วันที่ 9 ก.ค.63 เวลา 10.30 น. ณ ห้องศูนย์ TIC ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาธร กทม.: พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ,พ.ต.อ.เอกกมนต์ พรชูเกียรติ, พ.ต.อ.ชัยยศ วรักษ์จุนเกียรติ รอง ผบก.ตม.4 และ พ.ต.อ.พรรณศักดิ์ วรวิบูลย์สวัสดิ์ ผกก.ตม.จ.มุกดาหาร ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา ดังนี้
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.63 ตม.จ.มุกดาหาร และ สภ.หนองสูง ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายแพนศักดิ์ อายุ 60 ปี สัญชาติไทยข้อหา “ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับ กุม” และคนต่างด้าวสัญชาติลาว 6 คน ในข้อหา “เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนการจับกุมชุดสืบสวน ตม.จ.มุกดาหาร สืบทราบว่า มีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวซึ่งลักลอบเข้าประเทศช่วงที่ยังไม่เปิดพรมแดน โดยจะมีรถยนต์โดยสารแอบซุกซ่อนไปส่งยังกรุงเทพฯ
ทั้งนี้กลุ่มคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองดังกล่าว ไม่ผ่านกระบวนการคัดกรองโรค หรือ STATE QUARANTINE กระทบต่อการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง ศบค. และนโยบายของรัฐบาล โดยชุดสืบสวนได้ข้อมูลว่าคนต่างด้าวได้หลบอาศัยอยู่ในเขต จ.มุกดาหาร แล้วจะมีนายหน้าแจ้งกำหนดวันเวลาให้ไปขึ้นรถประจำทางที่ บขส. จังหวัดมุกดาหาร และมีข้อมูลว่าในวันเกิดเหตุจะมีรถประจำทางสายมุกดาหาร-กรุงเทพฯ จะลักลอบขนคนต่างด้าว จึงวางกำลังเพื่อสกัดจับ
จนกระทั่งพบรถประจำทางต้องสงสัยมีนายแพนศักดิ์ ขับออกจากสถานีขนส่งโดยไม่มีผู้โดย สารนั่งบนรถ ชุดสืบสวนจึงขับรถติดตามเมื่อมาถึงเขต อ.หนองสูง ได้ประสานขอกำลังเพื่อหยุดรถแล้วขึ้นตรวจสอบบนรถ พบคนต่างด้าวสัญชาติลาว 6 คน หลบอยู่ในห้องพักพนักงานขับรถ ตรวจสอบแล้วไม่มีเอกสารการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยถูกต้องแต่อย่างใด นายแพนศักดิ์ฯ ยอมรับว่ามีผู้มาติดต่อว่าจ้างเป็นเงิน 6,000 บาท ให้ขนคนต่างด้าวไปยังกรุงเทพฯ จึงจับกุมตัวพร้อมยึดรถยนต์โดยสารส่ง พงส.สภ.หนองสูงดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวด ขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน