ตัวแทนผู้ผ่านการอบรมพัฒนาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สถานศึกษายื่นข้อเสนอ 4 ข้อให้ รมต.ศธ.พิจารณาช่วยเหลือและเยียวยา
วันที่ 15 ก.ค.63 ที่ห้องราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ : นายสมชาย ชาญหิรัญกาญจน์ ประธานชมรมผู้ผ่านการอบรมและพัฒนาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษารุ่นที่ 2 พร้อมด้วยนายภัทรพงศ์ อนุธรรมตัวแทนผู้ผ่านการอบรมฯ และนายปรีดา บุญเพลิง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคครูไทยเพื่อประชาชน ได้เข้ายื่นหนังสือกับนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายอัมพร พินะสาเลขา ก.ค.ช.
เพื่อเรียกร้องให้ รมต.ศธ.พิจารณา ช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ผ่านการอบรมและพัฒนาฯสังกัด สำนักงานประถมศึกษา จำนวน 1,702 คนผู้ผ่านการอบรมและ พัฒนาฯสังกัดสำนักงานมัธยม ศึกษาจำนวน 582 คน รวม 2,284 คนซึ่งไม่สามารถบรรจุแต่งตั้งได้เพราะติดเงื่อนไขว่าด้วย การจัดสรรคืนอัตราเกษียณอายุราชการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำปี 2563 เฉพาะโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 120 คนลงมาและมติคณะรัฐมนตรีเรื่องการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กในสังกัดสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานปีงบ ประมาณ 2562 จึงทำให้ผู้ผ่านการอบรมพัฒนาฯ อีกจำนวน 2,284 คนไม่สามารถบรรจุได้
ดังนั้นในนามตัวแทนผู้ผ่านการอบรมและพัฒนาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา รุ่นที่ 2-10/2562 ทั่วประเทศขอเรียกร้องให้นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หาทางช่วยเหลือผู้ผ่านการอบรมและพัฒนาฯ ดังนี้
- ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ประกาศเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถยืมบัญชีผู้ผ่านการอบรมและพัฒนาฯ ก่อนแต่งตั้งข้ามสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดได้
- ขอให้เลื่อนการสอบผู้อำนวยการสถานศึกษากรณีไม่มีผู้ขึ้นบัญชีผู้ผ่านการอบรมและพัฒนาออกไปก่อนจนกว่าผู้ผ่านการอบรมและพัฒนาฯได้บรรจุหมดทุกคน
- ให้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐหรือคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจัดสรรคืนอัตราตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา ทั้งหมดจากการเกษียณอายุราชการเมื่อปีงบประมาณ2562 ให้เร็วที่สุด
- ให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาหรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งจนกว่าผู้ผ่านการอบรมและพัฒนาฯจะได้รับการบรรจุหมดทุกคนและทุก กศจ.
ทั้งนี้หากข้อเสนอตามข้อ 1,2,3 ดำเนินการไม่ได้ ก็ขอให้ทางรมต.ช่วยเหลือพิจารณาข้อที่สามารถดำเนินการได้ก่อนและให้แล้วเสร็จไม่เกิน 15-30 วันเป็นอย่างช้า ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของทางราชการและช่วยประหยัดงบประมาณของประเทศชาติอีกด้วย
หลังจากนายนัฏฐพล ทีปสุวรรณรมต.กระทรวงศึกษาธิการ ได้รับฟังข้อเสนอและข้อเรียกร้องต่างๆของตัวแทนผู้ผ่านการอบรมฯ แล้ว โดยได้กล่าวว่าจะช่วยดูเรื่องนี้ให้อย่างเร่งด่วนแต่ต้องถูกกฏหมาย ผมเห็นใจผู้ที่ประสบปัญหาในเรื่องนี้แต่ขอให้เข้าใจด้วยว่าปัญหาในกระทรวงสาธารณสุขนั้นมีปัญหาหมักหมมมานานผมก็พยามแก้ไขทุกอย่างให้ดีขึ้นเป็นลำดับแต่ทั้งนี้อาจต้องใช้เวลาบ้างขอให้เข้าใจด้วยซึ่งผมจะทำให้ดีที่สุดและจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน