ข่าวใหม่อัพเดท » นครพนม รวบสาวลาววัยเอ๊าะ 4 คน ลอบเข้าไทยไปเป็นสาวเสิร์ฟ พร้อมคนไทยผู้นำพาอีก 2 คน หลังปิดพรมแดนมุดเข้าช่องทางธรรมชาติ

นครพนม รวบสาวลาววัยเอ๊าะ 4 คน ลอบเข้าไทยไปเป็นสาวเสิร์ฟ พร้อมคนไทยผู้นำพาอีก 2 คน หลังปิดพรมแดนมุดเข้าช่องทางธรรมชาติ

14 พฤศจิกายน 2020
0

นครพนม – รวบสาวลาววัยเอ๊าะ 4 คน ลอบเข้าไทยไปเป็นสาวเสิร์ฟ พร้อมคนไทยผู้นำพาอีก 2 คน หลังปิดพรมแดนมุดเข้าช่องทางธรรมชาติ

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 เวลา 14.30 น. บริเวณหน้ากองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 236 (ตชด.236) เขตเทศบาลเมืองนครพนม พ.ต.ท.ชิษณุพงษ์ ทองเกื้อ ผบ.ร้อย ตชด.236 แถลงข่าวการจับกุมบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองจำนวน 4 คน และคนไทยผู้นำพาอีก 2 คน พร้อมรถยนต์จำนวน 2 คัน โดยภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 พ.ต.ท.ธนพล ท้าวหนู รอง ผกก.ตชด.23 โดยบูรณาการร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม (ตม.ฯ) ตำรวจน้ำ กอ.รมน.ฯ นครพนม และฝ่ายปกครอง

สืบเนื่องจากประมาณเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นายรักชัย พรมชัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม พบเห็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า แค๊บ สีเขียว ทะเบียน บค 2070 นครพนม ซึ่งไม่ใช่รถยนต์ในพื้นที่ ขับเข้ามาจอดอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขงนานผิดสังเกต จากนั้นก็ขับออกไปโดยเหมือนมีคนนั่งอยู่เต็มห้องโดยสารแค๊บ ไม่กี่วันรถยนต์คันดังกล่าวก็ขับเข้ามาอีก จึงเริ่มสงสัยว่าน่าจะเข้ามานำสิ่งผิดกฎหมายออกไปด้วย จึงไปปรึกษากับนายศักดา บุณนะวงษ์ กำนันตำบลขามเฒ่า และแจ้งไปยัง ร.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ แสงสา รอง ผบ. ร้อย ตชด.236 หัวหน้าชุดปฏิบัติการ บูรณาการลาดตระเวนร่วมกับฝ่ายความมั่นคง

กระทั่งเช้าวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 มีเรือหางยาวแล่นมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจอดเทียบท่าบ้านขามเฒ่าหมู่ที่ 1 โดยมีหนุ่มสาววัยรุ่นจำนวน 4 คน เดินลงจากเรือขึ้นมาที่ริมฝั่ง จากนั้นเรือลำดังกล่าวก็ขับกลับไป ไม่นานรถยนต์กระบะทราบชื่อคนขับภายหลังว่านายส่วน น้อยภูธร อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 125 หลังวัดศรีเทพประดิษฐาราม ถนนราชวงศ์ เขตเทศบาลเมืองนครพนม รถยนต์เข้ามาจอดรับบุคคลทั้งสี่ขึ้นนั่งในแค๊บ แล้วรีบขับออกไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มอยู่จึงแสดงตัวขอตรวจค้นภายในรถ พบคนลาวจำนวน 4 คน ทราบต่อมาว่าชื่อ

  1. นายนา พมมะจัน อายุ 23 ปี
  2. นางกอง บุนทะวี อายุ 20 ปี
  3. นางสอน บุนดี อายุ 22 ปี
  4. นางสอน ไชวงสา อายุ 22 ปี

ทั้งหมดอาศัยอยู่บ้านท่ง เมืองนากาย แขวงคำม่วน สปป.ลาว จึงนำตัวทั้งหมดไปสอบสวนขยายผลที่กองร้อย ตชด.236

นายส่วนรับสารภาพว่าทำหน้าที่ขับรถยนต์รับชาวลาวบริเวณดังกล่าวประมาณ 4 ครั้ง โดยมีนายหน้าชาวลาวเป็นผู้ติดต่อให้มารับ ได้ค่าขนส่งรายละ 500 บาท ซึ่งจะนำไปขึ้นรถตู้โดย สารไม่ประจำทางอีกทอด ชุดจับกุมจึงให้นายส่วนผู้ต้องหาโทรศัพท์หารถตู้ร่วมขบวนการ ปลายสายสั่งให้นายส่วนไปส่งที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. เขตอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 25 กม. เจ้าหน้าที่จึงวางแผนซ้อนแผนให้นายส่วนขับรถยนต์นำชาวลาวทั้ง 4 คน ไปส่งตามจุดนัดหมาย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งประกบข้างไปด้วย และมีรถของชุดปฏิบัติการขับไปรออยู่ที่ป๊มน้ำมัน ปตท.แล้ว พบรถตู้สีขาวต้องสงสัยยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ฮภ 2003 กทม. จอดอยู่หน้าห้องน้ำ พอรถยนต์ของนายส่วนมาจอดเทียบ คนขับรถตู้ก็รีบเปิดประตูให้ชาวลาวขึ้นไปนั่ง แล้วปิดประตูเตรียมออกรถ เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมทราบชื่อคนขับว่านายชาญวิทย์ นามม่วง อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 หมู่ 8 ต.อากาศ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ซึ่งผู้ต้องหายอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

สอบสวนชาวลาวเบื้องต้นทราบว่า มีนายหน้ามาติดต่อให้ไปทำงานที่ประเทศไทย เป็นพนัก งานเสิร์ฟอยู่ร้านอาหารใน กทม. เพราะมีรายได้ดี โดยจะต้องเสียค่าหัวจ้างเรือข้ามมาส่งรายละ 2,000 บาท เมื่อไปถึงจุดหมายปลายทางจะต้องจ่ายเพิ่มอีกคนละ 2,500 บาท เห็นเพื่อน ลักลอบเข้าไปทำงานแล้วส่งเงินกลับบ้านสม่ำเสมอ จึงชักชวนกันไปดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาคนไทยทั้งสอง ร่วมกันนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎ หมาย ส่วนชาวลาวทั้ง 4 คน เป็นคนต่างด้าว(ลาว)เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน 2 สภ. คือ สภ.เมืองนครพนม และ สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.ท.ชิษณุพงษ์ ทองเกื้อ ผบ.ร้อย ตชด.236 กล่าวว่า ช่วงนี้ทางฝั่งประเทศลาวและไทยปิดพรมแดน เนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ทำให้คนต่างด้าวข้ามฝั่งในช่องทางปกติไม่ได้ จึงหันลักลอบเข้าช่องทางธรรมชาติ โดยหน่วยงานความมั่นคงจะมีการบูรณาการร่วมกันลาดตระเวนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งชาวลาวทั้ง 4 คน จะถูกผลักดันกลับประเทศและติดแบล็คลิสการเข้าราชอาณาจักรอีกด้วย


เทพพนม รายงาน

error: Content is protected !!