“ผอ.อคส.” ร้อง DSI เพื่อยื่นเรื่องขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดี กรณีอดีตผู้บริหาร อคส. มีการทำสัญญาซื้อถุงมือยาง มูลค่ากว่าแสนล้านบาท
วันที่ 18 กันยายน2563 เวลา 15.30 น. ณ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. : นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า หรือ อคส. เข้าร้องทุกข์ กับ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดี กรณี พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาราชการแทน ผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า ที่มีการทำสัญญาซื้อถุงมือยาง มูลค่ากว่าแสนล้านบาท โดยไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ อคส. และอนุมัติจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าไปถึงสองพันล้านบาท โดยมิชอบตามกระบวนการของกฎหมายและระเบียบ
นายเกรียงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดความไม่ชอบมาพากลกับกรณีจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเองก็ได้มารับช่วงดำรงตำแหน่งต่อเมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ก็ได้ดำเนินการวิเคราะห์งบประมาณ พบว่ามีเงินในคลังหายไปกว่า 2 พันล้านบาท จึงเร่งตรวจสอบจนพบว่า ในสมัยที่ พ.ต.อ. รุ่งโรจน์ ดำรงตำแหน่งเป็นรักษาราชการแทน ผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า ได้มีการทำสัญญาซื้อถุงมือยาง กับบริษัท การ์เดี้ยน โกลฟ์ จำกัด จำนวน 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท โดยพบพิรุธ 3 กรณีคือ การจัดซื้อจัดจ้างไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ อคส. และไม่มีการจัดประกวดราคาให้บริษัทเอกชนรายอื่นเจ้าร่วมประมูล อีกทั้งผู้อำนวยการหรือรักษาการผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า มีอำนาจอนุมัติเงินจัดซื้อจัดจ้างได้เพียง 25 ล้านบาทเท่านั้น
จากการตรวจสอบ ยังพบว่ามีการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับบริษัทดังกล่าว เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา และมีการจ่ายเงินงวดแรก จำนวนกว่า 2 พันล้านบาท ไปเมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา จากนั้นจึงมีคำสั่งให้ระงับโครง การไปแล้ว หลังพบความไม่ชอบมาพากล พร้อมกับแจ้ง ปปง.ให้อายัดบัญชี บริษัทผู้ค้า
จึงมายื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นการใช้งบประมาณจำนวนมากอย่างไม่ถูกต้อง โดยในสัปดาห์หน้าจะไปยื่นเรื่องต่อ ปปช. เพื่อตรวจสอบความผิดของอดีตรักษาราชการแทน ผู้อำนวยการการองค์การคลังสินค้า มาตรา 157 เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ
ด้านอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า จะรวบรวมข้อมูลกรณีที่เกิดขึ้นไปพิจารณาว่าจะเข้าหลักเกณฑ์ที่จะเสนอให้คณะกรรมคดีพิเศษพิจารณารับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ต่อไป ซึ่งจะพยายามเร่งตรวจสอบให้มีความแน่ชัดโดยเร็ว
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน