ข่าวใหม่อัพเดท » ศปชก.ตร. ทลายขบวนการต่างด้าว หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนมาตรการโควิด

ศปชก.ตร. ทลายขบวนการต่างด้าว หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนมาตรการโควิด

12 กรกฎาคม 2020
0

ศปชก.ตร. ทลายขบวนการต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนมาตรการโควิด

วันที่​ 11 ก.ค.63​ เวลา 11.30 น.ที่ สภ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา​ : พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบช.ประจำ ตร. รองหัวหน้าศูนย์คนร้ายข้ามชาติ และเข้าเมืองผิดกฏหมาย แถลงข่าว​ผลการจับกุม ขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมือง       

พล.ต.ท.ชยพลฯ​ กล่าว​ว่า​ สืบเนื่องมาจากวิกฤตสถานการณ์โควิดซึ่งมีการแพร่ระบาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และทางรัฐบาลโดย ศคบ.ได้กำหนดมาตรการปิดด่านเข้าออกประเทศทั้งหมด ทำให้สถานการณ์ในประเทศดีขึ้น ประเทศไทยปราศจากตัวเลขผู้ติดเชื้อภายในประเทศมาเป็นเวลาเกือบสองเดือน คงมีแต่ผู้มีสัญชาติไทยที่มีสิทธิและประสงค์จะเดินเข้าประเทศ ซึ่งมีการตรวจพบเชื้อและถูกกักตัวอยู่ใน state quarantine (สถานที่กักกันโรคของรัฐ) เท่านั้น แต่ด้วยสถานการณ์ในประเทศที่ดีขึ้น ทำให้ทิศทางด้านเศรษฐกิจดีมีการจ้างงานมากขึ้น ทำให้เกิดภาวะความต้องการในตลาดแรงงาน จึงมีการลักลอบขนคนงานจากประเทศที่มีพรมแดนติดประเทศเพื่อเข้ามาทำงานตอบสนองความต้องการของตลาด และเหตุผลดังกล่าวรัฐบาลได้ตระหนักถึงสถานการณ์ดังกล่าวและเป็นห่วงว่าอาจเกิดการแพร่ระบาดของโรครอบสองขึ้นจากกลุ่มแรงงาน จึงได้กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดปราบปรามขบวนการดังกล่าวโดยเคร่งครัด

จากมาตรการดังกล่าว ศปชก.ตร.ได้รับทราบแนวทางและเล็งเห็นความสำคัญ จึงได้สืบสวนหาข่าวจนทราบพฤติการณ์ว่า กลุ่มขบวนการดังกล่าวเกิดจากแรงงานประเทศเพื่อนบ้านที่เคยทำงานในประเทศและอยากจะกลับมาทำงานในประเทศไทยอีกครั้ง ได้ติดต่อกับนายหน้าต่างชาติเพื่อให้ช่วยหาวิธีลักลอบการตรวจตราตามแนวชายแดนของเจ้าหน้าที่ของรัฐ (ชายแดนไทยกัมพูชา ระยะทางกว่า 500 กม.) ภายหลังจากการติดต่อนายหน้าต่างชาติก็จะประสานกับนายหน้าฝั่งไทย และหาช่องทางธรรมชาติหลบหนีเข้ามาในจังหวัดชายแดน เช่น อ.ตาพระยา อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ต่อมาจึงได้ลำเลียงเข้ามาพักไว้ที่เขตพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราก่อนที่จะกระจายไปส่งยังจุดต่างๆ ในพื้นที่ชั้นใน โดยนายหน้าฝั่งไทยจะว่าจ้างรถรับจ้างมารับแรงงานเพื่อนำส่งตามจุดหมายปลายทางที่แรงงานจะไปทำงานอีกชั้นหนึ่ง จากข้อมูลดังกล่าวจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและวางแผนการจับกุม

ต่อมาเมื่อวันที่ 11 ก.ค.63​ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร ที่ปรึกษาพิเศษ ตร., พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบช.ประจำ ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปชก.ตร., พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา, พ.ต.อ.โสฬส เอี่ยมสะอาด รอง ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา, พ.ต.อ.ชาติ งานพิทักษ์ ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ร่วมกับ กอรมน.จังหวัดฉะเชิงเทรา โดย พ.อ.เฉลิม เนียมช่วย รอง ผอ.กอรมน.และฝ่ายปกครองจังหวัดฉะเชิงเทรา โดย นายเอก อิทธิยาภรณ์ ปลัดอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการ ศปชก.ตร.นำโดย พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบก.ทว.สพฐ., พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ รอง ผบก.พฐ./หน.ชป.1ฯ, พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รอง ผบก.ตม.1/หน.ชป.2ฯ, พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบก.ตม.3/หน.ชป.3ฯ ได้ประสานการปฏิบัติกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจภูธรภาค 1 วางแผนจับกุม 

โดยได้ส่งคนไปซุ่มสังเกตการณ์ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันเดียวกันได้สังเกตเห็นรถยนต์เป้าหมาย จำนวน 1 คัน ขับเข้ามาในบริเวณดังกล่าว จึงได้สะกดรอยติดตาม เมื่อไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุพบกลุ่มผู้ต้องหาคือ นายชวลิต ผดุงเวช กับพวก และแรงงานต่างด้าว เกือบ 100 คน พร้อมด้วยรถยนต์ที่จะนำส่งแรงงานอีก 4 คัน จอดอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามให้การรับสารภาพว่า นายชวลิตฯ ทำหน้าที่เป็นผู้รับแรงงานต่างด้าวซึ่งหลบหนีเข้าเมืองจากจังหวัดสระแก้ว แล้วลักลอบนำเข้ามาในจุดดังกล่าว ก่อนที่จะให้ผู้ต้องหาที่เหลือได้แก่

นายวิโรจน์ เขจรสาย, นายสุคล วงค์สุพรรณ์, นายองอาจ ทดทสี และนายณัฐพงษ์ ดอนสินพูล ซึ่งทำหน้าที่รับส่งคนงานเข้าสู่พื้นที่ชั้นในอีกต่อหนึ่งเป็นผู้นำพาคนงานต่างด้าวไปส่งต่อไป ทั้งนี้จากการซักถาม นายชวลิตฯ รับว่าตนจะรับเงินค่าหัวแรงงานต่างด้าวมาหัวละ 1,000 บาท ก่อนที่จะมาแบ่งให้กับคนขับรถแต่ละคันหัวละ 300 บาท ในส่วนของแรงงานต่างด้าวรับว่าเสียค่าจ้างให้กับนายหน้าต่างชาติในการนำเข้ามาประมาณ 3,000-4,000 บาท รายละเอียดอยู่ระหว่างการขยายผล ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทั้ง 5 ได้แก่​

  1. นายชวลิต ผดุงเวช ที่อยู่ 138 ม.1 ต.หนองบอน อ.เมือง จ.สระแก้ว
  2. นายวิโรจน์ เขจรสาย ที่อยู่ 111/192 ม.1 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
  3. นายสุคล วงค์สุพรรณ์ ที่อยู่ 167/12 ม.3 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
  4. นายองอาจ ทดทสี ที่อยู่ 105 ม.16 ต.บ้านหวาย อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม​
  5. นายณัฐพงษ์ ดอนสินพูล ที่อยู่ 195 ม.8 ต.หลักเหลี่ยม อ.นามน จ.กาฬสินธุ์

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกัน​ รู้ว่าคนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”

และแจ้งข้อกล่าวหาแรงงานต่างด้าว จำนวนประมาณ 88 คน ว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคตามข้อกำหนดในมาตรา 9 ฉบับที่1 ข้อ5 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ” พร้อมตรวจยึดรถยนต์ของกลาง จำนวน 5 คัน ได้แก่​

  1. รถยนต์กระบะอิซูซุ สีเทา ทะเบียนป้ายแดง ง-7475 กทม.
  2. รถยนต์กระบะอิซูซุ สีดำ ทะเบียน บล-4769 กาฬสินธุ์
  3. รถยนต์กระบะนิสสัน สีดำ ทะเบียน บล-9420 สุพรรณบุรี
  4. รถยนต์กระบะอิซูซุ สีดำ ทะเบียน 1ฒข-3471 กทม.​
  5. รถยนต์กระบะนิสสัน สีขาว ทะเบียน กล-6584 ระยอง​

พร้อมโทรศัพท์มือถือและเอกสารอื่นๆ เพื่อขยายผลและออกหมายจับนายหน้าในกลุ่มขบวนการต่อไป


สุรเชษฐ​ ศิลา​นนท์​ รายงาน​

error: Content is protected !!