ความคืบหน้ากรณีนายธนกฤต สถิจชวา หรือเสี่ยตี๋อายุ 44 ปี มีปัญหาขัดแย้งกับนายอธิป ขวัญบุญ หรือวิน อายุ 25 ปี อดีตผู้ต้องหาคดีกักตุนหน้ากาก หลังจากนายธนกฤต เป็นตัว แทนรวบรวมผู้เสียหายจากการซื้อขายหน้ากากอนามัย ฟ้องร้องนายอธิป จนทั้ง 2 ฝ่ายได้นัดเคลียร์กัน และเกิดเหตุยิงกัน บริเวณบ้านพักนายธนกฤต ภายในซอยพุทธมณฑลสาย 2 ซอย 11 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม.จากนั้นนายอธิป ทิ้งรถสปอร์ตปอร์เช่ที่เช่ามาภายในซอยดังกล่าว ก่อนหลบหนีไป
ล่าสุดนายอธิป ขวัญบุญ คนขับรถปอร์เช่เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง แล้วเมื่อประมาณ 3 โมงครึ่ง ที่ผ่านมา (4 ส.ค.) โดยให้การเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหา และตัวนายอธิป ยังไม่ได้แจ้งข้อหานายธนกฤต
ด้านนายอธิป ให้สัมภาษถึงการเดินทางมาในครั้งนี้ว่า ทางพนักงานสอบสวน ติดต่อให้เข้ามาสอบปากคำ ถึงรายละเอียดในวันเกิดเหตุ
นายอธิป ให้การว่าวันเกิดเหตุขับรถมา 3 คันเพื่อเจรจากับนายธนกฤต ที่บ้านพักและพวกของตนเองไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านเสี่ยตี๋ มีเพียงเสี่ยตี๋ที่ยิงถล่มใส่รถปอร์เช่ ของตนเองจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน และหลังเกิดเหตุ 1 วัน ยังถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ไล่ยิงย่านซอยวุฒากาศ แต่โชคดีหลบหนีมาได้ และตนจะเดินทางเข้าไปแจ้งความที่ สน.บางขุนเทียนภายในวันสองวันนี้ พร้อมยืนยันว่าความขัดแย้งในครั้งนี้มาจากการทำธุรกิจขายถุงมือทางการแพทย์ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องหน้ากากอนามัย และไม่ได้เกี่ยวข้องกับนาย พันธุ์ยศ นายอธิป บอกด้วยว่าหลังจากนี้ตนจะเแจ้งความนายธนกฤต ในข้อหาพยายามฆ่าด้วย
ด้านพันตำรวจเอก สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.หลักสอง กล่าวว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำนายอธิป ไปแล้วแต่ได้เพียงบางส่วน เบื้องต้นอ้างว่าสาเหตุเป็นเรื่องของธุรกิจ และยังไม่มีการแจ้งข้อหาทั้ง 2 ฝ่าย ต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนก่อน
นายอธิป ขวัญบุญ เจ้าของรถปอร่เช่ คันที่ถูกกระสุนปืนยิงเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 1 ส.ค.ทีผ่านมา ในวันนี้ได้เดินทางมาพร้อมทนายความเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยมีการ่ดมาอารักขาติดตามรวม 20 คน พนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบกว่า 6 ชม.และนายอธิป ได้มอบถุงมือและหน้ากากอนามัยอย่างละ 3 ลัง ให้เจ้าหน้าที่ สน.หลักสอง ไว้ใช้ในราชการก่อนเดินทางกลับ
ภาพ/ข่าว นายโยธิน พรมแตง
ผู้สื่อข่าวกอง บก. รายงาน