ข่าวใหม่อัพเดท » ศาลพิพากษาจำคุก “เทพไท -มาโนช” 2 ปี ไม่รอลงอาญา ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี คดีโกงเลือกตั้งนายก อบจ.เมืองคอน 

ศาลพิพากษาจำคุก “เทพไท -มาโนช” 2 ปี ไม่รอลงอาญา ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี คดีโกงเลือกตั้งนายก อบจ.เมืองคอน 

28 สิงหาคม 2020
0

ศาลพิพากษาจำคุก “เทพไท -มาโนช” 2 ปีไม่รอลงอาญา ตัดสิทธิ์ทางการเทือง 10 ปี คดีโกงเลือกตั้งนายก อบจ.เมืองคอน -เผยดาบสองคดีเดียวกันอัยการสูงสุดเพิ่งสั่งฟ้องโดยอัยการจะนำตัวส่งฟ้องศาลและต้องประกันตัวอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจำหน่ายคดีเพราะเป็นคดีเดียวกันและศาลพิพากษาตัดสินไปแล้วจึงถือว่าฟ้องต้องจำหน่ายคดีต่อไป

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้พิพากษาคดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อ 6 ปีก่อนนายพิชัย บุณยเกียรติ โจทก์ และนายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช จำเลยที่ 2 พี่ชายนายมาโนช เดินทางมาศาล โดยมีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีต ส.ส.พัทลุง เดินทางมาให้กำลังใจนายเทพำไท เสนพงศ์ ด้วย

และต่อศาลได้อแอกนั่งบัลลังก์อ่านคำพากษาประมาณเกือบ 20 หน้า โดยจำคุกมีคำพิพาก ษาจำคุกนายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยที่ 1 และ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ คนละ 3 ปี แต่ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุกคนละ 2 ปี โดยไม่รอลง อาญาและ ตัดสิทธิ์เลือกตั้ง 10 ปี ไม่รอลงอาญา หลังศาลพิพากษาเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลนครศรีธรรมราช ได้เข้าคุมตัวนายมาโนช และนายเทพไท โดยการสวมกุญแจมือเข้าห้องควบคุมทันที ทั้งสองเตรียมยื่นประกันสู้ในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการยื่นประกันตัวเพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรรณ์

ทั้งนี้คดีดังกล่าวเป็นคดีที่นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายกอบจ.นครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายมาโนช เป็นจำเลยที่ 1 และนายเทพไท เป็นจำเลยที่ 2 ในคดีอาญาฐานร่วมกันกระทำความผิด ในการทุจริตการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อปี 2557 ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 ในความผิดฐานเลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงแก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครอื่น และต่อสู้คดียาวนานถึงกว่า 6 ปีเต็มจนสำนวนอยู่ที่อัยการยังไม่ได้มีการสั่งคดีจนกระทั่งนายพิชัย ได้ยื่นฟ้องโดยตรงจนศาลรับพิจารณาและเข้าสู่กระบวนการนัดฟังคำพิพากษา และหลังจากศาลไต่สวนพยานโจทก์ จำเลยแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2563 และนัดพิพากษาคดีในวันนี้ (28 ส.ค.) สำนักงานอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องนายมาโนช และนายเทพไท ในวันที่ 4 ก.ค. 2563

นายพิชัย กล่าวว่า คดีนี้ตนต่อสู้คดีมาตามขั้นนตอนอย่างนาวนาน และมีความรู้สึกในกระบวน การการต่อสู้หลายจุดตนไม่ได้รับความเป็นธรรมมากนัก เพราะจำเลยเป็นผู้มากบารมี ใช้กลยุทธ์ต่างๆ ในการยื้อคดีให้ล่าช้า จนสำนวนไปอยู่ที่อัยการสูงสุดเพื่อรอการสั่งฟ้อง แต่อัยการไม่สั่งฟ้องตนจึงใช้สิทธิ์ยื่นฟ้องส่วนตัวเมื่อปลายปี 2562 จนศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ให้จำคุกคนละ 3 ปี ตัดไม่รอลงอาญา แต่ศาลยังเมตตาลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 2 ปี สิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี ซึ่งถือว่าศาลยังเป็นที่พึ่งของประชาชนได้เป็นอย่างดี และตนได้พิสูจน์สัจจะธรรมการเป็นนักการเมืองให้สังคมได้เห็นแล้ว แม้จะถูกกดดัน ถูกกระแสสังคมส่วนหนึ่งโจมตีว่า “ขี้แพ้ชวนตี” ทำให้ต้องหวานอมขมกลืนมาตลอด 6 ปี แต่ตนเห็นความสำคัญและคุณค่าของประชาชนที่ลงคะแนนเลือกตนกว่า 2 แสนคะแนนตนจึงต้องต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคนเมืองกว่า 2 แสนคน

สำหรับขั้นตอนต่อไปทางนายมาโนช และนายเทพไท ก็คงยื่นประกันตัวต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ แต่คดีเดียวกันที่อัยการสูงสุดเพิ่งมีคำสั่งฟ้องจำเลยทั้งสอง และส่งเรื่องกลับมาที่อัยการจังหงวัดนครศรีธรรมราช ทางอัยการจังหวัด ฯจะต้องเรียกตัวนายเทพไท และนายมาโนช มาส่งฟ้องศาลอีกครั้ง และต้องเข้าสู่กระบวนการตามปกติ คือจะต้องมีการประกันตัวในชั้นศาลอีกครั้ง ก่อนที่ศาลจะพิจารณาว่าเป็นคดีเดียวกัน เป็นการฟ้องซ้ำซ้อน ก็จะสั่งให้จำหน่ายคดีต่อไป


ธีรศักดิ์ อักษรกูล

error: Content is protected !!