ข่าวใหม่อัพเดท » นรข.นครพนม รวบ 3 ชาวลาวแอบลักลอบเข้าเมือง ยอมรับอยู่บ้านเกิดไม่มีรายได้ ซ้อนแผนวางกระเป๋าลวงนายจ้างมาหยิบ สองผัวเมียหลงกลถูกจับคาหลักฐาน

นรข.นครพนม รวบ 3 ชาวลาวแอบลักลอบเข้าเมือง ยอมรับอยู่บ้านเกิดไม่มีรายได้ ซ้อนแผนวางกระเป๋าลวงนายจ้างมาหยิบ สองผัวเมียหลงกลถูกจับคาหลักฐาน

25 พฤศจิกายน 2020
0

นครพนม – นรข.รวบ 3 ชาวลาวแอบลักลอบเข้าเมือง ยอมรับอยู่บ้านเกิดไม่มีรายได้ ซ้อนแผนวางกระเป๋าลวงนายจ้างมาหยิบ สองผัวเมียหลงกลถูกจับคาหลักฐาน

          วันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 เวลา 14.00 น. น.อ.สุรศักดิ์ สุวรรณเกษา ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม ร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองฯ(ตม.นครพนม) ตชด.236 ตำรวจน้ำ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี(กกล.ฯ) ตำรวจภูธร แถลงข่าวการจับกุมแรงงานชาวลาว จำนวน 3 คน และนายจ้างที่เป็นคนไทยอีก 2 คน โดยจับกุมได้บริเวณทางลงริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านบัว ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม

          สืบเนื่องจากวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หน่วยงานความมั่นคงร่วมบูรณาการลาดตระเวนดูแลความสงบและปลอดภัยริมฝั่งแม่น้ำโขง ก็ได้รับการแจ้งจากแหล่งข่าวว่า จะมีการลัก ลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย พิกัดบริเวณทางลงริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านบัว ต.ดงขวาง จึงวางกำลังเฝ้าตรวจระวังพื้นที่ดังกล่าว กระทั่งเวล่าประมาณ 20.00 น. ตรวจพบเรือกีบ(เรือหาปลา) ติดเครื่องยนต์ 1 ลำ แล่นตัดลำน้ำโขงจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน มาจอดเทียบท่าฝั่งไทยบริเวณดังกล่าว โดยมีชายฉกรรจ์ 3 คน ก้าวลงจากเรือพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า จากนั้นเรือกีบก็แล่นกลับไปยังฝั่งประเทศลาวอย่างรวดเร็ว ชุดลาดตระเวนจึงออกจากที่ซ่อน ขอตรวจค้นชายทั้ง 3 คน ปรากฏว่าทั้งหมดอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีโดยทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ ตรวจสอบภายในกระเป๋ามีแต่เสื้อผ้าโดยไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าชายที่วิ่งหนี น่าจะเป็นคนขายแรงงานที่ลักลอบเข้าเมือง และน่าจะมีนายหน้ามารับไปทำงาน จึงวางกระเป๋าเสื้อทิ้งไว้เป็นสัญลักษณ์ โดยวางกำลังซุ่มดูอยู่ใกล้ๆ

          กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 25 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 07.00 น. พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 1 ฒธ 9389 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดบริเวณที่เจ้าหน้าที่วางกระเป๋าเสื้อ ผ้าไว้ มีชายคนขับเดินลงไปริมแม่น้ำโขง แล้วกลับมาหยิบกระเป๋าขึ้นกระบะท้าย เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุม ทราบว่าชื่อนายวิทวัฒน์ มาตแก้ว อายุ 23 ปี และมีคนร่วมทางมาด้วยชื่อ น.ส. ธนาภรณ์ นะคะจัด อายุ 21 ปี ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน ยอมรับว่าเป็นผู้ที่จะมารับชายชาวลาวจริง ขณะที่ชายทั้งสามที่วิ่งหลบหนีตั้งแต่ตอนกลางคืนทนหิวไม่ไหว จึงเดินออกจากป่าเข้ามอบตัว ทราบชื่อภายหลังว่า นายเงินตรา ดอกมาลัย อายุ 28 ปี, นายบุญล้ำ ดอกมาลัย อายุ 27 ปี, และนายบุญปอน ทานะสุก อายุ 20 ปี ทั้งหมดเป็นคนสัญชาติลาว อยู่บ้านโนนเต้ เมืองหนองบก แขวงคำม่วน สปป.ลาว จึงนำตัวไปสอบสวนที่ สน.เรือนครพนม

          นายวิทวัฒน์ผู้ต้องหาสารภาพว่า ทำงานเป็นผู้รับเหมาติดตั้งท่อประปาในอาคารสูง ส่วนชาวลาวทั้งสามเดิมเป็นลูกน้องเก่า หลังเจอพิษโควิด ทั้งหมดจึงเดินทางกลับประเทศ กระทั้งโควิดซาจึงโทรติดต่อนายจ้างว่า ทางฝั่งบ้านโนนเต้ไม่มีงานทำ อยากกลับมาทำงานที่ฝั่งไทย นายวิทวัฒน์จึงนัดแนะให้ว่าจ้างเรือหาปลามาส่งที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านบัว ต.ดงขวาง แล้วตอนเช้าจะขับรถยนต์มารับ โดยตั้งใจจะพาทั้งสามคนไปทำงานติดตั้งท่อน้ำประปาที่จังหวัดอุดรฯ แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน และไม่คิดว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ซ้อนแผนวางกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ให้ตัวเองมาติดกับ

          เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาชายชาวลาวทั้ง 3 คน เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้าและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดนครพนม ที่ 759/2563 เรื่องห้ามบุคคลต่างด้าวเข้ามาในเขตจังหวัดนครพนม และแจ้งข้อหาสองคนผัวเมียว่า รู้เป็นคนต่างด้าวช่วยเหลือซ่อนเร้นด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม ส่งตัวให้พนักงานสอบ สวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          อนึ่ง ในช่วงโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาด ทางการไทยและลาวได้ปิดพรมแดน ห้ามบุคคลข้ามไปมาจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ครั้งนั้นมีชาวลาวที่ทำงานอยู่พื้นที่ชั้นในและตามแนวชายแดน ต่างขนข้าวของกลับประเทศของตน แต่ภายหลังการทำมาหากินรายได้ไม่เหมือนอยู่ฝั่งไทย จึงจึงอยากกลับมาทำงานกับนาย จ้างเก่า แต่เพราะด่านพรมแดนยังไม่เปิดจึงลักลอบเข้ามาโดยผิดกฎหมาย และถูกจับกุมดังกล่าว


เทพพนม รายงาน

error: Content is protected !!