ผบ.ตร.คนใหม่
ดูเหมือนการแต่งตั้งแม่ทัพสีกากี ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเริ่มขยับเร็วขึ้น สาเหตุหลักจากการลาออกของรัฐมนตรี 4 กุมาร เพื่อปรับครม.ประยุทธ 2/2 อย่างมีนัยยะทางการเมือง
เกิดข่าวลือสะพัด เจ้าของเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อย่าง “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เตรียมตัวลาออกก่อนครบวาระเกษียณอายุราชการ สิ้นเดือนกันยายน เป็นการลาออกก่อนกำหนด เพื่อก้าวสู่เวทีทางการเมือง ในตำแหน่งรัฐมนตรี ฝ่ากติกาข้อห้าม สมาชิกวุฒิสภา ( สว.) ต้องเว้นวรรค 2 ปี จึงมีสิทธิเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาล
ด้วยข้ออ้าง เป็นสว.โดยตำแหน่ง ไม่มีบทบัญญัติห้ามไว้ เป็นลายลักษณ์อักษร
เป็นกติกาใหม่ ที่นิยมใช้ในยุค ลุงตู่ – ลุงป้อม
ทำไม่ได้ ไม่มี !!
อาจมีผบ.เหล่าทัพ เพื่อนคู่ใจ ลาออกมาเพื่อการนี้ด้วย แต่ชื่อ “บิ๊กแป๊ะ” ถือว่า ออกมาก่อน เพื่อโยนหินถามทาง เมื่อตำแหน่ง ผบ.ตร.ถูกเปิดให้ว่างลง ไทม์ไลน์ของกระบวนการสรรหาผู้เหมาะสมเพื่อแต่งตั้งเป็นผบ.ตร.คนใหม่ จึงกระชับเร็วขึ้น ตรวจแถวรอง ผบ.ตร.ที่เรียงหน้าเป็นแคนดิเดท มีด้วยกัน 3 ท่าน ประกอบด้วย “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข นรต.36 เกษียณอายุ 2565, “บิ๊กนู” พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก นรต.38 เกษียณอายุ 2564 และ”บิ๊กใหม่” พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ นรต.36 เกษียณอายุ 2565
แม้จะมีความพยายามผลักดันเป็นแคนดิเดท แบบมีที่มาที่ไปทุกคน
มีการจัดวางอันดับ มือวางอันดับ 1 ขั้วการเมืองรัฐบาล นำโดยลุงตู่ ลุงป้อม อาแป๊ะและอาแดง ดันชื่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ฯ สุดลิ่มเป็นทิศทางเดียวกัน ก้าวสู่บัลลังก์ “พิทักษ์1″คนใหม่ เพื่อฝากฝังและจัดทำบัญชีแต่งตั้งในระนาบต่อไปโดยง่าย แบบวิน วิน
ขณะที่ “บิ๊กนู” พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก ถูกจัดเป็นมือวางอันดับ 2 โดยมีพลังจากพรหมมานุสรณ์ คอนเนคชั่น และอดีต ผบ.ตร.อย่าง พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ หากก้าวสู่บัลลังก์ “พิทักษ์1” การโยกย้ายในระนาบต่อๆไป จะมีพลังสายการเมืองฝากฝังได้น้อยมาก และสามารถพิจารณาผลงานตามความสามารถได้เต็มที่ ในระยะเวลา 1 ปีเศษ ที่อยู่ในตำแหน่ง ผบ.ตร.
ส่วน มือวางอันดับ 3 อย่าง”บิ๊กใหม่” พล.ต.อ.สุชาติฯ นั้นครบทั้งบู๊และบุ๋น ไม่ต้องป่าวร้อง ไม่ต้องโม้ เพราะมีผลงานในอดีตปรากฏมากมายนับไม่ถ้วน กลับวางตัวเงียบ ราวกับไม่ใช่แคนดิเดท แต่ประมาทไม่ได้ เพราะพลังจากฟ้าที่แผ่รังสีให้ หากกลายเป็นตาอยู่ เป็น”พิทักษ์1″ คนต่อไป การแต่งตั้งระนาบต่อไป คงต้องวัดกึ๋นที่ึคนทำงาน มีผลงาน และหลักคุณธรรม สายการเมืองคงมองค้อน
ทั้ง 3 แคนดิเดท ส่งผลต่ออนาคตสำนักงานตำรวจแห่งชาติและประชาชนเป็นอย่างยิ่ง
พลังการเมือง พลังแฝงที่เปี่ยมคุณธรรม กับ พลังคุณภาพ บู๊ – บุ๋น กำลังจะกลายเป็นช๊อยส์เพื่อการตัดสิน
แท้ที่จริง จะเลือกใคร ??
ที่แน่ๆ ให้คำนึงมากๆ ว่า หากใคร ?? ได้มาเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ประชาชนจะได้คุณ มากที่สุด มิใช่ !! ใครคนใด ?? คนนึง หรือผู้ถืออำนาจใดๆ ใช้อภิสิทธิแทนเจ้าของประเทศ
โปรดติดตาม ต่อจากนี้ไป.
อิทธิเดช ลุย.