“บิ๊กต๊ะ” และ “รองโฆษก ตร.” เผยใช้กฎหมายดูแลผู้ชุมนุมอย่างเรียบร้อยปลอดภัย ระวังมือที่สาม พร้อมใช้แผน “ชุมนุม 63 จัดการ” หากเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม
วันที่ 19 ก.ย.63 เวลา 15.00 น.ณ ลานแถลงข่าว ชั้น1 อาคาร บช.น. : พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมกันแถลงข่าว ความคืบหน้ามาตรการในการดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย กรณีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ ระหว่างวันที่ 19-20 ก.ย.63
พ.ต.อ.กฤษณะฯ กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปฎิบัติหน้าที่ร่วมกับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องได้ขับเคลื่อนในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยไว้ โดยยึดหลักกฎหมาย ใช้ความอดทน อดกลั้น ซึ่งได้รับนโยบายโดยตรงจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงกลาโหม ซึ่งได้เน้นให้ตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างละมุนละม่อม และจะต้องดำเนินการให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยปลอดภัยมากที่สุด ไม่ให้มีการแทรกแซงจากมือที่สามได้
รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า หากผู้ชุมนุมมีการเดินเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการประกาศเพื่อทำการประชาสัมพันธ์และใช้วิธีการตาม “แผนชุมนุม 63” ยืนยันว่าไม่ใช่แผนจัดการกลุ่มชุมนุม แต่เป็นการนำข้อผิดพลาดและบทเรียนเก่าๆ รวมถึงข้อกฎหมาย พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ มาถอดบทเรียน เพื่อปรับปรุงแผน สำหรับความแตกต่างของแผนการชุมนุมกรกฎ 52 กับ การชุมนุมปี 63 ในเรื่องการชุมนุม ตามหลักของกฎหมายที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของกราชุมนุมในที่สาธารณะปี 2558 ประกอบกับมติ ครม. ว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ
นอกจากนี้แล้วเรายังได้ถอดบทเรียนที่เกี่ยวข้องในส่วนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องออกมา ว่ามีขั้นตอนอะไรบ้างตามที่บอกไปแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอน เพราะว่าในแผนการชุมนุมกรกฎ 52 เดิมมันอาจจะมุ่งในเรื่องของการใช้กำลัง แต่ว่าในเรื่องของการใช้กำลังนั้นก็ยังมีอยู่ แต่จะเป็นการใช้กำลังตามความจำเป็น ตามสถานการณ์ไม่ใช้เรื่องที่จะเป็นกฎการใช้กำลังอย่างเดียว ทั้งนี้แผนของการชุมนุมปี 63 มีความสมบูรณ์มากขึ้น มีความรัดกุมมากขึ้นได้มาตรฐานสากลมากขึ้น และเป็นไปตามกฎหมายที่มีการเปลี่ยนไป ทางด้าน พล.ต.ต.ปิยะฯ กล่าวว่า บช.น. ได้แบ่งพื้นที่เป็น 3 โซน คือ
- บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และพื้นที่โดยรอบสนามหลวง ถนนราชดำเนินใน แยกสะพานผ่านพิภพ มี พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 เป็นผู้รับผิดชอบ
- บริเวณถนนราชดำเนินกลาง ตั้งแต่สะพานผ่านพิภพ จนถึงแยก จปร. มี พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง ผบก.น.1 เป็นผู้รับผิดชอบ
- ถนนราชดำเนินกลาง ตั้งแต่แยก จปร. สะพานมัฆวานรังสรรค์ ไปจนถึงถนนราชดำเนินนอก
โดยมี พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.อคฝ. เป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งนี้จะมีการตั้งจุดคัดกรองโควิด-19 จำนวน 4 จุด คือ จุดที่ 1-2 บริเวณประตูทางเข้า ม.ธรรมศาสตร์, จุดที่ 3 ประตูถนนท่าพระจันทร์, จุดที่ 4 ถนนพระอาทิตย์ เผื่อเป็นการคัดกรองและเฝ้าระวังการแพทยระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาอีกด้วย
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน