ข่าวใหม่อัพเดท » “ปอศ.ร่วมกับ ศุลกากรฯ” สกัดจับบุหรี่เถื่อน ล็อตใหญ่มูลค่าพันกว่าล้านบาท

“ปอศ.ร่วมกับ ศุลกากรฯ” สกัดจับบุหรี่เถื่อน ล็อตใหญ่มูลค่าพันกว่าล้านบาท

10 พฤศจิกายน 2020
0

“ปอศ.ร่วมกับ ศุลกากรฯ” สกัดจับบุหรี่เถื่อน ล็อตใหญ่มูลค่าพันกว่าล้านบาท

วันที่ 9 พ.ย.63 ที่ด่านศุลกาการสงขลา : พ.ต.อ.ศราวุฒิ ลิจฉวีราช ผกก.7 บก.รน. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไวยวิทย์ นพรัตน์ ผกก.สภ.สิงหนคร,พ.ต.ท.วินัย อ้นทนิกูล รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.ปอศ.,นายไตรทิพย์ เหลินเรือง ผอ.ส่วนควบคุมด่านศุลกากรสงขลา และนายสุชาญ เทพไชย เจ้าพนักงานด่านศุลกากรท่าเรือสงขลา นำหมายค้น ของศาลอาญาจังหวัดสงขลา ที่ 111/2563 ลงวันที่ 7 พ.ย.63 เข้าตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์หมายเลข GLDU 7120035 จำนวน 12 ตู้ ที่ท่าเรือศุลกากรสงขลา จ.สงขลา

ตัวแทนลิขสิทธิ์ ผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท รีดอน โทแบคโค อินเตอร์เนชั่นแนล พีทีบี แอลทีดี จำกัดกล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือต่อผู้อำนวยการ สำนักงานศุลกากร ด่านศุลกากร กองสืบ สวนและปราบปราม จังหวัดสงขลา เพื่อขอตรวจสอบสินค้านำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามที่ได้รับแจ้งจากสำนักงานศุลกากรด่านศุลกากร กองสืบสวนและปราบปราม จังหวัดสงขลา โดยบริษัท อนันดา อินเทลเวดชาล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เพื่อตรวจสอบสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศฯเครื่องหมาย การค้า ซึ่งมีหลักฐานว่าสินค้า ตามตู้คอนเทนเนอร์ ที่นำเข้ามาหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร โดยเรือ Xuan Hieu Cruup. 298 เมื่อวันที่ 17 ต.ค.63 จำนวน 12 ตู้ ที่นำเข้า หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร

นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการราคาผ่อนภาคที่ 4 กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว ได้มีบริษัทแห่งหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ยื่นคำร้อง ขอคัดค้าน ต่อสำนักงานศุลกากรภาค 4 โดยให้เหตุผลว่า บริษัทผู้ยื่น หนังสือมอบอํานาจ เพื่อขอตรวจสอบ เป็นหนังสือมอบอำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่มีต้นฉบับเอกสารรับรองในตาลีพลับปลิก จากกระทรวงการต่างประเทศ และ ต้องการให้ ทางบริษัทผู้ยื่น ขอตรวจสอบการวางเงินประกัน ความเสียหาย สินค้า จำนวนหนึ่ง ของสินค้าจำนวน 12 ตู้ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการตามข้อตกลงทั้งสองฝ่าย

ด้านตัวแทน เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาฯ เครื่องหมายการค้า บริษัท รีดอน โทแบคโค อินเตอร์เนชั่นแนล พีทีบี แอลทีดี จำกัด ได้ส่งผู้รับมอบอำนาจมาร่วมตรวจสอบครั้งนี้ กล่าวต่ออีกว่า บริษัทฯ ได้เดินทางมา พบ ผู้อำนวยการกรมศุลกากรภาค 4 เพื่อขอตรวจสอบสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 12 ตู้ ถึง 3 ครั้งด้วยกัน แต่ยังไม่มีการ อนุญาตให้เปิดตู้เพื่อทำการตรวจสอบ ถึงแม้ว่าจะมีการเชิญหน่วยงาน ของเจ้าหน้าที่รัฐ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ (รน.),เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามทางเทคโนโลยี เศรษฐกิจ (ปอศ.)เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิงหนคร,เจ้าหน้าที่ สรรพสามิต และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง มาร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตู้ ทุกครั้งที่เดินทางมา แต่ก็ ไม่ได้รับอนุญาต ให้เปิดตู้ เพื่อที่จะทำการตรวจสอบสินค้าดังกล่าว ทำให้เวลาล่วงเลยมา หลายสัปดาห์

สำหรับบุหรี่ที่ถูกยึดได้ดังกล่าว จำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ มีบุหรี่อยู่ จำนวน 10,900 ลัง 1 ลังมี 50 แถว 1 แถว มี 10 ซอง 1 ซอง มี 20 มวน ทั้งหมด 12 ตู้ รวม 10,900,000 มวน/ต่อตู้ รวมทั้ง 12 ตู้ จะมีบุหรี่ทั้งหมด 138,000,000 มวน ซึ่งทำให้รัฐสูญเสียรายได้เป็นอย่างมาก การจับกุมครั้งนี้เพื่อป้องกันสินค้าส่งต่อสู่มือผู้บริโภค ทำให้เกิดความเสียหาย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะทำการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ลักลอบกระทำความผิด

โดยกล่าวหาว่า กระทำผิดฐาน “ร่วมกันนำของเข้าเพื่อการถ่ายลำโดยหลีกเลี่ยงข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น (สินค้าที่มีครื่องหมายการค้าปลอมหรือเลียนเครื่องหมายการ ค้าของผู้อื่น) และหรือ ร่วมกันสั่งการ หรือการกระทำของกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบใน การดำเนินงานของนิติบุคคลนั้น หรือในกรณีที่บุคคลดังกล่าว มีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทำการและละเว้น ไม่สั่งการหรือไม่กระทำการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น รวมทั้งกระทำความผิด,ร่วมกันมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีครื่องหมายการค้าปลอมหรือเลียนเครื่อง หมายการค้าของผู้อื่น ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 108-มาตรา 110 ตามมาตรา 102 ประกอบประกาศกรมศุลกากร ที่ 1402560 มาตรา 202 มาตรา 244,มาตรา 253 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ประกอบมาตรา 51 มาตรา 7/1 และมาตรา 20/1 แห่งพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาไปราชอาณาจักร ซึ่งสินค้า พ.ศ.2522 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามา ไปราชอาณาจักรซึ่งสินค้า (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2558 ประกอบประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง สินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ.2559”

ทางด้านผู้เสียหายได้กล่าวชื่นชม เจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงานที่ร่วมจับกุม ว่า ทำงานตามหน้าที่ อย่างตรงไปตรงมา อย่างดีเยี่ยม ภายใต้ความกดดันของกลุ่มนายทุนผู้มีอิทธิพล เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ และ คุ้มครองผู้บริโภค ให้ได้รับความยุติธรรม รวมทั้งปกป้อง คุ้มครองการละเมิดตราสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยอีกด้วย

สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน

error: Content is protected !!