เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 63 เวลา 09.38 น. แพทย์หญิงจีรทัศน์ พานิชอัตรา อายุ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 502/168 หมู่บ้านเมืองใหม่ดอนเมือง แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี เพื่อแจ้งความบันทึกเป็นหลักฐานกรณี ที่พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา อดีต ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ขณะนั้น ได้ฝากเงินไว้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ได้รับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 4.5 ต่อปี โดยได้ดอกเบี้ยปีละ 1,350,000 บาท (3,699 บาท/วัน) ต่อมาตนเองได้ติดต่อไปยังสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ เพื่อถอนหุ้น จำนวน 30,000,000 บาท แต่ทางสหกรณ์ฯแจ้งว่าไม่สามารถถอนเงินจนวนดังกล่าวได้
โดยแพทย์หญิงจีรทัศน์ ได้กล่าวที่ต้องถอนหุ้นเนื่องจากมีผู้ที่ต้องการกู้เงินเพื่อไปลงทุน โดยเสนออัตราดอกเบี้ยให้ ร้อยละ 8 ต่อปี โดยติดต่อขอรับเงินคืนตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. 63 ที่ผ่านมา จนผ่านมาจนถึงวันที่ 17 ก.ย.63 ตนเองก็ยังไม่ได้รับเงินหุ้นคืนทำให้เสียประโยชน์ไปจำนวน 14 วัน รายได้กว่า 40,278 บาท จึงได้มาลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
แพทย์หญิงจีรทัศน์ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อครั้ง พล.ต.ท.ชัยพร พานิชอัตรา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการจเรตำรวจ และเป็นประธาน”เครือข่ายรักษ์โลกช่วยประชาชน” ผู้ริเริ่มจัดทำโครงการสติ๊กเกอร์เตือนภัย ป้องกันไวรัส โคโรน่า โควิด-19 อดีต ผบก.ภ.จว.ลพบุรี เมื่อปี 2558 ตนเองเห็นว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจให้ดอกเบี้ยมากกว่าที่อื่นจึงได้รวบรวมเงินเดือน เงินเก็บ และเงินจากการขายที่ดินมาลงทุนหุ้นสหกรณ์ โดยใช้ชื่อสามี เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2558 ยอดเงินรวมขณะนี้ประมาณ 30 ล้านบาท เมื่อตนเองต้องการที่จะถอนหุ้นกลับถูกบ่ายเบี่ยง และได้เงินสดมาเพียง 3 ล้านบาทเท่านั้น โดยคณะกรรมการสหกรณ์ฯ แจ้งว่ามีเงินคงคลังเพียงเท่านี้ เนื่องจากนำไปลงทุน ซึ่งหากจะทำการถอนทั้งหมด ต้องประชุมคณะกรรมการทั้ง 15 คน เพื่อที่จะได้กู้ธนาคารอื่นเพื่อมาปิดบัญชีให้ และจะเชิญเข้าร่วมประชุมในวันนี้เพื่อหาข้อสรุป แต่คณะกรรมการกลับแอบประชุมกันไปก่อนหน้าหลายวันแล้ว โดยไม่ชี้แจง หรือแจ้งให้ตนทราบ ทำให้เคลือบแคลงใจกลัวจะไม่ได้รับเงินคืน
ต่อมาเมื่อเวลา 15.45 น.แพทย์หญิงจีรทัศน์ ได้เดินทางมาเพื่อขอพบกับนางสุบิน เรืองอุดมสกุล ผอ.กลุ่มส่งเสริมสหกรณ์1 สำนักงานสหกรณ์จังหวัดลพบุรี เพื่อชี้แจงและสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งทาง ผอ.ได้รับกล่าวเพียงสั้นๆว่าได้รับรายงานมาบ้างแล้ว แต่ตนเองยังไม่ได้เข้าร่วมประชุมเช่นกัน ขอเวลาเพื่อสอบสวนข้อมูลที่แน่ชัดอีกครั้ง ซึ่งทางแพทย์หญิงจีรทัศน์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยความโกรธ ว่าคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์จังหวัดลพบุรี จำนวน 15 ท่าน มีข้าราชการเกษียณเสีย 6 ท่าน อีก 9 ท่านยังรับราชการ ในคณะกรรมการสหกรณ์ฯ ประธานเป็นอดีต ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ซึ่งเกษียณอายุราชการไปนานแล้วยังดำรงตำแหน่งอยู่โดยได้กินเงินเดือนต่อเดือนประมาณ 1 หมื่นบาท และโบนัสสิ้นปีนับแสนบาท แต่ถ้าหากสหกรณ์ฯ จะขอกู้แบงค์ต่างๆ คงเป็นไปได้ยากเพราะล้วนแล้วแต่เป็นข้าราชการเกษียณ เนื่องจากทางธนาคารต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม และความเป็นไปได้ของสถาบันการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจจังหวัดลพบุรีด้วย แต่ตนเองเห็นว่าขณะนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี เริ่มสั่นคลอนไม่มีเสถียรภาพ ไม่โปร่งใส และไม่มั่นคง จึงฝากเตื่อนไปยังข้าราชการตำรวจที่ถือหุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจทุกพื้นที่ควรหมั่นตรวจสอบว่ายังมีเงินที่ตนเองถือหุ้นอยู่หรือไม่
กฤษณ์ สนใจ ลพบุรี 0890899090