ข่าวใหม่อัพเดท » เกาะดอนแพง คืบหน้า !! ชาวบ้านร่วมเทศบาลฯ ชี้แนวเขตทำกิน ผญบ.รับจ๊อบประกาศให้ไปคุยซ้อใหญ่ แคลงใจข้าราชการบางคนเกียร์ว่าง

เกาะดอนแพง คืบหน้า !! ชาวบ้านร่วมเทศบาลฯ ชี้แนวเขตทำกิน ผญบ.รับจ๊อบประกาศให้ไปคุยซ้อใหญ่ แคลงใจข้าราชการบางคนเกียร์ว่าง

13 กรกฎาคม 2020
0

นครพนม – เกาะดอนแพง คืบหน้า !! ชาวบ้านร่วมเทศบาลฯชี้แนวเขตทำกิน ผญบ. รับจ๊อบประกาศให้ไปคุยซ้อใหญ่ แคลงใจข้าราชการบางคนเกียร์ว่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการครอบครองที่ดินเกาะดอนแพง ซึ่งเกิดจากตะกอนดินในแม่น้ำโขงไหลมาทับถมจนเกิดเป็นพื้นดินขนาดใหญ่ มีเนื้อที่เกือบ 5 พันไร่ ครอบคลุมพื้นที่บ้านหัวหาด หมู่ 12 จรดบ้านท่าลาด หมู่ 9 ต.บ้านแพง เขตเทศบาลตำบลบ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ระยะทางยาวประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งเหมาะแก่การทำเกษตรทุกชนิด โดยเกษตรกรส่วนใหญ่จะปลูกพืชประจำถิ่น เช่น ใบยาสูบ มะเขือเทศ ข้าวโพดหวาน ฟักทอง แตงกวา พริกฯลฯ ปรากฏว่ามีคหบดีมีชื่อโผล่เข้าไปครอบครองที่ดินดังกล่าวมากถึง 62 แปลง ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด วันที่ 13 กรกฎาคม 2563 นายดนัย สิทธิวัชระชัย นายกเทศมนตรีตำบลบ้านแพง มีหนังสือที่ นพ 52511 แจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 และหมู่ 11 อ้างถึงหนังสือฯ ที่ นพ 52511/ว 482 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2563 กรณีได้ขอความอนุเคราะห์กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เขตพื้นที่เทศบาลตำบลฯ ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกร ประชาชน ที่ทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ”เกาะดอนแพง” มาลงทะเบียนในที่ดินที่ทำประโยชน์ สำหรับที่ดินส่วนที่ 1 พื้นที่ 2,429 ไร่ และส่วนที่ 2 พื้นที่ประมาณ 690 ไร่ ซึ่งเทศบาลฯยังไม่ดำเนินการจัดทำแผนผังการจัดหาผลประโยชน์ นั้น และเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของเกษตรกร ประชาชน ที่ทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐเกาะดอนแพง ในส่วนที่ 2 บริเวณท่ากกไฮ ติดร่องบุ่งทางทิศตะวันออก จึงให้เกษตรกรฯบริเวณดังกล่าว ลงพื้นที่ชี้แนวเขตที่ดินที่ตนเองใช้ประโยชน์ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบ้านแพง ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบกับนายจรัส ไชยมนตรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 พร้อมเปิดเผยว่าราษฎรในความดูแลของตน ที่ทำประโยชน์ในที่ดินเกาะดอนแพงมีประมาณ 30 ราย ได้ไปชี้แนวเขตที่ดินร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลฯเรียบร้อยแล้ว โดยทั้งหมดเป็นเจ้าของเดิมที่จับจองมานานกว่า 30 ปี

ขณะที่นายเอก ธิดาวรรณ อายุ 54 ปี และภรรยาชื่อนางสุดตา วงศ์หมอก อายุ 46 ปี ปลูกพริกบนพื้นที่เกาะดอนแพงหมู่ 7 ต.บ้านแพง เล่าว่าประกอบอาชีพเกษตรกรมาแต่บรรพบุรุษ โดยจะปลูกพืชหมุนเวียนเช่น พริก มะเขือเทศ และฟักทอง ทราบจากเจ้าหน้าที่ฯจะมีการจัดสรรที่ดินใหม่ เพื่อให้เกษตรกรตัวจริงเข้าทำประโยชน์ รู้สึกดีใจและเป็นสิ่งที่ดี เท่าที่ทราบมีการนำที่ดินไปให้คนอื่นเช่าแปลงละ 5,000 บาท ถือว่าไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐ ที่ให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แต่ยังมีผู้ใหญ่บ้านบางคน พูดออกเสียงตามสายให้เกษตรกรไปไถ่ถอนที่ดินกับซ้อใหญ่นายทุนคนดังก่อนค่อยไปชี้แนวเขตที่ดินฯ ขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท่านหนึ่งทราบเรื่อง สั่งชาวบ้านไม่ให้ไปไถ่ถอนหรือจ่ายค่าเช่ากับซ้อใหญ่ จนกว่าทางราชการจัดระเบียบเสร็จแล้ว จึงจะแจ้งให้ชาวบ้านไปจ่ายค่าเช่ากับทางรัฐ ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวจะเข้าคลัง เพื่อนำกลับมาช่วยเหลือประชาชนในรูปแบบต่างๆ ไม่ใช่เข้ากระเป๋านายทุนเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งปัญหาดังกล่าวก็มีฝ่ายปกครองบางคนใส่เกียร์ว่าง ไม่ยอมสั่งการอะไรให้ผู้ใต้บังคับบัญชา

ที่ดินเกาะดอนแพงเป็นมหากาพย์มานานกว่า 30 ปี ตามหลักฐานระบุเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2502 พล.ต.อ.หลวงชาติตระการโกศล ปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการในหน้าที่ รมว.มหาดไทย มอบหมายให้จังหวัดนครพนม มีอำนาจจัดหาผลประโยชน์ในที่ดินของรัฐอันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินเกาะดอนแพง โดยการจัดให้เช่าเป็นจำนวนเนื้อที่กว่า 2 พันไร่ เพื่อนำรายได้ปรับปรุงบำรุงที่ดินเกาะดอนแพงและท้องถิ่นส่วนจังหวัดฯ โดยเก็บค่าธรรมเนียมเข้าคลังปีละ 20 บาท/แปลง และเกษตรกรต้องไปลงทะเบียนแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ทุกปี เพื่อยืนยันตัวตนและต้องแจ้งด้วยว่าปีนี้จะปลูกพืชชนิดไหน เป็นต้น

ภายหลังมีนายทุนจำหน่ายอุปกรณ์ทางการเกษตร ปล่อยสินค้าให้เกษตรกร เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ฯลฯ โดยคิดเงินสูงกว่าปกติ เมื่อถึงช่วงเก็บเกี่ยวต้องนำเงินค่าสินค้าส่งคืน เกษตรกรบางคนไม่สามารถส่งเงินดังกล่าวคืนได้ ก็จะถูกยึดที่ดินแปลงนั้น แล้วนำไปให้เกษตรกรรายอื่นเช่าในราคาไร่ละ 5-7 พันบาท/ปี โดยไม่ต้องเสียภาษีให้รัฐเป็นเวลากว่า 30 ปี กระทั่งมีผู้ร้องเรียนนายทุนรายนี้ จึงมีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกรขึ้นใหม่ทั้งหมด โดยนายทุนมีชื่อเป็นผู้ครอบครองที่ดินเกาะดอนแพงมากถึง 60 กว่าแปลง

ซึ่งต่อมาทางจังหวัดนครพนม มอบหมายให้ นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานตรวจสอบข้อเท็จจริง และสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกนายปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ปรากฏว่ามีข้าราชการบางคนใส่เกียร์ว่างไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่ง อาจเพราะเคยมีญาติเป็นสายสัมพันธ์กับนายทุนจึงเลือกที่จะนิ่ง ทำให้ชาวบ้านเริ่มไม่ไว้ใจการปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการรายนี้


ภาพ/ข่าว เทพพนม รายงาน

error: Content is protected !!