาก กับการสู้ภัยโควิด ทั้งผู้ประกอบการต่างๆ และ ประชาชน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ประเทศเราจึงชนะ มิใช่รัฐบาลชนะฝ่ายเดียว แต่สิ่งที่กำลังจะตามมาซ้ำเติมคนในประเทศ และสร้างความไม่เข้าใจเป็นวงกว้าง นั่นก็คือ การเปิดโอกาส ให้คนต่างประเทศที่ติดเชื้อ โควิด 19 เข้ามารักษาตัวในประเทศไทย หวังสร้างรายได้ให้ใคร ?? แพทย์ โรงพยาบาล หรือ ผู้มีอำนาจของรัฐ เป็นเรื่องที่ทุกประเทศในโลกไม่กล้าทำ ใครจะกล้านำผู้ติดเชื้อเข้าประเทศ
ในทางกลับกันความเห็นแพทย์หลายท่าน ที่นำเสนอถึงรัฐบาล กลับไม่เห็นด้วยกับการเปิดรับนักท่องเที่ยว เข้าประเทศ ที่อาจพอรับได้กับเหตุผล สถานการณ์โควิดโลก ยังลุกลาม
ด้วยเหตุนี้
พื้นที่คอลัมน์นี้ ขอเป็นส่วนหนึ่ง ที่คัดค้านสุดโต่ง ถึงการนำผู้ป่วยโควิด จากต่างประเทศเข้ามาในประเทศเรา
หาเรื่องเดือดร้อนกันทำไม ??
คนไทยทั้งประเทศ ต้องร่วมกันทุกข์ ร่วมชะตากรรม กับ การตัดสินใจ ของรัฐบาลกับเรื่องห่วยนี้ด้วยหรือ ??
หากปล่อยวางกัน ขอฟันธง ว่า พรก.ฉุกเฉินคงยืดขยายเวลาออกไปเรื่อย เพราะถึงตอนนั้น ประเทศไทยเราอาจเจอกับการระบาดของโควิด 19 ระลอกสอง จากเชื้อนำเข้า ที่มาจากผู้ป่วยและ เครือญาติ ที่ติดตามมา รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง อาจติดเขื้อโดยไม่รู้ตัว ก็เป็นได้
หยุดหาเรื่องเถอะ คนในประเทศเจ็บช้ำเพราะโควิดมานานหลายเดือนแล้ว ไม่มีประเทศใดในโลกนี้ คิดโง่ และทำกันด้วยเรื่องห่วยแตกเช่นนี้.
อิทธิเดช ลุย.