ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วง ใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยจากภัยธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดตรัง ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบเหตุอุทกภัยและผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดตรัง
วันนี้ 30 ตุลาคม 2563 เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ไปประชุมและติดตามสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดตรัง ณ ห้องประชุมโรงเรียนวิเชียรมาตุ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง
ต่อจากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1,000 ถุง ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยและผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดตรัง ณ หอประชุมโรงเรียนวิเชียรมาตุ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นและเป็นขวัญกำลังใจ
ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัย กับผู้ที่ได้รับผลกระทบรวมถึงเจ้าหน้าที่ ให้รับทราบ ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัย และผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง จำนวน 10 ครอบครัว ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งใน 9 อำเภอ ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน พร้อมทั้งพูดคุยสร้างขวัญกำลังใจ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้ตามปรกติสุขต่อไป ราษฎรต่างปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
จังหวัดตรัง ได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชันทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันระดับ 3 และพายุโซนร้อนหลิ่นฟา แผ่ปกคลุ่มพื้นที่ภาคใต้เมื่อวันที่ 11-12 ตุลาคม 2563 ส่งผลทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่องกันเป็นวงกว้างในพื้นที่จังหวัดตรัง เกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมฉับพลัน เข้าท่วมในพื้นที่ส่งผลให้พื้นที่ทางการเกษตร สิ่งสาธารณประโยชน์ และทรัพย์สินบ้านเรือนของราษฎรใน 9 อำเภอ 40 ตำบล 208 หมู่บ้าน ได้รับความเสียหาย ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง, อำเภอห้วยยอด, อำเภอกันตัง, อำเภอนาโยง, อำเภอย่านตาขาว, อำเภอปะเหลียน, อำเภอสิเกา, อำเภอวังวิเศษ และอำเภอหาดสำราญ ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ จำนวน 2,632 ครัวเรือน และเสียชีวิต 1 ราย ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายสู่ภาวะปกติแล้ว โดยหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน มูลนิธิ องค์กร และจิตอาสาพระราชทาน ได้ระดมเข้าให้ความช่วยเหลือ และเยียวยาเพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ต่อไป