ตามนโยบายของรัฐบาล ให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากการแพร่ระบาดของยาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคาม และอาชญา กรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมในปัจจุบัน ได้สร้างผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด อย่างจริงจัง และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์, พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล
ทำการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ลักลอบผลิตและจำหน่ายยาเสพติด
โดยในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น, พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร, พล.ต.ต.พีระพงศ์วงษ์สมาน, พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย, พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ, พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น. เป็นผู้ควบคุมสั่งการ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ต. สมบูรณ์ เทียนขาว, พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี, พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิต, พ.ต.อ.วรวิทย์ ญาณจินดา รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.อัครพล โทยะ, พ.ต.ท. วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์, พ.ต.ท.สุทธิเดช โอฬาริ, พ.ต.ท.โชติช่วง รัศมี, พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร รอง ผกก.สายตรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สายตรวจ บก.สปพ. ทำการสืบสวนติด ตามจับกุม ผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดดังนี้
โดยร่วมกันจับกุม นายมงคลชัย หรือคิง (ขอสงวนนามสกุล) สัญชาติไทย อายุ 22 ปี,น ายสิทธิโชค หรือเบริด์ (ขอสงวนนามสกุล) สัญชาติไทย อายุ 21 ปี, นายพีรพัฒน์ หรือเชฟ (ขอสงวนนามสกุล) สัญชาติไทย อายุ 24 ปี พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 5,900,000 เม็ด, วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 (เคตามีน) น้ำหนักประมาณ 900 กรัม, วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 (ไนเมตาซีแพม) จำนวน 885 เม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อ GLOOK 17 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 9 มม. จำนวน 15 นัด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อ RAMBO จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนลูกซอง ยี่ห้อ TAMER จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนลูกซอง 12 จำนวน 10 นัด, รถยนต์ จำนวน 2 คัน, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ บริเวณบ้านเลขที่ 123/98 หมู่บ้านบางบัวทอง หมู่ 6 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และ บ้านเช่าเลขที่ 259/5 หมู่บ้านคุณาภัทร 7 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ต่อเนื่องกัน
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ผู้ต้องหาที่ 1,2 และ 3 ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ใน ครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาตร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (ไนเมตาซีแพม) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้ต้องหาที่ 1 มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ก่อนจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. ชุดจับกุม สืบสวนทราบว่ามีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่บริเวณ ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้า โดยเครือข่ายกลุ่มนี้มักเช่าบ้านหรูในหมู่บ้าน พื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ใช้ในการเก็บซุกซ่อนยาเสพติดเพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนจนทราบว่าเครือข่ายกลุ่มนี้ใด้เช่าบ้านเลขที่ 123/98 หมู่บ้านบางบัวทอง หมู่ 6 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อใช้เป็นที่เก็บซุกซ่อนยาเสพติด
จากนั้นจึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรม และสะกดรอยติดตามกลุ่มผู้ต้องหา พบว่าผู้ต้องหาได้ร่วมกันกับเครือข่ายลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าย่านจังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดอ่างทอง มาเป็นเวลาประมาณ 3 เดือน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 ต.ค.63 เวลา 03.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมมีหลักฐานเชื่อว่าภายในบ้านที่เกิดเหตุ ที่ผู้ต้องหาอาศัยอยู่มียาเสพติดซุกซ่อน จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย ได้พร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมาก พร้อมด้วยอาวุธปืนของผู้ต้องหาได้ ตามรายละเอียดข้างต้น
หากประชาชนท่านใด พบเห็น หรือมีเบาะแส เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติดหรือสิ่งของผิดกฎหมาย ผ่านทางโซเชียลมีเดีย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับ การสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือโทรศัพท์สายด่วน 191
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน