นครพนม – ทาสยาบ้าตีเนียน ทำทีขอซื้อทองในร้าน ฉวยโอกาสชิงถูกตะครุบทันควัน ประวัติเข้าออกคุกเป็นว่าเล่นทั้งเสพและขโมย
วันที่ 14 กันยายน 2563 เวลา 09.30 น. ร.ต.อ.สุรศักดิ์ สิงห์คะ รองสารวัตรสอบสวน สภ. ธาตุพนม จ.นครพนม รับแจ้งมีเหตุชิงทองในร้านทองรุ่งโรจน์ เขตเทศบาลตำบลธาตุพนม เยื้องกับวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จึงรายงานไปยัง พ.ต.อ.ศรีนคร นัยวัฒน์ ผกก.สภ.ธาตุ พนม พร้อมประสานตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยที่เกิดเหตุด้านหน้าร้านทองรุ่งโรจน์ พบเจ้าของร้านและพลเมืองดี ช่วยกันจับกุมคนร้ายไว้ได้ พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำ รวม 5 เส้น น้ำหนักเส้นละ 1 บาท รวม 5 บาท มูลค่าประมาณ 1.5 แสนบาท
นายกฤษณ์ตพรหม นฤพรพิพัฒน์ อายุ 65 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่าขณะเกิดเหตุได้อยู่หน้าร้านกับลูกสาวคือ นางสาวณัฐฐิญา นฤพรพิพัฒน์ อายุ 30 ปี มีชายคนหนึ่งทำทีเป็นลูกค้าจะซื้อทอง โดยขอดูสร้อยคอทองคำกับทางร้านในน้ำหนักเส้นละ 1 บาท ทำทีเป็นขอดูทองลายนั้นลายนี้ ทางร้านก็หยิบมาให้ดู จำนวน 5 เส้น ขณะที่เหลียวไปจัดทองที่อยู่ในตู้โชว์ คนร้ายอาศัยจังหวะนั้นฉวยโอกาสกวาดเอาสร้อยคอทองคำทั้ง 5 เส้น พยายามวิ่งไปขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ ทะเบียน 1 กจ นครพนม 5445 ที่จอดหน้าร้านหลบหนี แต่ตนตะโกนเรียกให้พลเมืองดีที่อยู่ใกล้ร้าน ช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้ ทราบต่อมาว่าผู้ต้องหาชื่อ นายบีมี ไชยโย อายุ 43 ปี อยู่ชุมชนบ้านหัวดอน ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดี ทราบว่ารถจักรยานยนต์ของกลางเป็นของญาติผู้ต้องหาที่ยืมมาใช้ก่อเหตุ
พ.ต.อ.ศรีนคร นัยวัฒน์ ผกก.สภ.ธาตุพนม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุทางตำรวจได้ระดมกำลัง เข้าตรวจสอบจับกุมคนร้ายร่วมกับพลเมืองดี พร้อมตรวจยึดของกลาง ตรวจสอบ โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และคนร้ายไม่มีอาวุธก่อเหตุ แต่ใช้วิธีการทำทีจะขอซื้อทอง ส่วนประวัติของคนร้ายทราบว่า มีพฤติกรรมติดยาเสพติด และมีประวัติเกี่ยวกับการลักทรัพย์มาก่อน เพิ่งพ้นโทษมาไม่กี่เดือน จากการสอบสวนเบื้องต้น ให้การว่า ก่อเหตุเพราะต้องการนำเงินไปใช้จ่ายและซื้อยาบ้าเสพ โดยทางตำรวจจะได้เพิ่มมาตรการเข้ม แจ้งไปยังผู้ประกอบการให้มีการเข้มงวดตรวจสอบป้องกันมากขึ้น พร้อมจัดสายตรวจเข้าไปดูแลต่อเนื่อง
ด้าน นางสาวณัฐฐิญา นฤพรพิพัฒน์ อายุ 30 ปี ลูกสาวเจ้าของร้านทอง เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายฉวยโอกาส เข้ามาช่วงไม่มีลูกค้า ทำทีมาขอดูสร้อยคอทองคำทั่วไป ซึ่งจากการแต่งตัวไม่มีสิ่งผิดปกติว่าจะเป็นคนร้าย จึงเชื่อว่าเป็นลูกค้าที่จะมาซื้อจริง แต่ทางร้านจะมีความระมัดระวังตลอดในการขาย จึงได้นำสร้อยคอทองคำ น้ำหนักเส้นละ 1 บาท ให้ดูเพียง 5 เส้น จากนั้นเริ่มผิดปกติ หลังพบว่าคนร้ายพยายาม เอาทองทั้งหมดไปวางรวมกันในมือ ซึ่งกำลังจะขอคืนให้ดูทีละเส้น แต่คนร้ายฉวยจังหวะกำทองวิ่งหนี โดยไม่มีทีท่าขู่ทำร้าย จึงเรียกพ่อที่อยู่ใกล้ๆ และตะโกนให้ พลเมืองดีข้างร้า ช่วยจับกุมตัวได้ ขณะจะขับรถจักรยานยนต์หลบหนี พร้อมแจ้งตำรวจมาจับกุมดังกล่าว
เทพพนม รายงาน