สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากบริเวณชายแดนจันทบุรี ยังไม่คลี่คลาย มวลน้ำจากเขาสอยดาว และเขาตาง็อกลงมาสมทบทำให้จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลมปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น และพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ถูกน้ำป่าพัดจมหายในขณะที่ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน
ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรีน้ำป่าที่ไหลหลากตั้งแต่เมื่อวานยังมีผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ริมคลองด่าน มวลน้ำจากคลองตาดำคลองซับตารี คลองเหม็น เขาตาง็อก และคลองตาราง ได้ไหลมาสมทบน้ำจากคลองสำโรงคลองทุ่งกร่าง กล้องพังงอนส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลมมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นและไหลเชี่ยวกราก การระบายน้ำรอบนี้ค่อนข้างล่าช้า เนื่องจากพื้นที่ปลายน้ำซึ่งอยู่ในประเทศกัมพูชามีฝนตกปริมาณน้ำสะสมมากเช่นกัน จึงทำให้น้ำไหลลงไปโตนเลสาปล่าช้าไปด้วย
จังหวัดจันทบุรีได้บูรณาการหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เร่งให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งมีการขนย้ายสินค้าของร้านค้าภายในตลาดบ้านแหลมกว่า 200 ร้านค้าไปยังพื้นที่ปลอดภัย นำรถฉุดลากรถยนต์ที่ตกค้างในลานจอดรถ เนื่องจากขนย้ายไม่ทันประมาณ 30 กว่าคัน รวมทั้งอพยพประชาชนกลุ่มเปราะบางประมาณ 80 ครัวเรือนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราววัดบ้านแหลมและศาลาเอนกประสงค์ประจำหมู่บ้าน พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้า โดยอำเภอโป่งน้ำร้อนและเทศบาลตำบลเทพนิมิต
พร้อมทั้งรับแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์ของผู้ประสบภัยซึ่งเบื้องต้นมีผู้ประสบภัยในพื้นที่ทรายแดนบ้านแหลมมาแจ้งข้อมูลไว้ประมาณ 80 ครัวเรือนร้านค้าประมาณกว่า 200 ร้านค้า ประชาชน 320 คน มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นเฉพาะที่ตลาดบ้านแหลมประมาณ 5 ล้านบาท ส่วนพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก เบื้องต้นมีรายงานรวม 3 อำเภอ คือ สอยดาว, โป่ง น้ำร้อน, และ อ.เขาคิชฌกูฏ รวม 9 ตำบล ขณะที่มีรายงานพบผู้เสียชีวิต 1 ราย จากการถูกกระแสน้ำป่าพัดจมน้ำ ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านบริเวณบ้านทุ่งม่วง หมู่ 7 ต.ทับไทร เจ้าหน้าที่พบศพและญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว
ด้านนายสุธีทองแย้มผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย นางสุนิชฌาน์ ทองแย้ม ประธานแม่บ้านมหาดไทย จังหวัดจันทบุรีได้ลงพื้นที่เยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และรับทราบปัญหาอุปสรรค ปภ.เขต 17 ได้นำรถครัวเคลื่อนที่พระราชทานมาปรุงอาหารแจกผู้ประสบภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ทั้งนี้สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่บริเวณชายแดนจังหวัดจันทบุรีครั้งนี้ส่งผลกระทบเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำริมคลองของอำเภอสอยดาวและอำเภอโป่งน้ำ ร้อน แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสภาพการจราจรและชุมชนที่อยู่อาศัยมากนักและการแก้ไขปัญหาสถานการณ์นั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว คาดหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มสถานการณ์จะคลี่ คลายได้ในวัน สองวันนี้
อย่างไรก็ตามจังหวัดจันทบุรีได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีเฝ้าระวังสถานการณ์จากฝนตกหนักและผลกระทบจากพายุดีเปรสชันที่กำลังขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนาม รวมทั้งระวังสัตว์มีพิษ และห้ามบุตร –หลาน ลงเล่นน้ำในช่วงนี้
ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก