“สันธนะ”ซุ่มเงียบร้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ เอาผิด ”บิ๊กแป๊ะ” ฐานละเว้นปฎิบัติหน้าที่มิชอบ ปมตั้ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ เป็นผบ.ตร.ศาลฯนัดฟังคำสั่ง 5 ต.ค.นี้
วันที่ 21 ก.ย.63 เวลา 15.40 น. มีรายงานว่า นาย สันธนะ ประยูรรัตน์ ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต่อ ศาลอาญาคดีทุจริต และ ประพฤติมิชอบกลาง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.148/2563 ข้อหาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 157
นายสันธนะฯ เปิดเผยว่า มูลคดีสืบเนื่องจากมีหลักฐานว่าเมื่อระหว่างปี 2544-2547 พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข สมัยดำรงตำแหน่งผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 7 ซึ่งมีเงินเดือนเพียง 30,000 บาทเศษ แต่มีเงินเข้าออกบัญชีเงินฝากธนาคาร จำนวนกว่า 13 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้มานอกเหนือจากเงินเดือนปกติของข้าราชการตำรวจ โดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฏหมาย สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ จึงเป็นการร่ำรวยผิดปกติตามมาตรา4แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
ทั้งนี้ นาย สันธนะฯ ได้เคยยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อเลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตามเลขรับที่ 19822 ลงวันที่ 26 กรกฏาคม พ.ศ.2562 แล้ว ต่อมาวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2563 นายสันธนะฯ ได้ยื่นเอกสารต่อนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ และ ประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ กรรมการ และเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีหน้าที่ต้องออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงและสอบสวนทางวินัยกับ พล.ต.อ. สุวัฒน์ฯ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทันที ต้องจัดเตรียมข้อมูลประกอบการพิจารณาคัดเลือก เสนอชื่อข้าราชการตำรวจเพื่อดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ แต่ได้บังอาจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ออกคำสั่งดังกล่าว และไม่นำหนังสือร้องคัดค้านของนายสันธนะฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและเร่งด่วนที่สุด บรรจุเข้าในวาระประชุมของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติโดยช่วยเหลือและปกปิด ทำให้ที่ประชุมลงมติแต่งตั้งพล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
พฤติการและการกระทำนี้ ส่งผลกระทบและความเชื่อมั่นของประชาชน เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ในการอำนวยความยุติธรรม กระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเหตุให้ราชการเสียหายเป็นการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการตำรวจซึ่งไม่เหมาะสม โดยไม่คำนึงถึงความอาวุโสประวัติการรับราชการ ผลการปฏิบัติงาน ความประพฤติประกอบตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 จึงเป็นความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คดีนี้ศาลนัดฟังคำสั่ง หรือคำพิพากษาในวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 09.30 น.
มีรายงานว่า วันเดียวกันนี้ (5 ตุลาคม 2563) ศาลอาญาคดีทุจริตฯ นัดฟังคำสั่งชั้นตรวจฟ้อง คดีที่พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 8 นายตำรวจ คณะสอบข้อเท็จจริงคลิปเสียงสนทนา ”บิ๊กแป๊ะ” หลังทำความเห็นมีมูลวินัยร้ายแรง เช่นเดียวกัน
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน